stadium

“วอริกซ์” กับแทคติกบุกตลาดเอเชียด้วย “ช้างศึก”

5 กันยายน 2563

#ChangsuekOutField 

 

เกือบ 4 ปี ที่เราได้เห็นชุดของนักฟุตบอลทีมชาติไทยภายใต้ผู้ผลิตชุดแข่งขันแบรนด์ “วอริกซ์” (Warrix) ด้วยดีไซน์ที่สวยงามรวมถึงคุณภาพระดับสูงเทียบเท่ากับแบรนด์ดังของโลก ทำให้การเติบโตของ “วอริกซ์” ตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่คู่กับทัพช้างศึกเป็นไปอย่างรวดเร็ว และขยายตลาดสู่ระดับเอเชียไปบ้างแล้ว โดยมีชุดของ “ช้างศึก” เป็นผลงานชูโรงแก่สายตาชาวเอเชีย ซึ่งวันนี้ Ice Assist ได้โอกาสพูดคุยแบบ Exclusive กับแม่ทัพใหญ่ของ “วอริกซ์” คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กับแทคติกการบุกตลาดเอเชียด้วย “ช้างศึก”

 

เกือบ 4 ปีกับการเป็นผู้สนับสนุนชุดทีมชาติไทย ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับรสนิยมฟุตบอลของคนไทยบ้าง

 

ที่ผ่านมาพบว่าแฟนบอลทีมชาติไทยเปิดกว้างในการรับสิ่งใหม่ๆขึ้นเยอะ ต้องบอกว่าสิ่งที่วอริกซ์ทำคือการสร้างคอนเซ็ปต์ของชุดทีมชาติที่ฉีกไปจากเดิมเยอะ เราก็เห็นว่าแฟนบอลมีหลายกลุ่ม ช่วงปีแรกเรากล้าๆกลัวๆในการออกแบบ ซึ่งเราก็ฉีกไปเยอะเหมือนกัน แต่ผลตอบรับก็ดีมาก พอปีที่ 2-3 เราก็มีคอนเซ็ปต์ใหม่ แน่นอนว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ มันว่ากันไม่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่พบจริงๆคือช่วงปีที่ 3-4 เสียงค่อนข้างเป็นบวกมาก คือพบว่าแฟนบอลเปิดรับคอนเซ็ปต์ใหม่ๆที่เราก้าวทันโลกมากขึ้น ผมคิดว่ารสนิยมของแฟนบอลไทยมีการเปลี่ยนแปลงจากสมัยก่อนซึ่งตอนนี้ไม่แพ้ในระดับสากลเลย

 

เป็นผู้สนับสนุนชุดทีมชาติไทย ส่งผลดีอย่างไร ต่อการบุกตลาดเอเชีย

 

แน่นอนว่าการทำเสื้อระดับทีมชาติมันทำให้เกิดการรับรู้ของแบรนด์ในระดับภูมิภาค โอกาสนำเสนอตัวเป็นผู้สนับสนุนประเทศเพื่อนบ้านหรือลีกในประเทศอื่นง่ายขึ้น อย่างตอนปีที่ 2 ที่สนับสนุนทีมชาติไทย เราก็ได้เจรจากับประเทศเมียนมา มันก็ง่ายขึ้นครับ หรือสโมสรในญี่ปุ่น (เจลีก 2) ที่เรากำลังจะเซ็นสัญญาก็รู้จักวอริกซ์จากทีมชาติไทย ได้เห็นคุณภาพเวลาเราไปเยือนหรือเขามาเยือนเรามันก็ทำให้การบุกตลาดเอเชียง่ายขึ้นจากการเป็นสปอนเซอร์ให้ทีมชาติไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด

 

“วอริกซ์” เป็นที่สุดหรือยังในไทย และความท้าทายในตลาดประเทศไทยเป็นอย่างไร

 

เราคงยังไม่เป็นที่สุดหรอกครับ ถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการ อายุแค่ 7 ปีเอง แต่ “วอริกซ์” มองหาช่องว่างทางการตลาดที่แตกต่างจากรุ่นพี่ๆที่เขาทำกันไว้ เราไม่ได้มองใครเป็นคู่แข่งทางตรง เราเลือกทำในสิ่งที่ต่างออกไปในมิติที่ไม่เคยมี เราพยามตอบโจทย์และแก้ปัญหาต่างๆของแฟนบอล ถ้าถามว่าสุดหรือยัง ? คงยังไม่ถึงที่สุดในแง่ของหลายๆมิติ แต่ในแง่ของเราเองเราทำอย่างสุดกำลังของเราอยู่แล้วครับ

 

ถ้าเปรียบวอริกซ์เป็นทีมชาติไทย คิดว่าอยู่ในระดับไหน

 

คงอยู่แค่ในระดับซูซูกิ คัพ เพราะตอนนี้เราเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค ภารกิจหลักคือต้องการมุ่งไปที่ตลาดอาเซียน 11 ประเทศ ซึ่งก็เป็นตลาดเดียวกันกับซูซูกิ คัพ คิดว่าต้องทำตลาดในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้ดีให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยก้าวต่อในระดับที่สูงขึ้น ส่วนที่อยากเข้าไปทำตลาดมากที่สุดก็คือที่อินโดนีเซีย ที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียนและเป็นอันดับ 4 ของโลก อินโดนีเซียมีเกาะมากมายทำให้การขนส่งสินค้าไม่ใช่เรื่องง่าย นี่ก็ถือเป็นเป้าหมายหลักที่วอริกซ์อยากจะบุกมากที่สุด เราก็เกือบทำได้แล้ว แต่มีปัญหาในเรื่องของความไม่แน่นอน ทั้งการเมืองรวมถึงวิถีทางในการทำฟุตบอล ซึ่งอาจจะแตกต่างจากไทย แต่เราก็ไม่ย่อท้อนะ ยังเดินหน้าต่อ ทำการตลาดออนไลน์ ทำเรื่องของการปูพรมเพื่อทำการตลาดต่อไปในประเทศอินโดนีเซีย

 

กลับมาที่เสื้อทีมชาติไทย กับกลยุทธ์ที่ทำให้กระแสเสื้อทีมชาติไทยยังดีต่อเนื่อง ในวันที่ผลงานของทีมชาติยังไม่เข้าตา

 

สิ่งหนึ่งที่ “วอริกซ์” พยายามทำการตลาดมาตลอดคือ “เสื้อทีมชาติไทยใส่ได้ทุกวัน” เราให้คุณภาพที่เทียบเท่ากับแบรนด์อันดับ 1-2 ของโลกเลย ที่ใส่ในฟุตบอลโลกหรือในลีกยุโรป สินค้าเรายังออกมาจากเครื่องจักรเดียวกัน โรงงานเดียวกันในราคาที่ถูกกว่ากันหลายเท่า อันนี้ก็ได้รับคำชมเชยมาจากลูกค้าระดับสากลไม่ใช่เฉพาะคนไทย เรายึดในเรื่องของคุณภาพและการตลาดที่ตอบโจทย์แฟนบอล ซึ่งคุณภาพเมื่อเทียบกับราคาแฟนบอลก็จะได้เสื้อที่มีคุณภาพดี และเราก็กล้าที่จะนำเสนอความเป็นไทยในแบบร่วมสมัย หรือรักษาเอกลักษณ์ไว้ แม้จะมีทั้งเสียงชมเสียงด่าก็ตาม มันก็ไม่ผิดที่จะมีคนชอบและไม่ชอบ แต่เรากล้าที่จะใช้ความเป็นไทยใส่เข้าไปในตัวเสื้อ

แคมเปญ Mission of Honor

 

จุดแข็งของทีมชาติไทยกับวอริกซ์ที่ตรงกัน

 

สิ่งแรกที่นึกออกเลยคือมีความทันสมัย มีความเป็นคนรุ่นใหม่ อย่างทีมชาติไทยยุคนี้เต็มไปด้วยน้องๆดาวรุ่งทั้งนั้น แถมเมื่อพวกเขาได้โอกาสพวกเขาก็สร้างผลงานได้ทันที ผมมองว่าวอริกซ์ก็ไม่ต่างจากน้องๆเด็กรุ่นใหม่ที่ขอเพียงแค่โอกาส และพอได้โอกาสก็คว้าไว้และสร้างผลงานทันที เหมือนกับเราที่พอได้โอกาสแป๊ปเดียวก็ 4 ปีแล้ว ซึ่งวอริกซ์เองก็สร้างผลงานได้แบบ เอกนิษฐ์ ปัญญา , ศุภชัย ใจเด็ด ผมจึงมองว่าสิ่งที่เหมือนกันระหว่างวอริกซ์กับทีมชาติไทยคงเป็นเรื่องของความเป็นคนรุ่นใหม่ที่กระหายในการสร้างผลงานที่ดีครับ

 

“วอริกซ์” จะมีส่วนอย่างไรกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในอนาคต

 

เราทำหน้าที่ในแง่ของเรื่องเสื้อผ้ากีฬามาตลอด ส่วนของอุปกรณ์ก็กำลังจะเริ่ม โดยกำลังเริ่มต้นในการสนับสนุนทัวร์นาเมนต์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นครั้งแรก อย่างเช่นในเรื่องของลูกฟุตบอล ผมก็คิดว่าเราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ก่อนหน้านี้มีแคมเปญที่เราเคยออกมาชื่อว่า “Mission of Hornor” เราทำให้เสื้อตัวนั้นทำหน้าที่ในการช่วยให้นักกีฬาแสดงศักยภาพของพวกเขาอย่างสูงที่สุด ซึ่งเราเองเป็นคนทำเสื้อตัวนั้นอย่างดีที่สุดก็ถือว่าเป็นภารกิจที่มีเกียรติเช่นกัน

 

ในแง่อื่นๆเราก็สนับสนุนนโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สนับสนุนในเรื่องของกีฬาเยาวชน สร้างโอกาสให้กับเด็กๆให้เข้ามามีส่วนในกีฬาฟุตบอล รวมถึงกีฬาฟุตบอลหรือฟุตซอลคนพิการ ซึ่งเราเองก็ให้การสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เข้ามาสู่ลีกอาชีพ อย่างเช่นทีมวายเอฟเอ ศรีราชา ที่มีคนหูหนวกครึ่งทีมเล่นกับคนปกติ แถมยังสร้างผลงานได้ดีด้วย ถือเป็นการสนับสนุนคนพิการให้มีส่วนร่วมในวงการฟุตบอลกับคนอื่นๆอย่างเท่าเทียมกัน เหมือนดั่งหัวใจหลักจองคำว่า “ฟุตบอลสร้างความเท่าเทียม”

วอริกซ์ ให้การสนับสนุนสโมสรฟุตซอล YFA WARRIX SRIRACHA FC
ขอบคุณภาพจาก Matichon Online

stadium

author

ICE Assist

Changsuek Content Creator

MAR 2024 KV