stadium

โค้ชบราซิลหัวใจไทย : ราฟาเอล มอนเตโร

31 สิงหาคม 2563


 

หากพูดถึงชาติที่บ้าบอลและมีความคลั่งไคล้ในเกมลูกหนังที่สุดในโลก ก็คงเป็นชาติไหนไม่ได้นอกจากบราซิล แน่นอนนักเตะของพวกเขาก็มีคุณภาพและได้รับความนิยมไปทั่วโลกเช่นกัน 

 

สถิติจากเว็บไซต์ FOOTBALL-OBSERVATORY ในปี 2020 ได้แสดงให้เห็นว่าบราซิลเป็นชาติอันดับ 1 ที่ส่งออกนักเตะกว่า 1,535 คนไปเล่นอยู่ใน 132 ลีกทั่วโลก

 

ย้อนไปปี 2019 ประเทศไทยยังมีชื่อติด ท็อป 50 ชาติในโลกที่ชาวแซมบ้าชอบมาค้าแข้งมากที่สุด เห็นได้จากผลสำรวจว่าทั้งหมดแล้วมีอยู่ 96 คน ที่เล่นอยู่ในแดนสยามตั้งแต่ระดับ T1 ลงไปถึง T4

 

ปัจจุบันใน โตโยต้า ไทยลีก มีนักเตะต่างชาติจากดินแดนแซมบ้าเยอะที่สุด ซึ่งรวมแล้วมีนักบอลที่มาค้าแข้งในไทยกว่า 25 คน 

 

นอกจากแข้งบราซิเลี่ยนจะเข้ามาค้าแข้งในไทยแล้ว โค้ชชาวแซมบ้าก็ได้รับความนิยมในบ้านเราเช่นกันไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน บางคนผ่านมาแล้วผ่านไป บางคนก็ปักหลักอยู่ที่นี่ไปยาว ๆ และตอนนี้ยังมีโค้ชสัญชาติบราซิลที่มีหัวใจไทยแห่งสโมสร การท่าเรือ คนหนึ่งที่มีปรัชญาการทำหน้าที่ไม่เหมือนใคร

เขาคนนั้นก็คือ ราฟาเอล มอนเตโร โค้ชฟิตเนสที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมาถึง 11 ปี จนพูดไทยได้อย่างชัดเจน ราฟาเอลไม่ได้มีเพียงแค่ดีกรีการทำงานให้กับสิงห์เจ้าท่าอย่างเดียว แต่เขายังเป็น PERSONAL TRAINER หรือ โค้ชส่วนตัวให้กับนักกีฬาไทยประเภทอื่น ๆ อีกด้วย 

 

ก่อนจะมาเป็นโค้ชฟิตเนสที่ดังระดับต้นๆของประเทศไทย ราฟาเอลได้มีประสบการณ์ในการเป็นโค้ชระดับชุดเยาวชนของสโมสรโบตาโฟโก้ ในประเทศบราซิล ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 9 จนถึง 15 ปี 

 

การที่เขาได้พบเจอกับ คาร์ลอส โรแบร์โต้ เฮดโค้ชทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ในปี 2009 ทำให้เขามีโอกาสมาทำงานให้ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ซึ่งกำลังเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมหลังจากช่วงเวลานั้นพอดี เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขาเริ่มรักวิถีชีวิตที่เมืองไทยและตัดสินใจมาเป็นโค้ชฟิตเนสอย่างเต็มตัวที่สโมสร การท่าเรือ

ในบทสัมภาษณ์กับ StadiumTH ราฟาเอลเปิดเผยว่า 

 

“การเป็นโค้ชฟิตเนส ผมต้องพยายามทำอะไรที่พิเศษสำหรับนักกีฬาแต่ละคน การที่เราทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังทำในสิ่งที่เขารักอยู่ เขาจะไม่รู้สึกท้อแท้เหรือขี้เกียจในสิ่งที่กำลังทำ และนั่นคือปัจจัยหลักในการเค้นศักยภาพออกมา”

 

เคล็ดลับนี้เป็นสิ่งที่ราฟาเอลเน้นย้ำมาตลอด ว่าสำคัญต่อการทำหน้าที่ของเขา เพราะการได้ใจนักกีฬาจะช่วยทำให้ผลงานในสนามออกมาดี 

อีกวิธีหนึ่งที่โค้ชจากบราซิลคนนี้คิดว่าสำคัญต่อการเข้าใจนักกีฬาไทย คือการพูดภาษาเดียวกันเพื่อช่วยในเรื่องการสื่อสารและเข้าใจกัน 

 

“ถ้าผมไม่เรียนรู้ที่จะพูดภาษาไทยให้คล่อง ผมจะไม่สามารถทำงานที่นี่ได้”

 

จากเมื่อหลายปีก่อนที่เขาลองหัดพูดภาษาไทยแบบผิดๆ ถูกๆ จนมาถึงวันนี้ที่พูดได้อย่างคล่องแคล่ว ความใส่ใจในรายละเอียดก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้หลายๆคนนับถือเขา

เมื่อมองมาที่การวิเคราะห์ปัจจัยที่ราฟาเอลในฐานะโค้ชฟิตเนสต่างชาติมองว่านักกีฬาไทยควรพัฒนาและยังขาดอยู่ ก็คือการฝึกฝนตั้งแต่วัยเด็กให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เขามองว่าถ้านักกีฬาไทยอยากที่จะยกระดับตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรงและแสดงผลงานให้ดีขึ้นในอนาคต จะต้องมาจากการฝึกฝนตั้งแต่วัยเด็ก 

 

“การซ้อมในอะคาเดมี่ตั้งแต่วัย 12-14 จะสามารถเห็นผลและช่วยให้นักกีฬาก้าวหน้ามากกว่ามาซ้อมหนักตอนอายุ 22-24” 

 

เพราะเหตุนี้เขาเลยอยากเห็นเด็กไทยเดินตามรอยของ ‘เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มากขึ้น โดยราฟาเอลเชื่อว่าเด็กๆควรดูความขยันหมั่นเพียรของพี่ เจ เป็นตัวอย่างถ้าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงและมีการเล่นที่เก่งกาจระดับซุปตาร์เอเซีย 

 

เขายังเผยกับ StadiumTH ถึงนักฟุตบอลไทยที่เขาคิดว่ามีสภาพร่างกายที่ดีที่สุดในมุมมองของเขา โดยมีรายชื่อดังนี้ : 

  1. ชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรฟุตบอลคอนซาโดเล่ ซัปโปโร
  2. กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ สโมสรฟุตบอลคอนซาโดเล่ ซัปโปโร
  3. นิติพงษ์ เสลานนท์ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ
  4. เอเลียส ดอเลาะ สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ
  5. พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด

 

ราฟาเอลพูดเป็นภาพรวมว่า แต่ละคนมีดีในเรื่องการดูแลสภาพร่างกายคนละแบบ แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนในรายชื่อที่ให้มานี้ สามารถยืนระยะและเล่นด้วยฟอร์มที่ดีตลอดเกมการแข่งขันได้

ปิดท้ายด้วยเรื่องของอาหารเสริมที่ช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมากในหมู่คนที่สนใจในเรื่องของการออกกำลังกาย เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินถึง ACAI BERRY ที่รับประทานหลังจากการฝึกซ้อมแต่รู้หรือไม่ว่ามันมาจากไหนและทำไมเป็นที่นิยม ซึ่ง StadiumTH ก็ไม่พลาดที่จะถามราฟาเอลถึงเรื่องนี้เพราะที่มาของมันอยู่ในบ้านเกิดของเจ้าตัวนั่นเอง

 

“จริงๆแล้วผมได้รู้จัก ACAI BERRY ตั้งแต่ปี 1992 แล้ว มันดังมากในประเทศบราซิลเพราะว่ามาจากป่าดิบชื้นแอมะซอน นอกจากมันจะเป็น BERRY ที่อร่อยและนำไปผสมกับกล้วยหรือผลไม้ชนิดอื่นได้แล้ว มันยังช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย ช่วยลดอาการเมื่อยล้า และ สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายอีกด้วย ACAI BERRY เลยมีความโด่งดังมาก เรามักจะเห็นนักกีฬาในสาย MMA กินกันหลังซ้อม” 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเอาใจใส่ในตัวนักกีฬา หรือ ความรู้ในเรื่องของการดูแลร่างกาย ต้องยอมรับว่า ราฟาเอล มอนเตโร มีความรักในสิ่งที่เขาทำทุกวันและต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้นักกีฬาไทยทะเยอทะยานไปสู่ระดับโลกให้ได้ 

 

ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโค้ชชาวแซมบ้าที่มีหัวใจไทยคนนี้จะอยู่ช่วยพัฒนาศักยภาพของนักกีฬารุ่นใหม่ไปอีกยาวนานครับ 


stadium

author

Ta Lao

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose