stadium

Football Vintage : เพจฟุตบอลสีขาว ปลอดความรุนแรงและการพนัน

23 สิงหาคม 2563

การถกเถียงกันบนพื้นที่สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นอะไรที่เปิดกว้างและยากที่จะควบคุมได้ ดังนั้นเราจึงพบเห็นคอมเม้นท์ที่ดุเดือดตอบโต้กันไปมาระหว่างผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน จนเกิดเป็นภาพความรุนแรงที่พบเห็นได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะในเพจกีฬาที่บรรดาเหล่ากองเชียร์มักจะตอบโต้กันด้วยถ้อยคำรุนแรงจนเกิดดราม่ามาแล้วหลายครั้ง

 

ขณะเดียวกันบนเพจกีฬาส่วนใหญ่ เราจะเห็นได้ว่าในตอนท้ายของแคปชั่นมักจะมีข้อความโปรโมทหรือชักจูงให้ผู้ติดตามเพจได้กดคลิกลิ้งค์ แม้จะไม่ได้ใช้ประโยคชี้นำอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่านั่นคือการเชิญชวนให้เข้าไปสู่เว็บการพนัน เพื่อแลกกับค่าตอบแทนไว้สำหรับหล่อเลี้ยงการทำเพจ ซึ่งดูแล้วไม่ต่างจากการส่งเสริมการเล่นพนันในทางอ้อม

 

แต่สำหรับ Football Vintage เพจฟุตบอลที่มีผู้ติดตามมากกว่า 250,000 คน กลับแตกต่างออกไป เป็นพื้นที่ปราศจากทั้งความรุนแรงการพนัน เน้นถ่ายทอดชีวิตเบื้องหลังของนักกีฬาฟุตบอล เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตาม

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของ ”บัง” ขวัญชัย ธำรงโชติ ผู้ที่ก่อตั้งเพจเพียงคนเดียว ตลอดระยะเวลา 8 ปี เขาทำให้คนในเพจเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน วันนี้เราจะพาไปเปิดวิธีคิดและตัวจนที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้กัน

 

 

จุดเริ่มต้นของ Football Vintage เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เกิดขึ้นจากการคุยเล่นกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปที่คุยกันแต่เรื่องฟุตบอล แต่ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทำให้มีข้อมูลฟุตบอลในหัวเยอะกว่าเพื่อน มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอลมาเล่าให้เพื่อนฟังประจำ เพื่อนก็เลยแนะนำให้เรลองเปิดเพจเป็นของตัวเอง ซึ่งเราก็คิดว่าน่าสนใจเลยลองทำดู ช่วงแรกก็ทำให้เพื่อน ๆ อ่าน เริ่มทำปี 2012 ตอนนั้นเรียนจบมาได้ 2-3 ปีแล้ว จำได้ว่ามีคนตามไม่ถึงร้อยคนส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนกัน

 

Football Vintage ชื่อฟังดูย้อนยุคมาก ทำไมถึงใช้ชื่อนี้?

ตอนแรกไม่ได้นึกถึงชื่อนี้เลย มีหลายชื่อในหัว แต่แนวคิดเราคือพยายามจะทำให้คนที่เข้ามาอ่านสามารถเข้ามาอ่านได้เรื่อย ๆ อยากอ่านเมื่อไหร่ก็กลับมาอ่านได้ เนื้อหาไม่อิงกระแส แต่อิงตัวบุคคลที่กำลังเป็นกระแส ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานกี่ปีก็ยังอ่านได้อยู่ คำว่า Vintage จึงตอบโจทย์มากที่สุด

 

 

ช่วงเริ่มต้นคอนเทนท์เป็นแบบไหน?

ช่วงแรกเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวกับแรงบันดาลใจเลย เป็นเรื่องสถิติ ข้อมูล เกร็ดฟุตบอลที่น่าสนใจ เช่น พวกสถิติก่อนและหลังเกมส์ ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 2 ปี ก็เริ่มมีคนติดตาม มีคนแชร์ แล้วพอคนตามเยอะขึ้นก็เริ่มมีลูกเพจเรียกร้องมาว่าอยากอ่านเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของนักฟุตบอล หลังจากนั้นก็เลยลองปรับเนื้อหามาให้แรงบันดาลใจ ซึ่งก็ป็นตัวตนเรามากขึ้นนะ

 

ตรงไหนที่ทำให้ Football Vintage แตกต่างจากเพจกีฬาอื่น ๆ ?

เราเป็นเหมือนตัวกลางคอยนำเสนอเรื่องราวของความฝันและแรงบันดาลใจ โดยใช้ฟุตบอลเป็นสื่อกลาง ทุกเรื่องที่เราทำมีฟุตบอลเป็นแกนหลัก โดยพยายามสอดแทรกเนื้อหาที่ทำให้ผู้อ่านได้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตกลับไป คือเราชอบอ่านอะไรที่ทำให้สบายใจ คุยกันแต่เรื่องฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ไม่ชอบอะไรที่เป็นดราม่า

 

เพจเราจะอยู่กันเหมือนครอบครัว เหมือนพี่เหมือนน้องกันมากกว่า ใครมีปัญหาชีวิตสามารถทักเข้ามาหาปรึกษาได้เลยเราพร้อมซัพพอร์ท เพื่อนในเพจคนอื่น ๆ ก็พร้อมช่วยเหลือ ซึ่งเราก็โอเคกับการตอบปัญหา แต่เราไม่ใช่ไลฟ์โค้ชนะ ไม่ได้เอาเรื่องราวชีวิตของตัวเองมาพูดให้คนอื่นฟัง แต่เราใช้เรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของนักฟุตบอลแต่ละคนมาเล่ามาคุยกับเขา เพราะนักฟุตบอลเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าต้องสู้ชีวิตยังไง ซึ่งคนอ่านจะใช้ตรงนี้แหละเป็นแรงบันดาลใจ มีแสงนำทางโดยที่เราเป็นผู้เรียบเรียง มันทำให้เพจเรามีความพิเศษ

 

ตัวตนของ Football Vintage คือตัวตนของคุณด้วยหรือเปล่า ? 

ฟุตบอลวินเทจ เป็นตัวแทนความสุขุมนุ่มนวล แต่เราเป็นคนค่อนข้างสบาย ๆ เฮฮา ตามปกติ มุมที่เหมือนกันก็คือเรากับฟุตบอลวินเทจทำเพื่ออุดมการณ์ จุดยืนของเราคือการทำเพจเพื่อความสนุก ความชอบ ความหลงใหลในฟุตบอล จะไม่เอาธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถ้ามีเรื่องของเงินเข้ามา การทำเพจจะเริ่มไม่สนุก กลายเป็นว่าต้องตามใจคนอื่น เนื้อหาของเพจจะถูกตีกรอบด้วยข้อกำหนดบางอย่าง

 

อย่างที่บอกเรามีความสุขกับการที่ลูกเพจได้อะไรกลับออกไปจากการอ่านงานเขียนของเรามากกว่า นั่นคือกำไรในแง่ความรู้สึก เราไม่ได้ทำเพจเพื่อชื่อเสียงหรือเงินทอง ซึ่งเราจะบอกลูกเพจเสมอว่า เราสามารถหาเงินได้จากงานประจำ ไม่จำเป็นต้องทำเพจเพื่อหาเงิน

 

 

มุมมองเรื่องความรุนแรงในโลกโซเชียลมีเดียของคุณเป็นอย่างไร ?

เราว่ามันเป็นรสนิยมของแต่ละคน แต่ละเพจมากกว่า แต่เราสร้างมาแบบนี้เพราะชอบแบบนี้ ชอบแลกเปลี่ยนข้อความที่อ่านแล้วสบายใจ การถกเถียงกันเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเรื่องปกติของกีฬาลูกหนัง ถ้าไม่เกินเลยไปเรารับได้ แต่ท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับคนทำเพจว่าอยากเห็นเพจตัวเองเป็นแบบไหน เคยมีลูกเพจคนนึงบอกว่า บางเพจเขาสามารถเกรียนได้เต็มที่ แต่พอมาฟุตบอลวินเทจเขาจะรู้สึกว่ามันจะคุยแบบนั้นไม่ได้ เขาจะได้การตอบรับจากคนในเพจอีกรูปแบบหนึ่ง สังคมในเพจเราทำให้เขารู้สึกว่าจะมาคอมเม้นท์เกรียน ๆ แบบเพจอื่นไม่ได้

 

สังคมใน Football Vintage ที่คุณบอกเป็นแบบไหน ?

เป็นสังคมของคนรักฟุตบอลที่มีแต่ความอบอุ่น แต่ละคนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรื่องฟุตบอลกันจริง ๆ แลกเปลี่ยนความทรงจำกัน ผมพยายามที่จะรักษาบรรยากาศแบบนี้เอาไว้ เพราะพื้นฐานของเพจอยู่ได้ด้วยบรรยากาศ คนส่วนใหญ่ที่ติดตามเขาบอกว่าอยู่แล้วสบายใจดี เข้ามาเสพเรื่องราวดี ๆ ถึงแม้นาน ๆ ทีจะมีคอมเม้นท์เกรียน ๆ หลุดมาเหมือนกัน แต่ทุกคนช่วยกันดูมากกว่าเหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งที่ควรจะช่วยรักษากฏกติกา แต่ไม่ได้มีกฎตายตัวนะ วันเวลาช่วยขัดเกลาจนกลายเป็นวัฒนธรรมของเพจไปแล้ว

 

เห็นแล้วรู้สึกอย่างไร

ภูมิใจครับ อย่างที่บอกเราไม่ทำเพจเพื่อหารายได้ การที่ลูกเพจได้แรงบันดาลใจมันเป็นผลตอบแทนให้เราในฐานะคนทำเพจ ดีใจครับที่คนชอบ

 

 

คุณเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับเพจไว้ว่า ทัศนคติสำคัญกว่าพรสวรรค์ หมายความว่าอย่างไร

ทัศนคติสามารถทำอะไรที่ยั่งยืนได้ ต่อให้คุณไม่เก่งก็พัฒนาตัวเองยกระดับตัวเองได้ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต เช่นการแก้ปัญหา ทัศนคติจะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เราว่าตรงนี้มันสำคัญกว่าการมีพรสวรรค์อย่างเดียวไม่มีระเบียบวินัยก็ประสบความสำเร็จยาก

 

เรื่องของนักฟุตบอลคนไหนที่ตรงกับ Football Vintage มากที่่สุด

โห … ตอบยากมาก เขียนมาหลายพันเรื่อง (คิดนาน) เราชอบ ลีซอ (ธีเทพ วิโนทัย) เขาเหมาะจะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนมากนะ เพราะเขามีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ถึงจะโดนด่า โดนดูถูกมามากเท่าไหร่ แต่ก็ยังรักษาตัวตนของเขาเอาไว้ มีจุดยืนไม่สนใจเสียงรอบข้าง พยายามพิสูจน์ว่าตัวตนของเขาไม่ใช่เรื่องที่ผิดและพัฒนาตัวเองจนไปได้ไกล เหมือนเป็นคนที่เข้าใจชีวิตว่าเหรียญมีสองด้าน มีคนรักคนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา

 

ลีซอ มีแง่มุมดี ๆ ที่หลายคนไม่รู้ เช่นจัดการแข่งขันฟุตบอลการกุศลช่วยเหลือเด็ก ๆ เขาทำมาเป็นสิบปี แต่หลายคนมองข้าม พยายามจับผิดคาแรคเตอร์เขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่มันก็เป็นภาพสะท้อนเหมือนกันว่าบางเรื่องถ้าเป็นนักฟุตบอลต่างประเทศทำคนจะมองว่าเท่มาก แต่ถ้าเป็นนักฟุตบอลไทยจะมีคำถามว่าทำไมดูขี้เก๊กจัง เหมือนเพจเราที่ต้องมองด้วยความเข้าใจ มีคนรักมีคนเกลียด ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองไป

 

 

จากนักข่าวผันตัวมาเป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร

แตกต่างกันมาก งานเขียนเรามีเวลาแก้ไข มีเวลาตรวจสอบข้อมูลความน่าเชื่อถือ เราทุ่มเวลาให้มันได้ ค่อย ๆ ขัดเกลาตัวอักษร ผิดพลาดแก้ไขได้ แต่การทำคอนเทนท์รายการสดมันแก้ไขไม่ได้ ต้องเพิ่มความระมัดระวัง การทำสื่อไม่ควรมักง่ายหรืออาศัยความเร็ว ฉาบฉวย 

 

ฟุตบอลวินเทจก็เคยทำผิดพลาดเหมือนกัน เราแปลข่าวมาแล้วแต่ปรากฎว่าสื่อต้นฉบับที่เราแปลดันนำเสนอผิดพลาด หลังจากนั้นเราได้บทเรียนว่าต้องรู้จักรับสื่อหลาย ๆ ทาง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาด กฎเหล็กของเราเลยคืออย่าดูถูกคนอ่าน อย่าคิดว่าเขาคือลูกค้าเป็นคนติดตามเพจที่เราใช้หาผลประโยชน์จากเขาแค่นั้น เราต้องเคารพเขาด้วย อยู่บนพื้นฐานความถูกมากที่สุดอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องเชื่อถือได้

 

อีกอย่างเดี๋ยวนี้คนทำเพจง่ายขึ้น เมื่อก่อนโซเชียลมีเดียยังไม่แพร่หลาย มีสื่อทางเลือก นิตยสาร หนังสือพิมพ์ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าสื่อสิ่งพิมพ์คนเริ่มไม่อ่าน หันมาอ่านบนออนไลน์กันหมด ทุกคนสร้างตัวตนกันง่ายขึ้น เลยทำให้โซเชียลมันค่อนข้างรุนแรงมากกว่า ในแง่ของข่าวสารเข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้คนไตร่ตรองน้อยลง

 

 

 

อะไรคือคุณค่าที่ได้จากการทำ Football Vintage

เราได้เห็นการเจริญเติบโตของเราและลูกเพจ เมื่อก่อนเราเป็นคนใจร้อนมาก แต่พอมาทำเพจช่วยฝึกสมาธิควบคุมคนหมู่มากให้อยู่ในกรอบเดียวกัน ลูกเพจบางคนเราเห็นตั้งแต่เป็นเด็ก บางคนเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่ง แล้วเขาได้แรงบันดาลใจจากเพจเรา พัฒนาตัวเองจนเป็นนักเตะไทยลีกชื่อดังอยู่สโมสรใหญ่ ผมมองว่าคุณค่าลูกเพจเราโตขึ้นโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากเพจถึงแม้ผมจะไม่ได้เงิน แต่เหมือนเรามีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนพวกเขา ที่ผ่านมาก็เคยมีมาขอซื้อเพจนะ แต่เราไม่ขายเพราะรู้สึกเหมือนขายตัวตนขายลูกชายเลยขอเก็บไว้ทำเองต่อดีกว่า

 

 

เคยคิดไหมว่าจะมีคนติดตามมากขนาดนี้

ไม่เคยเลย อย่างที่บอกว่าคนตามหลักร้อยก็ดีใจแล้ว เพจเราเติบโตช้าแต่มั่นคง โตโดยออแกนิคร้อยเปอร์เซ็นต์ คนที่ติดตามเขาชอบผลงานเราจริง ๆ มีน้องบางคนบอกติดตามตั้งแต่เรียนมัธยม ตอนนี้เรียนจบแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินทางร่วมกัน มันภาคภูมิใจมาก ๆ

 

ถ้าเปรียบเทียบช่วงอายุคน ตอนนี้ Football Vintage อยู่ในวัยไหน

คงเป็นเหมือนเด็กมัธยมที่ผ่านช่วงเวลาการตั้งไข่ ผ่านการลองผิดลองถูก เราโตขึ้น สุขุมมากขึ้น มีความรู้ความสามารถในการแยกแยะข่าวสารมากขึ้น พร้อมที่จะเติบโตขึ้นไปยังระดับมหาวิทยาลัย

 

อนาคต 5-10 ปี ข้างหน้าเราจะเห็น Football Vintage โตขึ้นไปแบบไหน

เราไม่เคยคิดว่าเราประสบความสำเร็จแล้วนะ เราจะพยายามจะรักษาบรรยากาศในเพจให้อบอุ่นเหมือนเดิม จะพยายามไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เรื่องการค้าเราจะไม่รับมาเจือปนจนเพจเปลี่ยนไป ยังอยากให้ลูกเพจเข้ามาอ่านแล้วเรายังรู้สึกและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเป็นกันเอง สบายใจ มันอาจจะเปลี่ยนแปลงในแง่ของยอดคนติดตาม แต่เราจะมีความเป็นกันเอง เป็นบ้านหลังหนึ่งที่คอยช่วยรักษาระเบียบ โดยไม่ต้องบอก ต้องช่วยกันรักษา เพราะฟุตบอลวินเทจไม่ใช่บ้านของแอดมินคนเดียว แต่มันเป็นบ้านของทุกคนที่สามารถออกเสียงร่วมกันได้

 


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose