วิ่งกินหอย:ร้านที่สะท้อนว่าชีวิตต้องไม่หยุดวิ่ง

มีโอกาสได้ไปทำธุระแถวย่านปากเกร็ด ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า มีนักกีฬาทีมชาติไทยมาเปิดร้านอาหารที่ชูเรื่อง “หอยนางรมยักษ์” อยู่แถวนี้ และเมื่อเซิร์ชไปจึงพบว่าคือร้าน “วิ่ง กิน หอย” (Wingkinhoy) ของเจ้าลมกรดไทยอย่าง “ยูเซนมิ้ว” จิระพงศ์ มีนาพระ นักกรีฑาหนุ่มทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์หลายสมัย และ "น้องไหม" ธนีกานต์ แดงดา กองหน้าทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งหน้าร้าน เพิ่งจะเปิดให้บริการมาไม่นานนัก โดยก่อนหน้านี้เน้นการจัดส่งแบบเดลิเวอร์รี่ 

จากแกะดำกรีฑา มาแกะหอยนางรม 

“ผมไม่ได้ไปสำมะเลเทเมา จนชกต่อยกับใคร แค่การออกจากแคมป์ไปบ้าง ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายนะ ผมว่ามันเป็นจังหวะชีวิตของเรามากกว่า” บทสัมภาษณ์ ของ จิระพงศ์ มีนาพระ ที่เคยพูดถึงเส้นทางอาชีพนักกรีฑาที่มักจะดูเหมือนเป็นแกะดำในสายตาผู้อื่น ซึ่งเจ้าตัวก็เคยตกอยู่ในสถานะนักกีฬาที่มีลุคของความเป็นแบดบอย แต่อีกมุมหนึ่ง ก็เป็นการสื่อให้เห็นถึงความหนักแน่นในวิธีคิด เพียงแต่สิ่งนั้นอาจเป็นวิถีของคนกลุ่มน้อย ซึ่งมักถูกตราหน้าหรือตัดสินใจจากกระแสสังคมของคนหมู่มาก

อย่างไรก็ตาม เรื่องปัญหาในฐานะนักกรีฑาที่ยังดูคลุมเครือ ไม่อาจฉุดรั้ง ลู่แห่งชีวิตของ “เจ้ามิ้ว” ได้การที่เจ้าตัวลุกขึ้นมาสร้างธุรกิจของตัวเอง ร่วมกับ "น้องไหม" สะท้อนคุณค่าของตัวตนที่แท้จริงออกผ่านทั้งวิธีคิด และ การปฏิบัติ อย่างแท้จริง

การต่อสู้กับช่วงวิกฤติโควิด-19 รวมถึงการเห็นโอกาสภายในช่วงเวลายากลำบาก คือ เครื่องการันตีคุณค่าแห่งความเป็นคนไม่ยอมแพ้ ทั้งเรื่องเส้นทางการเป็นนักกรีฑา รวมถึงการอบรมหลักสูตรทหารอากาศ ที่ต้องหยุดชะงักเพราะเจอพิษโควิด เล่นงาน

“ผมกลับสุราษฎร์ธานี แล้วตั้งใจว่าจะไปลิ้มรสชาติหอยนางรม ที่ร้านคุณป้าของตัวเอง แต่ร้านคุณป้าปิด จึงไปหาซื้อหอยนางรมร้านอื่นมาทานแทน ปรากฏว่ารสชาติสู้ร้านคุณป้าไม่ได้ และเหตุผลที่คุณป้าปิดร้าน เป็นเพราะผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ด้วย ก็เลยคิดขึ้นมาว่า หากนำหอยนางรมที่มีความเอร็ดอร่อยจากร้านคุณป้า ขึ้นมาขายในกรุงเทพฯ คงจะดีไม่น้อย”

ขณะเดียวกันด้วยวิธีการโปรโมทในช่วงแรกที่อาศัยการแจกฟรีให้กับเหล่าคนดังในศิลปิน ดารา นักร้องรวมถึง ซูเปอร์สตาร์กีฬาไทย ก็บ่งบอกถึงความเป็นนักกลยุทธ์ ที่เอาจริง และ ไม่ได้มอง “วิ่ง กิน หอย” เป็นแค่งานอดิเรกทำเท่ๆ ฆ่าเวลาช่วงโควิดเท่านั้น

จากการส่งแบบเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว มาสู่การเปิดหน้าร้านที่ย่านปากเกร็ด (บริเวณแยกสวนสมเด็จ) ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเอาจริงเอาจัง และ ในวันที่ผมไป ก็พบทั้ง มิ้วและไหม อยู่ที่ร้าน ซึ่งก็ดูแลลูกค้าทุกโต๊ะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และ เป็นกันเองจริงๆ

เซอร์ไพรส์ เจอ เจ้าหญิงแห่งวงการไอซ์ฮ็อกกี้

ความบังเอิญที่เกิดขึ้นในวันนั้นคือ ได้พบกับ “น้ำตาล” วิลาสินี รัตนนัย นักกีฬาไอซ์ฮ็อกกี้หญิงทีมชาติไทยและอย่างที่ทราบกันดี ด้วยความน่ารักสดใส ผสมความซุกซน และ ป่วน ทำให้เกิดบรรยากาศสนุกที่มาพร้อมกับความอร่อยสุดๆ โดยเฉพาะ เมื่อพวกเราตัดสินใจสั่ง หอยนางรมใหญ่ SET 10 ตัว แต่ราคาเพียงแค่ 690 บาท คือ แต่มาทั้งทีก็จัดเต็มทั้ง กุ้งแช่น้ำปลา ปลาหมึก หอยแครงลวก บวกกับ เมนูอีสานจากร้านใกล้ๆ คือทั้ง จิ้มจุ่ม และ คอหมูย่าง

ไฮไลท์อยู่ที่ความคุ้มค่าในฐานะ Content Creator สายกีฬา เพราะนอกจากจะได้กินอิ่มและอร่อย ยังได้ใกล้ชิดกับนักกีฬาระดับทีมชาติถึง 3 คนด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนเป็นกันเองทั้งนั้น ใครแวะเวียนไปก็มีโอกาสพบเจอทั้ง มิ้ว - ไหม และถ้าโชคดีอาจเจอคนแวดวงกีฬาอื่นๆ ที่มาฝากท้องร้านนี้กันเป็นประจำ

นอกจากนั้น ยังได้มีโอกาสเห็นน้อง น้ำตาล ในโหมดการเข้าครัวเองโดยมี มิ้ว เป็นอาจารย์เฉพาะกิจให้บอกเลยว่า ลีลาแกะหอย ของน้ำตาลอาจจะดูขัดลูกตาไปบ้าง แต่ความฮาและสนุกสนานจัดเต็มจริงๆ

รีวิวแบบตรงไปตรงมา บวกแจกพิกัดร้าน

จากความสนุกมาว่ากันด้วยเรื่องรีวิว จากทีม StadiumTH ที่ได้ลงไปสัมผัสถึงถิ่น ต้องบอกว่า หอยนางรมทั้งสดและตัวใหญ่สะใจมากๆ น้ำจิ้มก็รสชาติเยี่ยมเลย เช่นเดียวกับ หอยแครงลวก ที่ถูกปากและอร่อยส่วนที่จืดไปหน่อยคือ น้ำเปล่า และ บางแก้วผมรู้สึกว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์ … อ๋อ นั่นผสม รีเจนซี่ นี่นา

พิกัดร้านหาไม่ยาก แต่ที่ไปกินกันวันนั้นขับเลยกันทั้งหมด เพราะต้องสังเกตให้ดีหน่อยนะ หลังจากเลี้ยวขวาที่แยกสวนสมเด็จแล้ว (เลี้ยวไปทางที่เขียนว่าดอนเมือง) ก็เตรียมชิดซ้ายมองหาป้ายร้านได้เลย เพราะถ้าขับเลยก็ต้องไปกลับรถซึ่งไม่ไกล แต่เป็นเส้นที่รถติดมากๆ อย่างไรก็ตามถ้าได้ลิ้มลองรสชาติทั้งอาหาร และความเป็นกันเองจาก 2 นักกีฬาไทย เสียเวลาแค่ไหนคุณก็จะรู้สึกว่าคุ้มแน่นอนครับ