stadium

Exclusive! กับบทสัมภาษณ์ "มาดามแพรว" ประธานสโมสรสุดสวยแห่งทัพกระรอกขาวจ้าวสนาม

15 สิงหาคม 2563

#ChangsuekOutField 

 

วันนี้ Ice Assist จากช้างศึก จะพาไปพูดคุยแบบสุดพิเศษกับนางฟ้าวงการลูกหนังคนใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ กับ “มาดามแพรว” คุณเกษตรสุข ศุขหงษ์ทอง ประธานสโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด เธอคือใคร เคยประสบความสำเร็จอะไรมาบ้าง และมีที่มาอย่างไรกับการก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้นำของสโมสร ติดตามได้ที่นี่

 

เล่าประวัติคร่าวๆให้เราฟังหน่อย

 

แพรวเป็นคนร้อยเอ็ดตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ปัจจุบันก็อายุ 30 ปีแล้ว แล้วก็เรียนจบจากคณะสาธารณะสุขศาสตร์ สาขาอนามัยและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หลังจากนั้นก็ต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในสาขาเดียวกัน ปัจจุบันก็มีครอบครัวแล้ว มีลูกชายหนึ่งคนอายุ 10 เดือนค่ะ ซึ่งสามีคือคุณอาวุธ เอฟวา อดีตนักฟุตซอลลีก ส่วนไลฟ์สไตล์ของแพรวเป็นคนชอบทำงานอยู่แล้ว ติดอยู่กับงานตลอด เวลาว่างอย่างมากก็แค่เดินซื้อของทั่วไป หรือเดินตลาดอะไรแบบนี้ค่ะ แต่โดยปกติแล้วแพรวจะอยู่กับงานเป็นหลัก 

 

เห็นว่าเป็นคนชอบทำงาน ที่ผ่านมาเคยทำธุรกิจอะไรมาบ้าง 

 

แพรวเคยทำงานที่โรงไฟฟ้า เป็นนักเคมีค่ะ ทำหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำรวมถึงเชื้อเพลิงและควบคุมการผลิตน้ำที่จะนำมาผลิตไฟฟ้า สักพักแพรวก็ลาออกเพราะสอบติดข้าราชการตามความตั้งใจของพ่อแพรว ซึ่งระหว่างนั้นก็มีการสั่งตัดสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงขายไปด้วย แต่มันก็ไม่ได้ขายดีอย่างที่คิดไว้ เลยเปลี่ยนมาทำแบรนด์ครีมบำรุงผิวและผลตอบรับดีมาก เรียกว่ามาแบบไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ จนสุดท้ายแพรวก็ต้องออกจากราชการเพราะทำควบคู่กันไปด้วยไม่ไหว หันมาทำธุรกิจแบรนด์ครีมของตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

 

แต่พอทำไปได้สักพักก็มีปัญหาในหลายๆส่วนจนไปต่อไม่ได้ จึงได้พักไปประมาณปีนึงค่ะ แล้วหันมาเปลี่ยนสายธุรกิจใหม่เป็นการผลิตเสื้อกีฬา ทำมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกือบๆ 2 ปีแล้ว แต่หลังๆมาแพรวก็มาเน้นงานด้านหลังบ้านมากกว่า เช่นการยิงโฆษณาในสื่อออนไลน์อะไรแบบนี้มากกว่าค่ะ ไม่ได้ออกหน้าว่าเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรมากมาย ซึ่งตามสื่อทั่วไปบอกว่าแพรวประสบความสำเร็จถึง 100 ล้าน จริงๆก็เกือบๆเเล้วค่ะ ประมาน 90 กว่าล้าน ถ้ารวมทุกธุรกิจที่ทำก็ถึงค่ะ 100 ล้าน นับเป็นธุรกิจที่แพรวประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่ในเร็วๆนี้ก็จะมีอีกธุรกิจที่แพรวจะทำคือเปิดร้านขายข้าวมันไก่ แล้วก็ยังมีอีกธุรกิจคือรับสร้างบ้านด้วยค่ะ

 

 

เสน่ห์ของฟุตบอลที่คุณแพรวเห็นคืออะไร แล้วจุดเริ่มต้นการเข้ามาทำทีมฟุตบอลเป็นมาอย่างไร

 

เสน่ห์ที่แพรวเห็นคือการที่เราต้องลุ้นตลอดว่าจะยิงกันเมื่อไหร่ ระหว่างลุ้นมันจะอินไปด้วยค่ะ อีกอย่างคือเรื่องของแฟนบอลที่มีส่วนทำให้ฟุตบอลสนุกขึ้น แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้แพรวเข้ามาในวงการฟุตบอลจริงๆเกิดจากสามีแพรวที่เป็นนักฟุตซอล แล้วก็ผันตัวมาทำอะคาเดมี่ (อะเคเดมี่เอฟวา) ทำให้แพรวได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกฟุตบอลของสามีแพรวไปด้วย ทั้งการพาไปสมัครแข่งฟุตบอล พาไปอะคาเดมี่ไปแข่งฟุตบอล รวมถึงเป็นสปอนเซอร์ไปในตัวด้วย แถมยังมีทำอาหารและสอนการบ้านเด็กๆในอะคาเดมี่ด้วยค่ะ น้องๆในทีมก็จะมากินนอนที่บ้านเลยค่ะ ก็มีประมาณ 20-30 คนในตอนนั้น 

 

หลังจากนั้นคุณอาวุธ ก็มีโอกาสได้ทำทีมร้อยเอ็ด แต่เขาตัวคนเดียวค่ะ เขามองว่าแพรวจะช่วยเขาต่อยอดช่วยซัพพอร์ตเขาได้มากขึ้น นี่แหละค่ะจุดเริ่มต้นที่แพรวได้เริ่มเข้ามามีส่วนในการบริหารทีมฟุตบอล 

 

เข้ามาทำทีมร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด วางเป้าหมายอย่างไร และความยากในการทำทีมฟุตบอลในมุมคุณแพรวคืออะไร

 

พูดถึงความยากคือเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ค่ะ เช่นสนามแข่งขันที่บางทีก็ทำให้เราไม่ได้ผลการแข่งขันหรือรูปแบบการเล่นที่เราเตรียมตัวไว้ รวมถึงกองเชียร์ก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดในบางครั้ง อีกเรื่องคือการบริหารทีมอย่างไรให้สามารถอยู่ได้ในระยะยาว นี่ก็เป็น 2 เรื่องยากที่แพรวเจอมา ส่วนเป้าหมายของทีมร้อยเอ็ดที่แพรววางไว้เป็นแบบระยะยาวเลยค่ะ ก็หวังว่าจะขึ้นไปบนลีกสูงสุดให้ได้ นอกจากนี้ก็มีการทำอะคาเดมี่ของสโมสร เพื่อรอวันต่อยอดในอนาคต จริงๆก็คาดหวังไว้อีกว่าเด็กในอะคาเดมี่ของเราจะติดทีมชาติได้ซักรุ่น ก็ถือเป็นอีกเป้าหมายนึงด้วยค่ะ ตอนนี้ก็มีการคุยกับโรงเรียนที่เราจะเอาเด็กเข้าไปอยู่ด้วย และจะมีการเปิดคัดในเร็วๆนี้ ต้องการประมาณ 30 คนค่ะ 

 

คติในการทำงาน ในฐานะที่เป็นคนรักงาน ชอบทำงานมากๆ

 

แพรวจริงจังกับการทำงานมาก แต่สิ่งที่ทำให้ไปต่อได้คือแพรวไม่อยู่กับที่ แพรวคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ดีที่สุด ทุกอย่างมันต้องดีไปกว่านี้ได้อีก เพราะถ้าเราคิดว่ามันดีที่สุดแล้วมันก็จะหยุดนิ่ง แสดงว่าเราทำได้แค่นี้ แพรวจึงพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แพรวคิดว่ามันก็กลายเป็นข้อดีของเราที่ทำให้เรามีอะไรหลายๆอย่างในตอนนี้ค่ะ

 

กระแสการเป็น “มาดามแพรว” ประธานสโมสรสุดสวยมาแรงมาก รู้สึกอย่างไรบ้าง

 

จริงๆแพรวตกใจนะคะ (หัวเราะ) ไม่คิดว่าคนจะให้ความสนใจมากขนาดนี้ มันเกินกว่าที่คิดไว้มากๆ ทั้งที่ตอนแรกยังถกเถียงกับทีมบริหารเลยว่าจริงๆแล้วเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่แพรว (ประธานสโมสร) ซึ่งทีมผู้บริหารคนอื่นๆก็แฮปปี้มากๆกับกระแสตอนนี้ และเริ่มคิดจะต่อยอดจากกระแสที่เกิดขึ้น มีโปรเจ็คอื่นๆวางไว้บ้างแล้วด้วย ยังไงเร็วๆนี้ก็รอติดตามกันนะคะ

 

คิดว่าความสวยช่วยอะไรได้บ้าง

 

บอกก่อนว่าแพรวก็ไม่ได้อยากพูดว่าตัวเองสวย มันก็แล้วแต่มุมมองคนค่ะ  สวยบ้างไม่สวยบ้าง จะบอกว่าตัวเองไม่สวยเลยมันก็ไม่ใช่ คนสวยกว่าแพรวก็มีเยอะแยะเลยค่ะ แต่ในเมื่อคนอื่นมองว่าสวยก็คงจะช่วยในเรื่องของการดึงดูดให้ผู้คนมารู้จักกับสโมสรเล็กๆของเรามากขึ้น

 

วงการฟุตบอลไทยตอนนี้มีหลาย “มาดาม” ชื่นชอบใครเป็นพิเศษ หรือมีใครเป็นต้นแบบ

 

ที่แพรวพอรู้จัก ได้เห็นบ่อยๆ แล้วก็ติดตามอยู่ด้วยคือ “มาดามแป้ง” คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ค่ะ รู้สึกว่ามาดามแป้งเป็นคนที่สวย เก่ง ดูแลตัวเองดีมากๆ แต่ถ้าจะให้บอกว่าชอบเพราะอะไร คงมองไปที่การทำงานค่ะ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบทำงาน ทำอะไรหลายๆอย่างคล้ายกับเราด้วย ก็เป็นจุดที่ทำให้เรามองมาดามแป้งเป็นแรงบันดาลใจค่ะ 

มาดามแป้ง แรงบันดาลใจของ มาดามแพรว
คุณแพรว และสามี คุณอาวุธ เอฟวา

 

รู้สึกยังไงกับการถูกเรียกว่า “มาดามแพรว”

 

รู้สึกแปลกๆเหมือนกันค่ะ ก็เขินๆ แบบว่า “มันใช่เราหรอ” (หัวเราะ) แต่ก็โอเคนะคะ ไม่ได้ถึงกับชอบหรือว่าไม่ชอบไปเลย เราโอเคแล้วก็ยินดีค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับดีใจมากมายที่คนเรียกเราว่ามาดามแพรว

 

สามี คุณอาวุธ เอฟวา รู้สึกยังไงกับกระแสความแรงของภรรยา

 

เขาดีใจค่ะ แฮปปี้ เขาคาดหวังไว้อยู่แล้วว่าอยากให้ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะตัวคุณอาวุธเองเป็นคนที่ผลักดันแพรวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้เองด้วย เขาคิดว่าแพรวสามารถทำในจุดนี้ได้ดีกว่าตัวเขาเอง เขาแฮปปี้มากที่ทีมอยู่ในกระแส มีคนรู้จักมากขึ้นค่ะ

 

กดดันกับหน้าที่ประธานสโมสรแค่ไหน

 

กดดันนะคะ แต่ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะ เรารู้อยู่แล้วว่าถ้ามาอยู่จุดนี้คงจะต้องเจออะไรอีกเยอะ เราไม่ได้มีพื้นฐานด้านฟุตบอลมากมาย ประสบการณ์ทำทีมก็ยังน้อย เราใหม่มากๆกับตรงนี้ แต่แพรวคิดว่าแพรวพร้อมในจุดนึงที่จะรับความกดดันหรืออะไรต่างๆในด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้น และแพรวก็เชื่อในศักยภาพของทีมผู้บริหาร ทีมงานทุกคนทุกฝ่ายว่าจะสามารถพาทีมนี้ไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้ค่ะ

 

มุมมองต่อวงการฟุตบอลไทยขณะนี้

 

ถ้าเป็นในตอนนี้แพรวคิดว่าด้วยวิกฤติโควิด-19 คงไม่มีใครอยากให้เป็นแบบที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ในแง่ของทางสมาคมที่อะไรหลายๆอย่างอาจจะยังไม่ลงตัว ยังไม่ชัดเจน สปอนเซอร์ก็ไม่เหมือนเดิม มันเลยดูซบเซาลงไป แต่แพรวเชื่อว่าถ้าทุกอย่างมันลงตัวหรือกลับมาได้ สีสันของฟุตบอลบ้านเรามันก็จะกลับมา เพราะทุกคนมีทีมที่รัก ทีมที่อยากเชียร์อยู่แล้ว ทุกคนก็พร้อมที่จะออกมาเชียร์ กองเชียร์เราแต่ละคนเขารักทีมของเขาและเหนียวแน่นมากพอที่จะทำให้สีสันกลับมาในอนาคต

 

กระแสในจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นอย่างไร

 

แฟนบอลในร้อยเอ็ดดูตื่นเต้นกันมากค่ะ ทุกคนรอและขอบคุณที่เราจะพาทัพกระรอกขาวกลับมา ทุกคนดูพร้อมที่จะเชียร์ พร้อมสนับสนุน ซึ่งเราก็ขอยืนยันตรงนี้ด้วยว่าเราจะใช้ชื่อทีม ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด และฉายาของเราคือ “กระรอกขาวจ้าวสนาม” เหมือนเดิมค่ะ

 

อยากฝากอะไรถึงแฟนบอลบ้าง

 

ต้องขอขอบคุณทีมผู้บริหารก่อนค่ะที่ให้โอกาสเราได้เข้ามาทำตรงนี้ มองเห็นถึงความตั้งใจของแพรว และขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ยังรอคอยเราให้กลับมา ยังไงก็ฝากติดตามและให้กำลังใจพวกเราด้วยนะคะ ตอนนี้ทุกคนพร้อมแล้วที่จะทำทีมกระรอกขาวให้ออกมาดีที่สุดค่ะ


stadium

author

ICE Assist

Changsuek Content Creator

La Vie en Rose