25 กรกฎาคม 2563
ตามค่าเฉลี่ยสถิติแล้วนักว่ายน้ำไทยในแต่ละรุ่น มักจะมีคนที่สามารถทะลุไปติดทีมชาติไทยได้ไม่เยอะ แต่นั้นไม่ใช่กับนักว่ายน้ำเด็กผู้หญิงรุ่นที่เกิดปี 2548 หรือคลาสออฟ 48 เด็กรุ่นนี้เหมือนเป็นแสงสว่างเล็ก ๆ ที่ปลายอุโมงค์ของวงการว่ายน้ำไทย ทั้งเก่ง แถมทะลุขึ้นมากันเป็นแผง บางคนถึงขนาดข้ามรุ่นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปแล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จัก 5 สตาร์เด่นของคลาสออฟ 48 ว่าเป็นใครกันบ้าง และหาคำตอบว่าทำไม เด็กรุ่นนี้ถึงเป็นความหวังใหม่ของวงการว่ายน้ำไทย
1.จินห์จุฑา ผลแจ่มจำรัส
น้องโมจิ สาวน้อยมหัศจรรย์จากจังหวัดชลบุรี เติบโตมาจากปลุกปั้นของอาจารย์ อนุสิถ พรหมสุวรรณ เธอก้าวมาเป็นแชมป์ประเทศไทยกลุ่ม 4 ด้วยวัย 11 ปี จากนั้นเธอเริ่มอยู่ในการจับตามองของสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศ ในวัย 11 ปี กับ 7 เดือน การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของเธอคือ การข้ามทวีป และมหาสมุทร ไปฝึกซ้อมที่ประเทศออสเตรเลีย จากนั้นเธอก็ไล่ติดทีมชาติเกือบทุกชุด ทุกรายการเท่าที่นักว่ายเด็กคนหนึ่งจะติดได้ ทั้งซีเอจ กรุ๊ป, อาเซียน สคูล เกมส์, เอเชียนเอจ กรุ๊ป และกระทั่งครั้งล่าสุดในนามทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในวัย 14 ปี กับซีเกมส์ปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเธอเกือบสร้าง Surprise โค่นบัลลังก์ราชินีเจ้าสระอาเซียนของเหงียน ธิ อันห์ เวียน สำเร็จ ในท่าเดี่ยวผสม 400 เมตรหญิง ถึงแม้จะได้เพียงเหรียญเงิน แต่ด้วยวัยเพียง 14 ปี กับคาแรคเตอร์ความเป็นสาวแกร่งสู้ไม่ถอยของเธอ ทำให้อนาคตของวงการว่ายน้ำไทย และตัวเธอนั้นดูจะสดใสทีเดียว
2. กมลชนก ขวัญเมือง
น้องเนย เกิดในครอบครัวนักกีฬาอย่างแท้จริง มีคุณพ่อเป็นอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติ และคุณแม่เป็นอดีตนักวอลเล่ย์บอลระดับเขต เธอมีรูปร่างที่ดีสุด ๆ สำหรับการเป็นนักว่ายน้ำ ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 12 ปี และหลังจากนั้นก็แทบไม่มีรายการไหนที่เธอจะพลาดการลงรับใช้ชาติเลย โดยเฉพาะกับซีเอจ กรุ๊ป ที่เธอเป็นกำลังหลักในการล่าเหรียญรางวัลให้ประเทศมาตลอด เป็นเจ้าของสถิติหลายรายการ ล่าสุดเธอได้เป็นนักว่ายน้ำยอดเยี่ยมของการแข่งขันซีเอจ กรุ๊ป เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย ก่อนที่ปลายปีจะต่อยอดขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในซีเกมส์ 2019 ที่ ฟิลิปปินส์ด้วยวัยเพียง 14 ปี ซึ่งเธอก็สามารถคว้าเหรียญได้ทันทีทั้งในประเภททีมผลัด และท่าฟรีสไตล์ 800 เมตรที่เธอถนัด ในภารกิจการทวงความยิ่งใหญ่ในวงการว่ายน้ำอาเซียน ทีมชาติไทยจำเป็นต้องมีเธอเป็นขุนพลสำคัญอย่างแน่นอน
3. ภูริชญา จันยะมิตรี
น้องแกรมม่า คือมือว่ายกบ ประจำรุ่นคลอฟออฟ 48 อย่างแท้จริง จากความโดดเด่นในท่ากบ ทำให้เธอติดทีมชาติชุดซีเอจ กรุ๊ปตั้งแต่อายุ 13 ปี รวมถึงล่าสุดในปีนี้เธอก็สามารถทำเวลาผ่านเกณฑ์เข้าแข่งขันซีเอจ กรุ๊ป และศึกยุวชนโลกเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปทั้งคู่ แต่จากพัฒนาการที่ต่อเนื่องของเธอ ทำให้เธอน่าจะเป็นขุนพลกบคนสำคัญของทีมชาติไทยทั้งในประเภทเดี่ยว และประเภททีมผลัดไปอีกนานเลย
4. นภัสวรรณ จริตกล้า
น้องฟ้า ตัวเล็กที่สุดในรุ่นมาตลอดตั้งแต่เล็กยันโต แต่เธอก็พิสูจน์ตัวเอง และลบคำวิจารณ์เรื่องสรีระมาได้ตลอด ถึงจะตัวเล็กแต่ก็มีเทคนิค และความใจสู้เข้ามาทดแทน ปี 2019 ที่ผ่านมาเธอติดทีมชาติเกือบทุกชุดทั้งศึกยุวชนโลก คว้าเหรียญทองผีเสื้อ 100 เมตร, ซีเอจ กรุ๊ป และเอเชียนเอจ กรุ๊ป เธอมีความโดดเด่นในท่าผีเสื้อ และฟรีสไตล์ เรียกได้ว่าถ้ามีการจัดทีมผลัดเมื่อไหร่ ชื่อของเธอจะเป็นคนแรก ๆ ที่โค้ชทีมชาติทุกคนจะต้องนึกถึงอย่างแน่นอน
5. กมลลักษณ์ ตั้งนภากร
น้องข้าวปุ้น เริ่มว่ายน้ำในวัย 9 ปีถือว่าค่อนข้างช้าเลยสำหรับเด็กสมัยนี้ ก่อนใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปีในการก้าวขึ้นไปติดเยาวชนทีมชาติไทยชุดซีเอจ กรุ๊ป และก็สามารถคว้าเหรียญทองได้ทันที หลังจากนั้นก็ติดทีมชาติในระดับเยาวชนมาตลอดทั้งซีเอจ กรุ๊ป และเอเชียนเอจ ปลายปี 2019ที่ผ่านมาเธอเป็น 1 ใน 2 นักว่ายน้ำเยาวชนของไทยที่ได้รับการคัดเลือกไปเข้าอบรมในโครงการ Asian Swimming Youth Camp ที่โดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งเอเชีย ล่าสุดปีนี้ก็ทำเวลาผ่านเข้าแข่งขันทั้งยุวชนโลก และซีเอจ กรุ๊ป แต่ก็ถูกเลื่อนการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ตัวเธอสามารถว่ายได้ดีทั้งกรรเชียง และฟรีสไตล์ ด้วยพัฒนาการที่ต่อเนื่องทำให้เธอน่าจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยเคียงบ่า เคียงไหล่กับเพื่อนร่วมรุ่นไปอีกหลายปีเลยทีเดียว
ผลงานระดับชาติ เมื่อรวมตัวกัน
นี่คือกลุ่มนักว่ายน้ำหญิงรุ่นที่เกิดปี 2548 ที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ถ้าจะบอกว่าดีที่สุดในละแวกอาเซียนก็คงไม่ใช่การพูดที่เกินเลยไปเลย ถ้าเป็นในระดับเอเชียพวกเธอก็ยังเกาะกลุ่มอยู่ใน ท็อป 3 ถึง ท็อป 5 อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดไม่ได้พูดลอย ๆ เกิดจากผลงานที่พวกเธอแสดงออกมา อย่างเช่นในรายการซีเอจ กรุ๊ป 2019 ประเภททีมผลัดฟรีสไตล์ 4×200 เมตร รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี สตาฟโค้ชทีมไทยเราส่ง กมลชนก, จินห์จุฑา และนภัสวรรณ ซึ่งทั้ง 3 มีอายุเพียง 14 ปีทั้งหมด และมีเพียงมานิตา คนเดียวในทีมวันนั้นที่อายุ 15 ปี ลงสู้กับชาติอื่นที่มีนักว่ายน้ำอายุเยอะกว่า ผลคือทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองสำเร็จ หรือจะเป็นในศึกยุวชนโลก 2019 ที่รัสเซีย นภัสวรรณ และกมลชนก ร่วมกับรุ่นพี่อย่าง มานิตา และนวพร ที่อายุ 15 ปี คว้าแชมป์ผลัดฟรีสไตล์ 4×100 เมตร ในเวทีระดับเอเชียอย่างเอเชียนเอจ กรุ๊ป 2019 ทั้ง 4 สาวอย่าง จินห์จุฑา, กมลชนก, นภัสวรรณ และกมลลักษณ์ ก็สามารถรวมพลังกันคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้ในท่าผลัดฟรีสไตล์ 4×100 เมตรหญิงกลุ่ม C และผลัดผสม 4×100 เมตรหญิงกลุ่ม C
จากผลงานที่ผ่านมาในรอบหลายปีหลัง พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเด็กกลุ่มนี้คือ กำลังหลักในการล่าความสำเร็จให้กับวงการว่ายน้ำไทย นอกจากผลงานในทางตรงแล้ว ในทางอ้อมเด็กกลุ่มนี้ยังเป็นทั้งแบบอย่าง และแรงบันดาลใจให้นักว่ายน้ำรุ่นน้อง ๆ ในประเทศให้เจริญรอยตาม ไม่ว่าอนาคตเด็กลุ่มนี้จะดีพอขึ้นไปเขย่าบัลลังก์ราชาอาเซียนของสิงคโปร์ และเวียดนาม หรือจะเป็นในระดับเอเชียหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่พวกเธอทำมาทั้งหมดก็ได้จุดประกายความหวังเล็ก ๆ ให้กับวงการว่ายน้ำไทยไปแล้ว ส่วนจะจุดติดแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องตามดูกันต่อไป
TAG ที่เกี่ยวข้อง