21 กรกฎาคม 2563
กลายเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนกีฬาไทยมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคอกีฬามอเตอร์สปอร์ต สำหรับ อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่ลงแข่งขันในนามคนไทยเป็นฤดูกาลที่สองในชีวิต ในวัย 24 ปี ถือว่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมทั้งร่างกายและจิตใจ ผลงานในสนามเก็บแต้มได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้เคียงที่จะได้ขึ้นโพลเดี้ยมเป็นครั้งแรก และนี่คือเรื่องราวของอเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งรถ F1 ลูกครึ่งอังกฤษ ที่มีหัวใจและสายเลือดเป็นคนไทย
สวนหลังบ้าน
“ผมพูดคำว่าเฟอร์รารี่ได้ก่อนคำว่า มามี้ กับ แดดดี้ เสียอีก ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆที่ไม่มีใครสอน อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาที่กำหนดให้ผมเป็นนักแข่งรถอย่างในปัจจุบัน” อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ หรือ ”อเล็กซ์ อัลบอน” เล่าถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางความเร็ว ก่อนจะกลายเป็นนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน หนึ่งเดียวของไทยในปัจจุบัน คำพูดข้างต้นไม่ได้ดูเกินจริงเลยแม้แต่น้อย กับเส้นทางของนักขับวัย 24 ปีรายนี้ที่มีคุณแม่เป็นคนไทย เพราะ อเล็กซ์ อัลบอน นั้นชื่นชอบและหลงใหลในกีฬาความเร็วมาตั้งแต่เด็ก โดยมี มิชาเอล ชูมัคเคอร์ ตำนานยอดนักขับรถ F1 เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย เป็นไอดอล
จากความหลงใหลของ อเล็กซ์ อัลบอน เมื่ออายุได้ 6 ขวบ เพื่อให้ลูกชายได้มีสถานที่ฝึกฝนทักษะการขับรถ คุณพ่อของเขา "ไนเจล อัลบอน" ซึ่งเป็นอดีตนักแข่งรถทัวร์ริ่งคาร์ของอังกฤษตัดสินใจลงทุนเปลี่ยนโฉมสนามหลังบ้าน นำอิฐมาวางเรียงต่อกันเป็นแถวจนกลายเป็นสนามแข่งรถขนาดย่อม ตอนนั้นเองที่ อเล็กซ์ อัลบอน ได้เริ่มหัดขับรถโกคาร์ทเป็นครั้งแรก โดยมีคุณพ่อเป็นผู้ฝึกสอน หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 ปี ด้วยความชื่นชอบทำให้เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็มีใบอนุญาตสำหรับลงแข่งรถโกคาร์ท
“มิชาเอล ชูมัคเคอร์ คือต้นแบบของผม ส่วนคุณพ่อคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต อาจจะเป็นเพราะพ่อเคยเป็นนักแข่งรถ บวกกับแรงสนับสนุนของครอบครัวที่เปลี่ยนสวนหลังบ้านให้กลายเป็นสนามแข่งเล็กๆ ซื่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมหลงใหลในความเร็ว บางทีผมก็แอบเชื่อนะว่าของแบบนี้มันส่งต่อผ่านกันทางสายเลือดได้” อเล็กซ์ อัลบอน พูดถึงแรงบันดาลใจในการเป็นนักแข่งรถ
แพสชั่น ความเร็ว ความมุ่งมั่น
“ในชีวิตเขาไม่เคยอยากทำอะไรนอกจากการแข่งรถ ไม่สนใจอย่างอื่น ที่แปลกคือ เขาเป็นคนเงียบมากไม่ชอบพูด มุ่งมั่นอยากจะเอาชนะและเกลียดความพ่ายแพ้” กัญญ์กมล อังศุสิงห์ คุณแม่พูดถึงลูกชาย
อเล็กซ์ อัลบอน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการลงแข่งขันรายการแรก จบอันดับ 4 แม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ แต่สำหรับมือใหม่แล้วถือเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยทีเดียว ขณะเดียวกันครอบครัวของเขาก็ได้เห็นถึงพรสวรรค์ จึงพร้อมผลักดันและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พาไปเดินสายแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซ์ อัลบอน ก็เริ่มประสบความสำเร็จเริ่มคว้าถ้วยรางวัลได้มากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2009 เขาคว้าแชมป์ได้เป็นกอบเป็นกำ ทั้งแชมป์วินเทอร์ ซีรีส์, แชมป์ซุปเปอร์วัน รายการบริติช เอ็มเอสเอ จูเนียร์ รุ่นอายุ 12-15 ปี, แชมป์ฟอร์มูล่า คาร์ต สตาร์ส รุ่นจูเนียร์
ความสำเร็จของ อเล็กซ์ อัลบอน ไม่หยุดอยู่แค่นั้น ปีต่อมาเขาก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์โลกโกคาร์ท คลาส KF3 ของสหพันธ์แข่งรถนานาชาติ ทำให้สื่อต่างประเทศให้ความสนใจยกให้เขาเป็นดาวรุ่งน่าจับตามองของวงการ
“ผมเกลียดความพ่ายแพ้ และคิดอยู่ตลอดต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุกวัน ฝึกฝนอย่างหนักทั้งร่างกายและทักษะเพื่อทำสถิติให้ดีขึ้น เวลาอยู่หลังพวงมาลัยเป็นเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด” อเล็กซ์ อัลบอน ตอกย้ำคำพูดของคุณแม่
ชีวิตมีขึ้นมีลง
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้ เรดบูลล์ จับ อเล็กซ์ อัลบอน เซ็นสัญญาเข้าโปรแกรมนักขับเยาวชนของทีมในปี 2012 เขาเป็นนักขับคนไทยเพียงคนเดียว และอายุน้อยสุดจากทั้งหมด 6 คนในโครงการของเรดบูลล์ จูเนียร์ โปรแกรม และมีโอกาสได้ตระเวนแข่งขันเก็บประสบการณ์ในรายการต่าง ๆ โดยรายการแรกที่ลงแข่งคือ ฟอร์มูล่า เรโนลต์ 2.0 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงแข่งรถความเร็วสูงแบบหนึ่งที่นั่ง
แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการปรับตัว และยังต้องแบกรับความกดดันจนไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ จนถูกดร็อปออกจากทีมไป ถือเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องเผชิญกับฝันร้ายที่ไม่คาดคิด ความฝันที่จะไปให้ถึงฟอร์มูล่า วัน ดูจะห่างไกลความจริงออกไป อย่างไรก็ตามเขายังคงมุ่งมั่นกับการพัฒนาตัวเอง จนในที่สุดก็เริ่มปรับตัวได้และกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
อเล็กซ์ อัลบอน มีโอกาสได้ไปขับในฟอร์มูล่าทรีกับทีมซิคเนเจอร์ ก่อนจะฉายแววอันโดดเด่นก่อนจะถูกจับยกระดับขึ้นมาแข่งรุ่น ฟอร์มูล่า ทู ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว และในฤดูกาล 2018 เขากวาดแชมป์ได้ถึง 4 สนาม เก็บได้ 212 คะแนน จบเป็นอันดับ 3 ในตารางสะสมคะแนนนักแข่ง บนถนนแห่งความฝันเส้นนี้เขาขยับเข้าใกล้ ฟอร์มูล่า วัน ไปอีกครั้ง
จากฟอร์มูล่าอี สู่ ฟอร์มูล่า วัน
แม้ว่าในฤดูกาล 2018 เขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ยังคงไร้ซึ่งวี่แววว่าจะมีทีมจาก ฟอร์มูล่า วัน ต้องการได้ลายเซ็นของเขาไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้า อเล็กซ์ อัลบอน ดูท่าจะหมดหวัง เขาจึงตัดสินใจไปเซ็นสัญญาเข้าเป็นนักขับในฤดูกาล 2019 ให้กับทีม นิสสัน อี.แดมซ์ ในศึกรถแข่งขันไฟฟ้าฟอร์มูล่า อี
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน ทีมโตโร รอสโซ่ ทีมลูกของเรดบูลล์ ในฟอร์มูล่า วัน ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ เบรนดอน ฮาร์ทลีย์ นักขับในทีม พร้อมกับดึงดานีล คีฟยาต เข้ามาแทน ปิแอร์ แกสลีย์ ที่ถูกดันขึ้นไปขับในทีมเรดบูลล์ ทำให้ในทีมมีที่ว่าง ทีมงานจึงมองหานักขับฝีมือดีก่อนจะมาเลือก อเล็กซ์ อัลบอน อดีตนักขับในสังกัดอีกครั้ง
“ตลอดอาชีพนักแข่งรถ ผมมีช่วงเวลาขึ้น ๆ ลง ๆ เคยถูกดร็อปจากเรดบูลล์ในปี 2012 หลังจากนั้น ผมคิดมาตลอดว่าเส้นทางฟอร์มูล่าวันของผมมันคงยากขึ้น ผมต้องทำงานหนักกว่าที่ผ่านมา ผมอยากจะขอบคุณ เรดบูลล์ กับ ดร.เฮลมุท มาร์โก ที่เชื่อมั่นในตัวผมและให้โอกาสครั้งที่สองกับผม”
และถึงแม้ว่า อเล็กซ์ อัลบอน จะใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษมากกว่าไทย แต่เขาเลือกที่จะลงขันฟอร์มูล่า วัน ในนามของคนไทย ทำให้เขากลายเป็นคนไทยคนที่ 2 และคนแรกในรอบ 65 ปี ต่อจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงเข้าร่วมการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ระหว่างปี 1950-1954
“ถึงผมจะมีพ่อเป็นชาวอังกฤษ แต่คุณแม่ผมเป็นคนไทย ผมเองก็เคยเป็นนักแข่งในสังกัดเรดบูลล์ ของคุณเฉลิม อยู่วิทยา คนที่ให้โอกาสผมในการเป็นนักแข่ง จึงมีความผูกพันธ์และรู้สึกว่าตนเองควรลงแข่งในฐานะตัวแทนของประเทศไทย” อเล็กซ์ อัลบอน
ถึงตอนนี้เขาลงแข่งฟอร์มูล่า วันเป็นฤดูกาลที่ 2 ในชีวิต และจากฟอร์มการขับก็ดูจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ มีโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ได้ขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยมในการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน
“กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลาย ๆ คนคิด คุณต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างหนัก เพราะคู่แข่งของคุณเองล้วนอยู่ในระดับโลกทั้งสิ้น วันไหนที่คุณคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ไม่ต้องซ้อม หรือไม่ต้องเคร่งครัดกับระเบียบวินัยที่เทรนเนอร์ได้วางไว้ วันนั้นคือจุดจบของคุณ เพราะมีผู้คนมากมายที่ทุ่มเทและพัฒนาตัวเองในทุกวัน การแข่งขันในระดับ ฟอร์มูล่า 2 ถือเป็นอีกจุดที่พลิกชีวิตผมเลยก็ว่าได้”
“ผมไม่เคยโกหกความรู้สึก ไม่เคยหักหลังความฝัน เป้าหมายเดียวที่ผมตั้งเป้าเอาไว้ก็คือ การเป็น “แชมป์โลก” รถสูตรหนึ่งให้ได้ วันนี้ผมอาจจะยังตอบไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ผมรู้แค่ว่าผมต้องพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน ผมเชื่อว่าด้วยแรงสนับสนุนต่างๆ ความมุ่งมั่น และกำลังใจจากคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผมไปถึงจุดที่ตั้งใจเอาไว้”
TAG ที่เกี่ยวข้อง