14 กรกฎาคม 2563
“ซันนี่ สายล่อฟ้า” หรือ อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ ปัจจุบันรั้งมือ 55 ของโลก เป็น 1 ใน 4 นักสอยคิวไทยที่ได้รับสิทธิ์ให้ลงแข่งขันในระดับอาชีพจากเวิลด์สนุกเกอร์ เขามาถึงตรงนี้ได้ต้องฝ่าฟันเส้นทางที่มีแต่เสียงวิจารย์มาตลอด เพราะมีคุณพ่อที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการจับไม้คิวเป็นครูผู้สอนกีฬาสนุกเกอร์ให้กับเขา รวมไปถึงลักษณะท่าทางการยืนและสไตล์การแทงที่เน้นความละเอียดจนขาดสีสีน และการใช้เรสต์ที่เจ้าตัวชอบโยกตัวเองไปด้านหลัง ดูแปลกตาไม่เหมือนในตำราที่นักสนุกเกอร์ทั่วไปส่วนใหญ่มักจะเอนตัวไปข้างหน้า จนกลายเป็นแกะดำของวงการสอยคิวไทย
อย่างไรก็ตามเหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ มีคนมองแง่ร้ายก็ย่อมมีคนเห็นข้อดี ความสามารถของซันนี่ นั้นดันไปถูกใจ รอนนี่ โอซุลลิแวน ยอดนักสอยคิวของโลก ถึงขั้นสมัครเป็นแฟนคลับของ ซันนี่ ไปแล้ว และนี่คือเรื่องราวของ ซันนี่ สายล่อฟ้า แกะของวงการสอยคิวไทย ที่ยอดนักสนุกเกอร์ระดับโลกอย่าง รอนนี่ โอซุลลิแวน ให้การยอมรับ
เรียนสนุ้กกับพ่อผู้ไม่เคยจับไม้คิว
ซันนี่ เล่นกีฬาสนุกเกอร์มาตั้งแต่ 8 ขวบ จุดเริ่มต้นเป็นเพราะว่าเวลานั้นตัวเขามีความสนใจอยากจะเล่นกีฬา โดยคุณพ่อ สรายุทธ ส่งเสริมสวัสดิ์ ก็ให้เจ้าตัวเลือกระหว่าง สนุกเกอร์ กอล์ฟ และยิงปืน สาเหตุที่ให้เลือก 3 ชนิดกีฬาดังกล่าวเป็นเพราะว่า คุณพ่อของซันนี่ เคยเป็นนักกีฬายิงปืนดีกรีเยาวชนชิงแชมป์เอเชียมาแล้ว นอกจากนั้นยังเคยเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล เทนนิส ฯลฯ แต่พออายุมากขึ้นมันส่งผลกระทบกับร่างกาย เลยอยากให้ลูกชายนั้นได้เล่นกีฬาที่ไม่ต้องมีการกระทบกระทั่ง
ซันนี่ มองข้ามยิงปืนเป็นลำดับแรก เนื่องจากมองว่าอันตรายเกินไปสำหรับเด็กอายุ 8 ขวบ ดังนั้นคุณพ่อจึงพาเขาไปดูการแข่งขันอีก 2 ชนิดกีฬา สุดท้ายเขาชอบสนุกเกอร์มากกว่า หลังจากนั้นเขาเริ่มจับไม้คิวอย่างจริงจัง ซ้อมหนักวันละ 8 ชั่วโมง โดยมีคุณพ่อสรายุทธ คอยดูแลการฝึกซ้อมให้ลูกชายด้วยตัวเองทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อก็ไม่เคยจับไม้คิวเลยสักครั้งในชีวิต เพียงแต่อาศัยความรู้พื้นฐานหลักฟิสิกส์และคณิตศาสตร์คำนวณเหลี่ยมการแทง เรียนรู้ถูกผิดไปพร้อมกับลูกชาย
แต่ไม่น่าเชื่อว่าด้วยวิธีการสอนตามหลักวิทยาศาสตร์ของคุณพ่อสรายุทธ จะทำให้ ซันนี่ พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว 3 ปีให้หลังนับตั้งแต่จับไม้คิวครั้งแรก ซันนี่ก็คว้าแชมป์แรกในตอนอายุ 11 ขวบ ในรายการสนุกเกอร์นักเรียนนครหลวง หลังจากนั้นเขาก็กวาดแชมป์รายการระดับเยาวชนในประเทศมาจนครบ ไม่ว่าจะเป็น เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย
ลูก(แกะ)ดำบนโต๊ะสนุ้ก
ด้วยความที่ ซันนี่ มีพ่อผู้ไม่เคยจับไม้คิวมาเป็นโค้ชผู้ฝึกสอนและผู้จัดการให้ทุกอย่าง แถมท่าทางการยืนและแอคชั่นในการออกคิวแต่ละครั้งนั้นดูแตกต่างจากตำราที่นักสอยคิวทั่วไปเคยได้เรียนมา ทำให้เขาเจอเสียงวิจารย์ต่าง ๆ นานา และถูกมองว่าเป็นแกะดำของวงการสอยคิวไทยอย่างช่วยไม่ได้ บ่อยครั้งที่เสียงวิจารณ์นั้นลอยไปเข้าหู ไม่เว้นแม้กระทั่งแมตช์ที่ดวลกับ รอนนี่ โอซุลลิแวน ในศึก ยูเค แชมเปี้ยนชิพ ผู้บรรยายภาษาอังกฤษก็ยังแซะเรื่องลักษณะการแทง แต่สำหรับ ซันนี่ เขามองว่าไม่จำเป็นต้องมีแอคชั่นที่เหมือนคนทั่วไปหรือการยืนที่สวยงาม ขอแค่ยืนให้ถูก ร่างกายไม่เจ็บและแทงลงก็พอ สุดท้ายในวันนั้นเขากดเซนจูรี่เบรก ครั้งที่ 15 ในชีวิต ใส่แชมป์โลก 5 สมัย
แกะดำที่มืออาชีพยอมรับ
จุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งใหญ่ของ ซันนี่ คือการเดินทางมาถึงขวบปีที่ 20 เขาได้สิทธิ์เป็นตัวแทนนักสนุกเกอร์ไทยไปแข่งขันรายการเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2015 ที่ประเทศจีน โดยแชมป์รายการนี้จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกเป็นของรางวัล ความยากของแมตช์นี้นอกจากจะเสียเปรียบเรื่องกองเชียร์แล้ว เจ้าภาพอย่างจีนยังส่งนักสนุกเกอร์ฝีมือดีที่เป็นอนาคตลงแข่งขันกว่า 10 คน ขณะที่ชาติอื่นส่งนักกีฬาได้เพียง 2-3 คนเท่านั้น
ท้ายที่สุด ซันนี่ ก็พาตัวเองไปรอบชิงชนะเลิศจนได้ โดยพบกับ Yuan Sijun 1 ใน 3 ความหวังของเจ้าภาพ วันนั้นแข่งกันโดยใช้ระบบ 6 ใน 11 เฟรม ซึ่ง ซันนี่ ตกเป็นรองไปก่อน 0-4 เฟรม ภาพความหวังของเขาที่จะเป็นแชมป์และไปเล่นสนุกเกอร์อาชีพริบหรี่ลงเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ซันนี่ ก็ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ พลิกกลับมาชนะ 6 เฟรมรวด คว้าแชมป์ไปครองพร้อมได้สิทธิ์เล่นอาชีพ
ความฝันดูเหมือนจะเป็นจริงแล้ว แต่ต้องมาเจอเรื่องตลกร้ายที่ขำไม่ออก เมื่อ ซันนี่ นั้นมีคุณสมบัติไม่เข้าข่ายเป็นนักกีฬาของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จึงไม่ได้งบประมาณช่วยเหลือในการไปแข่งขันอาชีพที่อังกฤษ ฝันของเขาแทบจะสลายลงในพริบตา เพราะเขาไม่มีเงินทุนมากพอที่จะซื้อตั๋วไปอังกฤษถึง 2 ใบ รวมถึงแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ความรู้สึกต่าง ๆ ถาโถมเข้าใส่เด็กหนุ่มวัย 20 ปี จนรู้สึกท้อแท้และไม่มีแรงที่จะเดินหน้าต่อ
อย่างไรก็ตามโอกาสเดียวของ ซันนี่ ที่จะหาเงินได้มากพอในเวลาอันสั้นก็คือการคว้าแชมป์ สนุกเกอร์ ดิวิชั่น 1 ให้ได้ เพราะแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า ซันนี่ ทำได้จริง ๆ มีเงินทุนสำหรับบินไปแข่งชิงแชมป์โลกรอบคัดเลือกครั้งแรก โอกาสจะทะลุเข้าไปครูซิเบิลดูจะยากเกินไปสำหรับเด็กไร้ประสบการณ์ และเขาก็ตกรอบคัดเลือกรอบแรกไปตามระเบียบ โดยแพ้ให้กับ รุ่นพี่อย่าง เอฟ นครนายก ไปแบบเฉียดฉิว 9-10 เฟรม
การลงทุนด้วยเงินก้อนเดียวที่หมดไปกับการแข่งขันรายการนี้ เขาไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า นอกจากจะได้ประสบการณ์แล้ว ฟอร์มวันนั้นยังไปเข้าตานายทุนชาวอินเดียถึงขั้นเดินเข้ามาหาแล้วควักเงินให้ ซันนี่ ได้ไปแข่งรอบคัดเลือก 3 รายการที่เปรสตัน ผลสุดท้าย ซันนี่ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรายการเดียวคือ อินเดียน โอเพ่น พร้อมกับทะลุเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้าย โดยผลงานที่ทำให้เข้าแจ้งเกิดคือการเอาชนะ มาร์ค เดวิส นักสอยคิวมือระดับโลกชาวอังกฤษ นอกจากนั้นหลังจบทัวร์นาเม้นท์ แอนโทนี่ แม็คกิลล์ นักสอยคิวจากสกอตแลนด์ยังยกย่องให้ ซันนี่ เป็นนักสนุกเกอร์อายุ 21 ปี ทีดีที่สุดในโลกในเวลานั้น
เวลาต่อมา ซันนี่ เริ่มเอาชนะนักสุนกเกอร์ระดับโลกได้หลายคน อาทิ แบร์รี ฮอว์กินส์ , มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์ จนเป็นที่ชื่นชอบของ “เดอะ ร็อคเก็ต” รอนนี่ โอซุลลิแวน ตำนานนักสนุกเกอร์ชาวอังกฤษ โดยในแมตช์ที่ ซันนี่ ชนะ มาร์ค เจ วิลเลี่ยมส์ ได้นั้น รอนนี่ ถึงกับเอ่ยปากชมมาแล้ว และที่สำคัญยังเคยเกือบเอาชนะ รอนนี่ ได้ในรายการ ยูเค แชมเปี้ยนชิพ 2017 ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากชิงแชมป์โลก โดย ซันนี่ สู้ได้อย่างสนุกและเกือบจะเอาชนะได้ด้วยซ้ำ หลังขึ้นแท่นนำ 5-4 เฟรม ก่อนจะพลิกแพ้ 5-6 เฟรม ทำเอาแฟนสนุกเกอร์ในบาร์บิแคน เซ็นเตอร์ ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เลยทีเดียว
“ซันนี่ จะมีอาชีพที่สดใสรออยู่แน่นอน ผมเห็นเขากับพ่อมุ่งมั่นฝึกซ้อมด้วยกันตลอด มีทีมเวิร์กที่ดีมาก ขอให้ตั้งใจต่อไป มีความสุขกับการเล่นสนุกเกอร์ ผมบอกเลยว่า ผมเป็นแฟนคลับเขาแล้ว ยอดเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมมาก" “เดอะ ร็อคเก็ต” กล่าวชื่นชมนักสอยคิวไทย
ไม่เพียงเท่านั้นหลังจบเกม ซันนี่ ยังถูกสื่อต่างประเทศ สื่อในไทย รวมถึงเพจสนุกเกอร์ต่าง ๆ สัมภาษณ์ ชื่นชมและยกให้เป็นนักสอยคิวที่น่าจับตามองคนใหม่
นักเรียนโฮมสคูล การศึกษานอกระบบ สู่นักกีฬาอาชีพ
ต้องยอมรับว่าการส่งเสริมการเป็นนักกีฬาอาชีพกับระบบการศึกษาในเมืองไทยนั้นยังคงสวนทางกัน วิธีการฝึกซ้อมของนักกีฬาที่จะก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาอาชีพจะเริ่มฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เด็ก อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ขณะที่เดียวกันตัวเลขดังกล่าวยังเป็นจำนวนชั่วโมงเรียนที่ระบบการศึกษาให้เด็กไทยใช้เวลาเรียนเท่ากัน
ในเรื่องนี้ครอบครัวของ ซันนี่ นั้นรู้ดี เขาจึงเลือกที่จะเรียนแบบโฮมสคูลตั้งแต่อนุบาล โดยมีพ่อแม่เป็นครูสอนทุกวิชา ทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ผ่านตำราหนังสือขอกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เขาอ่านออกเขียนได้มากกว่าเด็กวัยเดียวกัน และเมื่อต้องเข้าไปเรียนในระบบ ซันนี่ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้พัฒนา จึงเลือกที่จะกลับมาเรียนโฮมสคูลอีกครั้ง
ซันนี่ นั้นโตมากับเรียนการศึกษาทางเลือก ซึ่งทำให้เขาสามารถปรับเวลาเรียนให้สอดคล้องไปกับการฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันภายใต้การดูแลของครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้เขาขาดทักษะด้านใดด้านหนึ่งไป และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพได้อย่างเต็มตัวอีกด้วย
TAG ที่เกี่ยวข้อง