5 กรกฎาคม 2563
ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ กับเจ้าภาพฟุตบอลโลกหญิง 2023
#ChangsuekFocus
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีประกาศสำคัญจากทางฟีฟ่ากับการได้เจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2023 หลังจากที่ญี่ปุ่นถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอันเนื่องมาจากการที่ต้องทุ่มเทหลายๆอย่างให้กับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ต้องเลื่อนออกไปเป็นกลางปีหน้า ทำให้ดูจะเป็นเรื่องหนักหน่วงเกินไปหากต้องรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาใหญ่ๆระดับโลกถึง 2 รายการติดต่อกันในช่วง 3 ปี
แต่หากดูผลการประเมินความพร้อมเบื้องต้น (ที่พัก, การเดินทาง และสาธารณูปโภคต่างๆ) จากบรรดาชาติที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหญิง 2023 ญี่ปุ่นเป็นเพียงเต็งสองเท่านั้น เพราะคะแนนที่ออกมา โคลอมเบีย ได้ 2.8 คะแนน ญี่ปุ่น 3.9 คะแนน และ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมนั้นได้ไป 4.1 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 ทำให้การที่สองชาติจากทวีปโอเชียเนียได้รับหน้าเสื่อจัดศึกลูกหนังสตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ดูจะไม่ใช่เรื่องพลิกโผแต่อย่างใด แถมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็ไม่ใช่ชาติโนเนมที่อยู่ๆจะมาขอจับงานใหญ่โดยไม่มีผลงานที่ดีมาก่อน
ทีมชาติออสเตรเลียคือหนึ่งในทีมขาประจำในศึกฟุตบอลโลกหญิง โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันถึง 7 จาก 8 ครั้งที่จัดการแข่งขันขึ้น เข้ารอบลึกสุดคือรอบก่อนรองชนะเลิศถึง 4 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดต้องจอดป้ายเพียงรอบ 16 ทีม โดยพลาดท่าแพ้จุดโทษให้กับนอร์เวย์ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามขุนพล"มาทิลด้า"ก็ยังมีอันดับโลกที่สูงที่สุดในย่านเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยการอยู่อันดับที่ 7 เป็นการการันตีได้ว่าพวกเธอเป็นเต้ยในโลกลูกหนังสาวและฝีเท้าก็สามารถวัดได้กับทีมท็อปๆของโลกได้สบาย
ส่วนนิวซีแลนด์ ทีมอันดับ 23 ของโลกก็ไม่ธรรมดา ได้ลุยศึกฟุตบอลโลกไปทั้งสิ้น 5 ครั้งนับตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1991 แต่ผลงานดีสุดเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น ยังไม่เคยทะลุเข้ารอบน็อคเอาท์ได้เลย ซึ่งครั้งล่าสุดก็จบลงด้วยอันดับสุดท้ายของกลุ่มโดยที่ไม่มีคะแนน
จากผลงานระดับโลกก็คงไม่มีอะไรน่ากังขากับการเป็นเจ้าภาพของทั้งสองชาติ คราวนี้มาดูความพร้อมกันบ้าง โดยศึกฟุตบอลโลกหญิง 2023 จะมีการเพิ่มจำนวนทีม จากเดิม 24 เพิ่มเป็น 32 ทีมเท่ากับฟุตบอลโลกของฝ่ายชาย นั่นหมายความว่าจำนวนแมตช์จะเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 52 แมตช์ เป็น 64 แมตช์ และจากครั้งล่าสุดที่ประเทศฝรั่งเศสใช้สนามไปทั้งสิ้น 9 สนาม ในครั้งนี้ก็ต้องมาดูกันว่าจะต้องใช้สนามเพิ่มจากเดิมกี่สนาม หรือจะใช้ 12 สนามเท่ากับฟุตบอลโลกของฝ่ายชาย เพราะจำนวนทีมที่เข้าแข่งขันเท่ากันแล้ว ซึ่งเรื่องของสนามคงไม่มีปัญหาสำหรับทั้ง 2 ชาติ โดยเฉพาะออสเตรเลียที่มีสนามระดับความจุ 15,000 คน ถึง 27 สนาม ส่วนทางด้านนิวซีแลนด์ก็มีถึง 15 สนาม และจากการประเมินของทางฟีฟ่าในช่วงก่อนหน้านี้ที่ได้คะแนนไป 4.1 จากคะแนนเต็ม 5 คงบ่งบอกได้ชัดแล้วว่าการเป็นเจ้าภาพของ 2 ชาตินี้ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน
จริงๆแล้วการที่ฟุตบอลโลกหญิงจัดขึ้นที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็นับเป็นผลดีอยู่บ้างกับแข้งสาวไทย เพราะสองครั้งที่ผ่านมาเราต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงประเทศแคนาดาและฝรั่งเศส แน่นอนว่าเรื่องของสภาพอากาศที่เจอนั้นไม่คุ้นชินอย่างแน่นอน รวมถึงเรื่องเวลาที่แตกต่างกับบ้านเราค่อนข้างมาก ก็อาจจะเป็นไปได้ในเรื่องของการปรับตัวที่จะทำได้ช้ากว่าชาติอื่นๆ แต่เมื่อมาแข่งที่ออสเตรเลียจะเร็วกว่าไทยแค่ 3 ชั่วโมง และนิวซีแลนด์เร็วกว่า 5 ชั่วโมง ที่สำคัญครั้งหน้ามีการเพิ่มจำนวนทีมเป็น 32 ทีม โอกาสของ 'ทัพชบาแก้ว' ที่จะได้ลงเล่นฟุตบอลโลกหนที่ 3 คงเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในช่วงนี้ผลงานของฟุตบอลหญิงเราจะดร็อปลงไปก็ตาม แต่ก็ยังถือว่ามีภาษีพอสมควรในการที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายและไปเหยียบดินแดนจิ้งโจ้หรือดินแดนกีวีที่ไหนซักแห่งหากเราทำได้ตามเป้าแบบเมื่อ 2 ครั้งก่อน
เรื่องผลงานคงยังไม่ต้องพูดถึง เพราะจากนี้ไปแข้งสาวไทยยังมีอะไรให้ต้องปรับอีกมากมายจากผลงานที่ผ่านมาในซีเกมส์รวมถึงตอนคัดโอลิมปิกที่ทำเอาแฟนบอลอดที่จะหดหู่ไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้ก็ไม่แน่ว่าการที่เราได้เห็นว่าฟุตบอลโลกหญิงครั้งต่อไปจะจัดขึ้นไม่ห่างจากประเทศไทยมากนัก แฟนบอลมีโอกาสรับชมมากขึ้น แถมมีคนไทยอาศัยอยู่ใน 2 ประเทศข้างต้นก็มากพอสมควร อาจจะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่จะอาศัยข้อดีดังกล่าวในการพยายามสานฝันครั้งที่ 3 สู่ฟุตบอลโลกเพื่อเรียกศรัทธาและแก้ตัวจากความผิดหวังในรายการที่ผ่านมา
คำว่า "ฟุตบอลโลก" มันดูขลังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลกชายหรือหญิงก็ตาม การที่เราจะมีโอกาสได้ชมฟุตบอลโลกในช่วงเวลาที่เหมาะกับการรับชมตามเวลาบ้านเราแบบนี้คงไม่มีเข้ามาบ่อยๆ ฉะนั้นหลังจากนี้เราคงต้องให้กำลังใจทัพชบาแก้วในทุกรายการที่จะลงแข่งขัน เพื่อที่ปี 2023 เราจะได้มีโอกาสชมคนไทยในเวทีระดับโลกอีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญการได้ลุยฟุตบอลโลกและแฟนบอลไทยมีโอกาสได้ชมการถ่ายทอดสดมากขึ้นคงจะเป็นการปลุกกระแสฟุตบอลหญิงที่ดีที่สุดทางหนึ่งอีกด้วย
เมื่อทัพ'เดอะไวท์'มีนายใหม่ชื่อ “ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้!”
ระหว่าง “เดอะตุ๊ก” กับ “ซิโก้” ใครคือศูนย์หน้าเบอร์1ของเมืองไทย ?
TAG ที่เกี่ยวข้อง