บทสรุป 5 สิ่งที่เห็นหลังจบวอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก 2022

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก 2022 โดยประเภททีมหญิง แชมป์ ตกเป็นของทีมชาติอิตาลี ที่เอาชนะทีมชาติบราซิลไปได้ ในรอบชิงชนะเลิศ 3-0 เซ็ต ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าฟอร์มการเล่นในรายการนี้ หาทีมไหนมาต้านอิตาลีได้ยากจริงๆ และนี่ก็คือ บทสรุป 5 สิ่งที่เรามองเห็นจากรายการเนชั่นส์ ลีก ในปีนี้

การเข้ามาของดูแลการตลาดของ Volleyball World อย่างเต็มตัว

กล่าวได้ว่าตั้งแต่วอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2021 สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB ได้มอบสิทธิ์ให้ Volleyball World ดูแลทั้งเรื่องการจัดการแข่งขัน, การดำเนินการผลิตสัญญาณ และขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, การขายสินค้าและของที่ระลึก ซึ่งอาจจะยังเห็นไม่ชัดเจนในปีที่ผ่านมาเนื่องจากจัดการแข่งขันแบบ Bubble เพราะสถานการณ์ระบาดของโควิด 19 แต่พอมาถึงเนชั่นส์ ลีก 2022 จะเห็นการดำเนินการของ Volleyball World อย่างเต็มรูปแบบ โดยเริ่มตั้งแต่ การถ่ายภาพ และวีดีโอนักกีฬาแต่ล่ะทีม เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์การแข่งขัน, มุมกล้องและเทคนิคการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะรูปแบบการจัดการแข่งขัน ที่ปรับเปลี่ยนมาเป็น Sport & Entertainment อย่างเต็มตัว อย่างที่เราได้รับชมกันไป ไม่ว่าจะเป็นระบบแสง สี เสียง ระหว่างการแข่งขัน และการสัมภาษณ์ผู้ฝึกสอนของทั้งสองทีมหลังจากจบการแข่งขันเซ็ตที่ 2 โดยทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความน่าติดตามให้กับผู้ชม ซึ่งก็ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ในวงการวอลเลย์บอลที่น่าติดตามว่าจะพัฒนาไปในรูปแบบใดต่อไปในอนาคต

• ดีให้รักษา ปัญหาให้แก้ไข! 6 สิ่งที่เห็นจากวอลเลย์บอลสาวไทยหลังจบเนชั่นส์ ลีก
• ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเชียร์ไทยในเนชั่นส์ลีก 2022
• ชีวิตดั่งนิยาย ฟ้าหลังฝนของ หัถตยา บำรุงสุข
• เคล็ดลับความปัง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ผลลัพธ์จากการชุบตัวใน วี.ลีก
• รู้จัก มาซาโยชิ มานาเบะ โค้ชมือทองของวงการวอลเลย์บอลญี่ปุ่น

การเปลี่ยนแปลงของกติกา และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการตัดสิน

การแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 นั้น ถ้าหากแฟนๆ สังเกตกันดีๆ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของกติกา และนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการตัดสินหลายอย่าง โดยที่เห็นชัดๆ ได้แก่

• การปรับลดจำนวนครั้งของเวลานอกทางเทคนิคจากเดิม จำนวน 2 ครั้ง ตอนคะแนนที่ 8 และ 16 โดยปรับลดเหลือ 1 ครั้ง ตอนคะแนนที่ 12
• การปรับลดจำนวนครั้งของเวลานอกของแต่ล่ะทีม จากเดิม 2 ครั้งต่อเช็ต ปรับลดเหลือ 1 ครั้งต่อเซ็ต

โดยการปรับลดจำนวนครั้งชองเวลานอกทั้งสองประเภทนี้ น่าจะเป็นเพราะเหตุผลทางด้านการตลาด โดยทาง Volleyball World ต้องการให้เวลาการแข่งขันกระชับมากยิ่งขึ้น เพราะว่าหลังจากที่มีการนำเอาเทคโนโลยีชาเล้นท์เข้ามาใช้ เวลาการแข่งขันได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งผลจากการสำรวจนั้นพบว่า เวลาการแข่งขันที่นานเกินไป ไม่สามารถดึงความสนใจของคนดูหน้าใหม่ๆ ให้อยู่ดูได้จนจบ ซึ่งส่งผลกระทบไปยังเรื่องเรตติ้งของการถ่ายทอดสด และการบริหารเวลาของช่องโทรทัศน์ที่ทำการถ่ายทอดสดด้วย

• การหายไปของกรรมการที่กำกับเส้น จริงๆ ในเรื่องนี้ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้เริ่มปรับเปลี่ยนมาตั้งแต่เนชั่นส์ ลีก 2021 โดยได้ลดกรรมการกำกับเส้นจากเดิม 4 คน เหลือ 2 คน แต่มาถึงในปีนี้ได้ปรับเป็น ไม่มีกรรมการกำกับเส้นเลยสักคนเดียว โดยได้นำเอาเทคโนโลยี “Hawk Eye” เข้ามาช่วยในจุดนี้ ถ้าหากกรรมการที่ 1 ไม่แน่ใจว่าลูกบอลลงในสนามหรือไม่ ก็สามารถขอใช้สิทธิ์ขอดูภาพชาเล้นท์ได้ในทันที

โดยถ้ามองในภาพรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงกติกาต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมาจากเหตุผลทางด้านการตลาดของ Volleyball World ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจบการแข่งขันเนชั่นส์ ลีก 2022 แล้ว ก็คงจะมีการสรุปปัญหา และหาแนวทางที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าของตลาดวอลเลย์บอลให้มากยิ่งขึ้น

• 5 เหตุผลที่ทำให้วอลเลย์บอลหญิงไทยสายเลือดใหม่ฟอร์มไฉไลใน เนชั่นส์ ลีก
• ทีมเดียวที่ไร้พ่าย! ผ่าความร้อนแรงของญี่ปุ่นสายเลือดใหม่ใน เนชั่นส์ ลีก
• จรัสพร บรรดาศักดิ์ ตัวอย่างของคนที่พร้อมคว้าทุกโอกาสที่เข้ามา
• วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้วอลเลย์บอลสาวเกาหลีใต้ฟอร์มดับสนิทใน เนชั่นส์ ลีก

การเปลี่ยนยุคของผู้เล่น

วอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 เป็นการแข่งชันรายการแรกของวอลเลย์บอล หลังจากจบมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแฟนวอลเลย์บอลทราบดีอยู่แล้วว่าโอลิมปิก คือ รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการวอลเลย์บอล ซึ่งผู้เล่นหลายๆ คนเลือกจะตัดสินใจอำลาทีมชาติหลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิก ทำให้ปีหลังจากนั้น เปรียบเสมือนการเปลี่ยนวงรอบยุคใหม่ การเริ่มต้นใหม่ทีมชาติต่างๆ บางทีมอาจจะเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นแล้ว ก็ยังเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกด้วย โดยตัวอย่างที่เห็นได้ในปีนี้ คือ ทีมชาติไทย, ทีมชาติเกาหลีใต้, ทีมชาติสหรัฐอเมริกา, ทีมชาติญี่ปุ่น รวมไปถึงทีมชาติบราซิล

ดังนั้นผลงานปีหลังจากโอลิมปิก ก็อาจจะไม่ใช่ฟอร์มที่เคยเห็นของทีมต่างๆ เหล่านั้น บางทีมอาจจะดีขึ้น บางทีมอาจจะแย่ลง ซึ่งแต่ล่ะทีมก็จะต้องนำข้อมูลที่ได้รับจากรายการนี้ เอาไปปรับปรุง และพัฒนาการเล่นของทีม เพื่อเป้าหมายใหญ่ในโอลิมปิกครั้งต่อไป

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของทีมจากทวีปยุโรป

ทวีปยุโรป ถือได้ว่าเป็นทวีปยักษ์ใหญ่ของวงการวอลเลย์บอลทวีปหนึ่ง โดยปกติแล้วสไตล์การเล่นของทีมในทวีปนี้ จะเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน คือ เน้นการบุกด้วยบอลโครงสร้าง จ่ายบอลสูงเน้นใช้สรีระที่ได้เปรียบความสูงของนักกีฬาเป็นหลัก ส่วนทีมในทวีปเอเชียจะเน้นการบุกด้วยความเร็ว และใช้ความเหนียวแน่นในเกมรับ เป็นจุดเด่น แต่ทว่าในช่วง 2-3 ปีหลัง หลายๆ ทีมในทวีปยุโรปได้ศึกษารูปแบบการเล่นของทีมเอเชีย และได้พัฒนารูปแบบการเล่นของตนเอง เพิ่มความเร็วในเกมรุกมากขึ้น รวมไปถึงความเหนียวแน่นในเกมรับ ทำให้ทีมจากทวีปยุโรปมีความหลากหลายในรูปแบบการเล่นของตัวเองมากขึ้น กลับกันทีมจากทวีปเอเชียนั้นไม่สามารถเพิ่มความสูงเฉลี่ยของนักกีฬาให้ใกล้เคียงนักกีฬายุโรปได้มากเท่าไรนัก

ทำให้ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่น่าติดตามว่า ช่องว่างระหว่างทีมจากยุโรป กับทีมจากเอเชีย จะเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิม หรือว่าทีมจากเอเชียจะสามารถพัฒนารูปแบบการเล่นใหม่ๆ มาต่อกรกับทีมจากยุโรปได้

เริ่มต้นยุคทองของอิตาลี

ฟอร์มการเล่นของทีมชาติอิตาลีในรายการนี้นั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก หลังจากสะสมประสบการณ์กันมาหลายปี ฟอร์มการเล่นของนักกีฬาหลายคน อยู่ในช่วงพีคพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมอย่าง เปาล่า เอโกนู ทำให้วอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 รอบไฟนัลส์ ทีมชาติอิตาลีสามารถเก็บชัยชนะจากทีมต่างๆ ได้ไม่ยากนัก และผู้เล่นยอดเยี่ยมของรายการก็มาจากอิตาลีเกือบทั้งหมด ก็ต้องติดตามว่าทีมชาติอิตาลี จะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมได้ต่อเนื่องไปจนถึงรายการชิงแชมป์โลก ในช่วงปลายปีนี้ได้หรือไม่

และนี่ก็เป็นบทสรุป 5 สิ่งจากวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 ประเภททีมหญิงที่จบลงไปแล้ว แต่แฟนๆ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลกันไป ในปีนี้ยังเหลือรายการแข่งขันวอลเลย์บอลอีกหลายรายการให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง