อำลา "ชินโซ อาเบะ" ผู้นำที่ทุ่มเทเพื่อวงการกีฬา

ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของชาวญี่ปุ่น และความตกใจของคนทั้งโลก กับการสูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล "ชินโซ อาเบะ" นายกรัฐมนตรีที่ครอบตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ผู้มีบทบาทสำคัญทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงวงการกีฬา นี่คือเรื่องราวของผู้นำโลกหนึ่งเดียวที่ให้ความสำคัญกับกีฬามากที่สุด

ย้อนวิสัยทัศน์ด้านกีฬาของ "ชินโซ อาเบะ" 

"กีฬาคือสิ่งที่เชื่อมโยงโลกของเรา" คือคำพูดที่นายชินโซ อาเบะ อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกเคยกล่าวเอาไว้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเมื่อปี 2013 เพื่อที่จะแสดงความมุ่งมั่น ให้ญี่ปุ่นได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก และในวันนั้นญี่ปุ่นก็ได้รับเลือกตามเป้าหมาย ซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงนั้น เป็นเพราะญี่ปุ่นต้องการใช้กีฬาขับเคลื่อนอนาคตของชาติ รวมถึงการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ถัดจากนั้น 3 ปี ในพิธีปิดกีฬาโอลิมปิกที่ริโอเดอจาเนโร ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2016 ทั้งโลกได้เห็น "อาเบะ" ผู้นำญี่ปุ่นตัวจริงเสียงจริง คอสเพลย์เป็น "มาริโอ" วิดีโอเกมยอดนิยมของคนทั่วโลก สวมหมวกสีแดง ถือลูกบอลสีเดียวกัน ปรากฏตัวบนท่อประปาสีเขียวกลางสนามมาราคาน่า สเตเดียม สร้างกระแสฮือฮาให้คนทั้งโลก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า จะได้เห็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นรับบทบาทนี้

• รู้จัก มาซาโยชิ มานาเบะ โค้ชมือทองของวงการวอลเลย์บอลญี่ปุ่น
• วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้วอลเลย์บอลสาวเกาหลีใต้ฟอร์มดับสนิทใน เนชั่นส์ ลีก
• ทีมเดียวที่ไร้พ่าย! ผ่าความร้อนแรงของญี่ปุ่นสายเลือดใหม่ใน เนชั่นส์ ลีก

อดีตผู้นำญี่ปุ่นเคยเล่าว่า เขาต้องใช้เวลานั่งเครื่องบินนานถึง 20 ชั่วโมง เพื่อคอสเพลย์เป็นมาริโอ พร้อมกับเล่าว่าในตอนแรกเขากลัวที่จะโดนล้อ แต่ฟีดแบคในสนาม คือความทรงจำที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเขา

"ตอนที่ผมปรากฏตัวบนสนามกีฬาคนปรบมือกันดังมาก พูดตามตรงตอนทราบไอเดียที่จะให้ผมแต่งตัวเป็นมาริโอในพิธีปิด ผมไม่ชอบเลย แต่ผมก็ตอบตกลง เพราะไม่อยากให้การแข่งขันกีฬาดูเป็นการเมืองเกินไป" และการตัดสินใจครั้งนั้นได้สะท้อนให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า "ชินโซ อาเบะ" มีวิสัยทัศน์อย่างไรต่อวงการกีฬาโลก 

ตลอดช่วงชีวิตของชินโซ อาเบะ ผู้ที่สนใจในการเมืองย่อมรู้จักเขาเป็นอย่างดีผ่านนโยบายสำคัญต่างๆ แต่ในวันที่กำเนิด "อาเบะ มาริโอ" เขาได้สร้างบทบาทใหม่ และเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกในฐานะผู้นำประเทศที่ให้ความสำคัญกับกีฬามากที่สุด

ผู้นำที่ทุ่มเทเพื่อ "โตเกียวโอลิมปิก"

สถานการณ์โควิดเมื่อปี 2020 ทำให้กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก จากการเตรียมความพร้อมเพื่อจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปีนั้น แต่การระบาดที่ลามไปทั่วโลก ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของโตเกียว และรัฐบาลกลางญี่ปุ่น ประชุมกันหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งได้ข้อสรุปว่าต้องเลื่อนการจัดออกไปในปี 2021

ในตอนนั้นคนทั่วโลกคาดหวังว่า จะได้เห็น "อาเบะ" ในคาแร็กเตอร์ใหม่ๆ สำหรับพิธีเปิดโตเกียว 2020 หากญี่ปุ่นได้จัดงานตามกำหนดเดิม แต่ความคาดหวังนั้นก็ไม่เกิดขึ้น เพราะอาเบะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2020 เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ ถือเป็นการสิ้นสุดการนั่งเก้าอี้ตำแหน่งผู้นำของญี่ปุ่นอันยาวนาน 

แม้จะลงจากตำแหน่งก่อนที่โอลิมปิกจะเริ่มขึ้น แต่อาเบะก็ยังมีบทบาทอยู่เบื้องหลังการจัดมหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิก แม้การแข่งครั้งนี้จะไม่บรรลุเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทุกอย่างก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ท่ามกลางวิกฤตที่กลืนกินแรงบันดาลใจของคนทั้งโลก แต่ญี่ปุ่นภายใต้การนำของอาเบะ ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า กีฬายังสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตได้เสมอ การแข่งที่ไร้ผู้ชมในสนาม แต่มีผู้ชมผ่านสตรีมสดอย่างล้นหลาม ได้เป็นโมเดลต้นแบบให้มหกรรมกีฬาอื่นๆ ต่อมาหลังจากนั้น

ประธานโอลิมปิกสากล โธมัส บาค ยอมรับในความมุ่งมั่นของอาเบะ และขั้นมอบรางวัลเกียรติยศ Olympic Order เพื่อแสดงความนับถือผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น "ความทุ่มเทให้แก่โอลิมปิกของคุณแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในพิธีปิดที่ ริโอ 2016 ผมจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่คุณปรากฏตัวกลางสนาม ที่แต่งตัวเป็นซูเปอร์มาริโอ คุณได้เขียนประวัติศาสตร์ลงในโอลิมปิก และส่งเสริมวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไปทั่วโลกด้วยวิธีที่เราจะจดจำตลอดไป"

ในวันที่ "อาเบะ" กลายเป็นตำนานแห่งโลกกีฬา

จากวิกฤตสึนามิจากแผ่นดินไหวในปี 2011 ที่ทำให้เกิดกัมมันตรังสีรั่วไหลในจังหวัดฟุกุชิมะ ของญี่ปุ่น "ชินโซ อาเบะ" ได้ฟื้นฟูประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญ รวมถึงการปรับปรุงสนามกีฬาแห่งชาติ ใจกลางกรุงโตเกียว สนามกีฬาครบวงจร ที่เคยใช้ในโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1964 และถูกปรับปรุงใหม่เมื่อปี 2016 เพื่อใช้ในพิธีเปิดโตเกียว 2020

ในวันนั้นผู้คนชื่นชมวิสัยทัศน์ของอาเบะ ที่เห็นความสำคัญในพลังแห่งกีฬา และนำมาฟื้นฟูประเทศในช่วงที่ยากลำบากที่สุด เพราะสิ่งที่จะรวมใจผู้คนเป็นหนึ่งเดียวได้คือการกีฬา ที่จะเชื่อมต่อไปถึงผู้คนทั่วโลก และสนามกีฬาในวันนั้น ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียวในวันนี้

ศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2022 ในวันที่ทั้งโลกทราบข่าวสะเทือนขวัญ จากการที่ชินโซ อาเบะ ถูกลอบสังหารระหว่างการปราศรัยหาเสียง ปิดฉากเรื่องราวผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของชินโซ อาเบะในวัย 67 ปี ประธานโอลิมปิกสากลได้ร่วมไว้อาลัยด้วยการ ลดธงโอลิมปิกครึ่งเสาที่ โอลิมปิก เฮาส์ ในเมืองโลซานน์ เป็นเวลา 3 วัน

บาค กล่าวถึงอาเบะ ในฐานะเพื่อนรักเอาไว้ว่า "ชินโซ อาเบะ คือผู้มีวิสัยทัศน์ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพลังที่ไร้ขอบเขต หากไม่มีนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น จะไม่มีวันเกิดขึ้น และความฝันโอลิมปิกของนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลกจะไม่เกิดขึ้น"

ถ้อยคำไว้อาลัยจากโธมัส บาค เต็มไปด้วยความรู้สึกยกย่อง ชื่นชม และขอบคุณ บาคเล่าด้วยว่า เขายังได้พูดคุยกับอะเบะอย่างต่อเนื่อง แม้จะจบโอลิมปิกที่โตเกียวแล้ว ซึ่งอาเบะได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมกับโอลิมปิกที่ปารีสในปี 2024 แต่ก็กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นก่อน

วงการกีฬาและคนทั้งโลกกำลังกล่าวคำอำลาให้กับ "อาเบะ มาริโอ" ผู้นำโลกที่สร้างประวัติศาสตร์ซึ่งจะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล ในวันที่ไร้ซึ่ง "ชินโซ อาเบะ" สิ่งที่นายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ได้บันทึกเอาไว้ คือพลังแห่งความฝันของนักกีฬาและทุกๆ คน