ทีมเดียวที่ไร้พ่าย! ผ่าความร้อนแรงของญี่ปุ่นสายเลือดใหม่ใน เนชั่นส์ ลีก

วอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก 2022 เดินทางผ่านสัปดาห์แรกมาเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 16 ทีมต่างผ่านการลงสนามมาทีมล่ะ 4 นัด แต่มีเพียงชาติเดียวที่ยังสามารถรักษาสถิติชนะรวด 100% ไว้ได้ นั้นก็คือ ญี่ปุ่น ที่สามารถเอาชนะเกาหลีใต้, เยอรมนี, โดมินิกัน และนัดสุดท้ายของสัปดาห์ก็ปราบแชมป์โอลิมปิกอย่างสหรัฐอเมริกาไปได้ 3-0 เซ็ต ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนเพียงทีมเดียว และนี่คือ 5 เหตุผลหลักที่ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นโชว์ฟอร์มสุดปังได้ขนาดนี้

การกลับมาของกุนซือจอมวางแผน

“มาซาโยชิ มานาเบะ” ชื่อนี้ ถ้าเป็นแฟนวอลเลย์บอลญี่ปุ่น จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะเขาคือ ผู้ฝึกสอนที่นำทีมชาติญี่ปุ่น คว้าเหรียญทองแดงในลอนดอนโอลิมปิก 2012 ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญโอลิมปิกประวัติศาสตร์ในรอบ 28 ปีของญี่ปุ่นอีกด้วย และมานาเบะก็ประกาศอำลาตำแหน่งหลังจบการแข่งขันในปีนั้น

หลังจากประสบความล้มเหลว ตกรอบแรกโอลิมปิกในบ้านของตนเอง สมาคมวอลเลย์บอลของประเทศญี่ปุ่น (JVA) ประกาศแยกทางกับกุนซือคุมิ นากาดะ พร้อมทั้งประกาศเฟ้นหาผู้ฝึกสอนทีมชาติหญิงคนใหม่ มีชื่อตัวเต็งมากมาย อย่างเช่น โทโมโกะ โยชิฮาร่า โค้ชหญิงผู้พาทีมเจที มาร์เวอลัส คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้ 2 สมัยติด แต่สุดท้าย JVA ก็ประกาศชื่อ โค้ชใหม่ของทีมหญิงคนต่อไป คือ มาซาโยชิ มานาเบะ

มานาเบะ เป็นกุนซือจอมเทคนิค นอกจากนั้นแล้วยังมีแทคติก ลูกเล่น การวางแผนต่างๆ มากมาย ผ่านประสบการณ์คุมทีมมาอย่างโชกโชน รวมไปถึงสิ่งหนึ่งที่มั่นใจ คือ เขารู้ว่าแผนการเล่นแบบใดเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสำหรับทีมญี่ปุ่นมากที่สุด ดังนั้นการกลับมาของเขาพร้อมทีมงานชุดเดิมที่เข้าขา รู้ใจ ในรอบนี้ ย่อมคาดหวังผลงานที่แตกต่างจากที่ผ่านมาของทีมชาติญี่ปุ่นได้แน่นอน

• ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเชียร์ไทยในเนชั่นส์ลีก 2022
• ชีวิตดั่งนิยาย ฟ้าหลังฝนของ หัถตยา บำรุงสุข
• เคล็ดลับความปัง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ผลลัพธ์จากการชุบตัวใน วี.ลีก
• 5 เหตุผลที่ทำให้วอลเลย์บอลหญิงไทยสายเลือดใหม่ฟอร์มไฉไลใน เนชั่นส์ ลีก

การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

ในงานแถลงข่าวเปิดตัวทีมวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่น “Hinotori Nippon” มานาเบะได้ประกาศเป้าหมายของทีมอย่างชัดเจนว่า ระยะสั้นในปีนี้จะต้องผ่านเข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 8 ของรายการวอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก และผ่านเข้ารอบที่ 3 ของวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2022 (FIVB Volleyball World Championship) ส่วนเป้าหมายระยะยาว คือ ต้องคว้าเหรียญรางวัลให้ได้ ในโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นอกจากนั้นแล้วยังตั้งเป้าหมายการพัฒนาอื่นๆ อีก 5 อย่างให้กับนักกีฬาอีกด้วย คือ 1) การเสิร์ฟ จะต้องมีนักกีฬา 6 คนติดอยู่ใน 1 ใน 10 ของสถิติการเสิร์ฟยอดเยี่ยมในแต่ล่ะรายการ 2) การรับเสิร์ฟ จะต้องมีนักกีฬา 3 คนติดอยู่ใน 1 ใน 10 ของสถิติการรับเสิร์ฟยอดเยี่ยมในแต่ล่ะรายการ 3) จะต้องเป็นทีมที่มีเกมรับตบ และการต่อบอลเพื่อรุกโต้กลับ ได้ดีที่สุดในโลก 4) ลดตัวเลขในการวิ่งของผู้เล่นตำแหน่งเซตเตอร์ ผู้เล่นคนอื่นสามารถรับบอลที่ดี เพื่อให้ตัวเซตเคลื่อนที่น้อยที่สุด 5)ทีมเวิร์ค เน้นความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

การที่ทีมตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน จะทำให้นักกีฬาทุกคนมีความมุ่งมั่น และรู้ว่าจะฝึกซ้อมในแต่ล่ะวันนั้นทำไปเพื่ออะไร และมีทิศทางในการพัฒนาตนเอง

ทีมงานแมวมองที่แข็งแกร่ง

ญี่ปุ่นในยุคก่อนหน้านี้ของ คุมิ นากาดะ จะเห็นว่าใช้ผู้เล่นกลุ่มเดิมๆ แทบจะเดาได้ว่าจะเรียกผู้เล่นคนไหนเข้ามาติดทีมบ้าง และจะใช้งานผู้เล่นคนไหนบ้าง แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปในยุคของมานาเบะ

ทีมงานและตัวของมานาเบะเอง ไม่เพียงตามดูฟอร์มนักกีฬาแค่เฉพาะใน “วี.ลีค” ที่เป็นลีกวอลเลย์บอลอาชีพของประเทศเท่านั้น แต่มานาเบะเดินทางไปดูฟอร์มของนักกีฬาจากเกือบทุกรายการในประเทศ อย่างเช่น “ฮารุโค” ที่เปรียบเสมือนกับรายการแข่งขันวอลเลย์บอลมัธยมปลายชิงชนะเลิศแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่มีโรงเรียนกว่า 200 โรงเรียนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน หรือ “อินคาเระ” การแข่งขันวอลเลย์บอลมหาวิทยาลัยชิงชนะเลิศแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการที่ได้ดูการแข่งขันในแต่ล่ะระดับ ทำให้มานาเบะค้นพบดาวรุ่งระดับช้างเผือกอีกหลายคน และก็มีถึง 2 คน ที่โชว์ฟอร์มในแคมป์ฝึกซ้อมได้โดดเด่น จนเป็น 1 ใน 25 รายชื่อผู้เล่น ชุดเนชั่นส์ ลีก 2022 คือ โยชิโนะ ซาโตะ ผู้เล่นตำแหน่งบีหลัง ที่ลงสนามเป็นตัวจริงในนัดชนะเกาหลีใต้ 3-0 เซ็ต และมิยาเบะ อะเมเซะ ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักกีฬาระดับมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เล่นในลีกอาชีพ

แนวทางและแรงบันดาลใจจากฮีโร่รุ่นพี่

นอกจากทีมงานสต๊าฟโค้ชชุดเดิม ที่ทำทีมคว้าเหรียญทองแดงลอนดอนโอลิมปิกแล้ว มานาเบะยังเชิญอดีตผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุด ลอนดอน 2012 เข้ามาร่วมฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติชุดนี้ด้วย โดยผู้เล่นเหล่านั้นเป็นระดับตำนานของญี่ปุ่นทั้งสิ้น ประกอบด้วย โยชิเอะ ทาเคชิตะ , ฮิโตมิ นากามิชิ, ไม ยามากูชิ, เอริกะ อารากิ, คาโอริ อิโนอุเอะ, ไมโกะ คาโน่, ยูโกะ ซาโนะ, ไอ โอโตโมะ, ริสะ ชินนาเบะ, ซาโอริ ซาโกดะ, ยูกิโกะ เอบาตะ, มิซูโฮ อิชิดะ และคิมูระ ซาโอริ โดยทั้ง 13 คน จะคอยชีแนะแนวทางด้านต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมร่างกาย เทคนิคการฝึกซ้อม การวางแผนพัฒนาผู้เล่นในแต่ล่ะตำแหน่ง รวมไปถึงการแบ่งปันประสบการณ์การประสบความสำเร็จในอดีต ให้กับผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ด้วย

การแข่งขันกันเองภายในทีม

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้เป็นชุดใหม่แกะกล่อง อาจจะมีผู้เล่นหลักอย่าง ซารินะ โคกะ และอิชิกาว่า มายู ที่เล่นมาตั้งแต่ยุคโค้ชนากาดะก็ตาม แต่การเปลี่ยนทีมงานโค้ชใหม่ทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นทุกคนไม่มีใครสามารถการันตีตำแหน่งของตนเองได้ ซึ่งนั้นก็ทำให้ผู้เล่นแต่ล่ะคนจะต้องแข่งขันแย่งชิงกันในตำแหน่งของตัวเอง ตั้งแต่ในสนามซ้อมจนไปถึงในสนามแข่งขัน โดยเฉพาะในรายการเนชั่นส์ ลีก ที่สามารถส่งรายชื่อนักกีฬาได้ถึง 25 คน และมีการแข่งขันอย่างน้อย 12 นัด ก็ย่อมเป็นโอกาสที่โค้ชมานาเบะ จะได้ทดสอบ และเก็บข้อมูลผู้เล่นหน้าใหม่หลายๆ คนว่าจะสามารถพัฒนา และใช้งานต่อไปในอนาคตได้หรือไม่

และนั้นก็เป็น 5 เหตุผลที่ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในสัปดาห์แรก แฟนๆ วอลเลย์บอลคงต้องติดตามลุ้นกันต่อในสัปดาห์ที่ 2 ว่าสาวญี่ปุ่นจะยังรักษาสถิติไร้พ่ายเอาไว้ได้หรือไม่ ทีมชาติไทยชุดสายเลือดใหม่ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงเช่นเดียวกันจะเป็นผู้ให้คำตอบ ในวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 เวลา 17.00 น.