27 มิถุนายน 2563
#ChangsuekFutsalCorner อดีต 5 แข้งวอนเดอร์คิดฟุตซอลไทย เปลี่ยนสวมสตั๊ดสร้างชื่อบนเวทีลูกหนัง
หากจะเอ่ยถึงนักเตะดาวรุ่งดวงของวงการฟุตซอลไทย ในปัจจุบันหลายคนคงนึกถึง มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, ปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์, พีรพัฒน์ แก้ววิลัย หรือ รณชัย จูงวงษ์สุข ที่กำลังสร้างชื่อทำผลงานได้ดีทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติไทย
แต่หากย้อนไปในอดีตที่ผ่านมา ก็มีนักฟุตซอลฝีเท้าดีมากมายที่ฉายแววเก่งตั้งแต่ฟุตซอลนักเรียนขาสั้น และน่าจะขึ้นมาเล่นในฟุตซอลลีกอาชีพ หรือพัฒนาฝีเท้าขึ้นจนเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย ได้ในอนาคต แต่สุดท้ายนักเตะเหล่านั้นตัดสินใจหันไปสวมสวมสตั๊ดไล่ล่าความฝันต่อบนสนามหญ้า 11 คน และสร้างชื่อให้กับตัวเองจนถึงทุกวันนี้
โดยวันนี้ทีมงานของเราจะพาแฟนฟุตซอลไทย ไปไล่เรียงดูว่ามีนักเตะคนไหนบ้างที่ถูกยกให้เป็น "วอนเดอร์คิดฟุตซอลไทย" มาแล้ว แต่สุดท้ายเปลี่ยนไปสวมสตั๊ดสร้างชื่อบนเวทีลูกหนัง จะมีใครบ้างอย่ารอช้าไปดูกันเลย
ศศลักษณ์ ไหประโคน
เริ่มกันที่ "เจ้าพี" ศศลักษณ์ ไหประโคน ดาวเตะลูกหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ วัย 24 ปี ที่ประสบความสำเร็จมากบนเวทีลูกหนัง คว้าแชมป์ลีกกับทีมบ้านเกิด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ 2 สมัย ผ่านการติดทีมชาติทั้งชุดใหญ่, ชุดเล็ก และเป็นที่รักของแฟนบอลชาวไทย ทั้งประเทศ
ซึ่งสมัยเป็นนักเรียนขาสั้น ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงเล่นกับโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ภายใต้การดูแลของอาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ เล่นทั้งฟุตซอล และฟุตบอลควบคู่กันไป ด้วยสไตล์การเล่นที่คล่องแคล่ว ทำให้ ศศลักษณ์ สร้างชื่อกับกีฬาลูกหนังโต๊ะเล็ก จนถูกสโมสร พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ดึงตัวไปร่วมฝึกซ้อม และหากเอาดีด้านนี้จริงๆ ก็มีโอกาสติดธงรับใช้ทีมชาติไทย ได้ไม่ยาก
แต่สุดท้าย "ฉลามพลังเพลิง" เองก็ไม่ปิดกั้นโอกาสของ ดาวเตะอารมณ์ดี ให้เจ้าตัวตัดสินใจ อนาคตของตัวเอง และ "เจ้าพี" ศศลักษณ์ ไหประโคน ก็เลือกเบนเข็มเปลี่ยนไปเอาดีกับฟุตบอลแม้ใจจริงจะรักฟุตซอลมากก็ตาม เพราะค่าตอบแทน ความมั่นคงมันดีกว่า ซึ่งหากใครได้ชมฝีเท้าของ ศศลักษณ์ ไหประโคน ก็จะเห็นลีลาสเต็ปโต๊ะเล็กของเจ้าตัวอยู่เรื่อยๆ ในการเลี้ยงบอลหลอกคู่แข่งในสนามอยู่เป็นประจำ
บดินทร์ ผาลา
มาต่อกันที่ "โดม" บดินทร์ ผาลา ปีกซ้ายจอมเทคนิควัย 25 ปี ของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ทีมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ซึ่งสมัยวัยเด็กเจ้าตัวที่มีรูปร่างผอมบาง แต่มีลีลาการเล่นที่แพรวพราวพลิ้วไหว สร้างชื่อสมัยฟุตซอลนักเรียนกับ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม รุ่นเดียวกัน "ลิก" นัทธพงศ์ หยีมะเหรบ นายด่านฟุตซอลทีมชาติไทย
ก่อนที่จะถูก "โค้ชดม" อุดม ทวีสุข ดึงไปร่วมฝึกซ้อมกับ ทีมฟุตซอลท่าเรือ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้น ม.5 ก่อนถูกจับเซ็นสัญญาอาชีพในวัยเพียง 17 ปี ช่วยทีมคว้ารองแชมป์ฟุตซอลไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2012-13 แต่สุดท้ายด้วยความไม่แน่นอนของฟุตซอลลีก ในตอนนั้น ทำให้เจ้าตัวหันเอาดีทางเรียน ทำตามฝันอยากเป็นครูพละ แต่สุดท้ายก็ทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักไม่ได้กลับมาในเส้นทางลูกหนังอีกครั้งไปเอาดีกับฟุตบอลสนามใหญ่
พัฒนาฝีเท้าก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของหลายสโมสรทั้ง รังสิต เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เชียงราย ยูไนเต็ด และย้ายมาเล่นกับ การท่าเรือ เอฟซี พร้อมขยับขึ้นไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอคัพ 2019 ซึ่งดาวเตะชาวจังหวัดอุบลราชธานี ก็ยังคงวาดลวดลายใช้สกิลฟุตซอลเล่นงานใส่คู่แข่งอยู่เป็นประจำ
วีระเทพ ป้อมพันธ์
"เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธ์ ถูกยกให้เป็นวอนเดอร์คิดของวงการฟุตซอลไทย หลังทำผลงานอย่างโดดเด่นสมัยฟุตซอลนักเรียนกับ รร.ศรีบุญญานนท์(ม.ต้น) และ รร.ปทุมคงคา(ม. ปลาย) รวมถึงลีลาการเล่นฟุตซอลเดินสายที่โชว์ลีลาโดดเด่น จนเป็นขวัญใจของแฟนฟุตซอลเดินสาย จนถูกสโมสร พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยอดทีมฟุตซอลลีกเมืองไทย และอีกหลายสโมสรตามจีบให้ไปร่วมทัพ
แต่เจ้าตัวตัดสินใจก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเล่นฟุตบอลลีกอาชีพกับ จามจุรี ยูไนเต็ด ในศึก T3 ตั้งแต่ปี 2016-2018 แต่ก็ยังถูกเรียกตัวติดทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ชุดยู21 อยู่ในตอนนั้น ก่อนถูกสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย คว้าตัวเข้ามาร่วมทัพเมื่อปี 2019
ซึ่งเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และถูกคาดการณ์ว่าจะก้าวขึ้นมาทดแทนการขาดหายไปของรุ่นพี่อย่าง สารัช อยู่เย็น ที่ตัดสินใจย้ายทีมออกไปเล่นกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด หากใครได้ชมฝีเท้าของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ ที่มีเทคนิคแพรวพราว ความเร็วที่จี๊ดจ๊าดตามแบบฉบับนักฟุตซอล เลี้ยงบอลคล่อง มีสปีดความเร็ว หากได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสก้าวไปติดทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อย่างแน่นอน
ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม
"เจ้าเบียว" ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ดาวเตะวัย 22 ปี นักเตะสู้ชีวิตจากจังหวัดตาก ที่กว่าจะมีถึงทุกวันนี้ไม่ง่ายเลย จากบ้านเกิดมาเรียนที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ภายใต้การดูแลของอาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว และพัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในสังเวียนฟุตซอลและฟุตบอล
ช่วยสถาบันคว้าแชมป์หลักครบ 4 รายการ ทั้งแชมป์ ถ้วย ก. กรมพละ ทั้งฟุตบอล และฟุตซอล แชมป์ฟุตซอลกีฬานักเรียน และแชมป์กีฬาเจ็ดสี ก่อนขยับไปเล่นฟุตบอลจริงจังกับ สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2016 ขณะที่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ซึ่ง มิเกล โรดริโก้ กุนซือฟุตซอลทีมชาติไทย ในตอนนั้น ได้เรียกตัว ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม เข้าไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดไม่เกิน 20 ปี และผ่านมาถึงรอบ 20 สุดท้าย รุ่นเดียวกับ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, ปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์ และ รณชัย จูงวงษ์สุข แต่สุดท้ายเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตให้เจ้าตัวไปในเส้นทางฟุตบอล หลังได้บาดเจ็บจากแข่งขันฟุตบอลสนามใหญ่ จนต้องถอนตัวไปในที่สุด
หลังหายเจ็บกลับมา ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม พัฒนาฝีเท้าจนแจ้งเกิดกับฟุตบอล 11 คนเต็มตัว ย้ายไปค้าแข้งในลีกญี่ปุ่น กับ เอฟซี โตเกียว รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในเจลีก3 โดยยิงไปทั้งสิ้น 3 ประตู และกลับมาเป็นกำลังสำคัญของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ พร้อมขยับขึ้นมาติดทีมชาติไทย ได้สำเร็จในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
เจษฎากร ขาวงาม
มาถึงคนสุดท้ายอย่าง “ฟิว” เจษฎากร ขาวงาม เด็กหนุ่มจากจังหวัดบุรีรัมย์ วัย 23 ปี อีกหนึ่งนักเตะผลผลิตของโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ที่ฉายแววเก่งสมัยฟุตซอลนักเรียน จนถูกดันข้ามรุ่นขึ้นมาผนึกกำลังกับรุ่นพี่อย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน, เนติพงษ์ แสนมะฮุง ช่วยขุนพลลูกเจ้าพระยาสุรศักดิ์ คว้าแชมป์ เนชั่นแมน สพฐ. ฟุตซอลลีก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ด้วยสถิติสุดโหดคว้าชัย 100 เปอร์เซ็นต์(ชนะ 15 เกมรวด)
หลังจากนั้นยังคงลงเล่นทั้งฟุตซอล กับฟุตบอล ควบคู่กันไปตามสไตล์นักเตะจากทัพ ''บลูอาร์มี่'' ช่วยทีมคว้าแชมป์หลักครบ 4 รายการ ทั้งแชมป์ ถ้วย ก. กรมพละ ทั้งฟุตบอล และฟุตซอล(2 สมัยติด) แชมป์ฟุตซอลกีฬานักเรียน และแชมป์กีฬาเจ็ดสี ก่อนจะหันมาเอาดีกับฟุตบอลจริงจังได้เซ็นสัญญาเป็นเยาวชนของ ทรู แบงค็อก ยูไนต็ด
แม้จะเลือกเล่นบอลใหญ่ แต่ยังถูกเรียกตัวไปติด 1 ใน 40 คน ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี แต่สุดท้ายเจ้าตัวมุ่งมั่นจริงจังกับฟุตบอล 11 คน ขยับขึ้นชุดใหญ่ ทรู แบงค็อก ยูไนต็ด ฤดูกาล 2017 จนก้าวไปติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และยังคงโลดแล่นบนลีกอาชีพกับขุนพลแข้งเทพ อยู่ในปัจจุบัน
6 แข้งช้างศึกโต๊ะเล็ก ยุคบุกเบิกต้นแบบนักฟุตซอลไทย
ระหว่างซาอุฯ, อินเดีย, อิหร่านและกาตาร์ ถ้าเลือกได้อยากให้ใครได้เป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนคัพ2027?
TAG ที่เกี่ยวข้อง