10 สระว่ายน้ำสุดทันสมัยที่ครั้งหนึ่งในชีวิต เงือก-ฉลาม ไม่ควรพลาด

การเป็นนักกีฬา นอกจากชัยชนะแล้ว การได้ลงแข่งขันในสนามกีฬาที่มีความขลัง ความยิ่งใหญ่ และเป็นตำนาน คงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักกีฬาจากทั่วโลกใฝ่ฝันถวิลหา สำหรับนักว่ายน้ำเองก็ไม่ต่างกัน ทุกคนล้วนฝันถึงการลงว่ายในสระระดับโลกที่เป็นตำนานแทบทั้งสิ้น จะต่างกันก็ตรงที่มันไม่ได้ยากเลยที่จะได้ลงไปสัมผัสประสบการณ์ในสระว่ายน้ำระดับโลก มันเข้าถึงง่ายกว่าสนามกีฬาในประเภทอื่นในโลกเป็นอย่างมาก วันนี้เราจัด 9 สระว่ายน้ำในฝัน ที่นักกีฬาว่ายน้ำควรไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต เผื่อทริปท่องเที่ยวครั้งหน้า คุณจะได้ใส่มันไว้ใน list การเดินทางของคุณ

Herb McAuley Aquatic Center
บ้านของ " The yellow Jacket Swimming " ตั้งอยู่ใน Georgia Institute of Technology กลางเมืองแอตแลนต้า ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดโอลิมปิกปี 1996 มีที่นั่ง 1,900 ที่นั่ง สระแข่งขันยาว 50 เมตร 10 ลู่ว่าย มีผนังที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ 2 ด้าน สามารถเปลี่ยนสระนี้เป็นสระ 25 หลา, 25 เมตร หรือ 30 เมตร เพื่อสำหรับแข่งโปโลน้ำก็ทำได้สบายมาก พื้นสระยังสามารถปรับระดับความลึกได้อีก ตั้งแต่ 0 จนถึงลึกสุด 7 ฟุต 8 นิ้ว นอกจากนั้นยังมีสระกระโดดน้ำ ที่มีแท่นกระโดดทุกระดับความสูงให้เลือกสรร นอกจากสระแข่งแล้วก็ยังมีสระไว้สำหรับเรียน และว่ายเล่นอีก 2 สระด้วยกัน สำหรับสระแห่งนี้ไม่เปิดให้กับบุคคลทั่วไป ถ้าเกิดอยากเข้าไปว่ายก็ต้องเป็นสมาชิก หรือเป็นนักศึกษาไม่ก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่สระจัดขึ้น หรือไปว่ายในตอนแข่งขันเท่านั้น

Bondi Iceberg Club
ว่ากันว่าทริปเที่ยวซิดนี่ย์ของคุณยังไม่สมบูรณ์แบบถ้าคุณยังไม่ได้มาเยือน Bondi Iceberg Club สระแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชายหาด บอนได ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มันถูกสร้างขึ้นในปี 1929 ความโดดเด่นคือ ตัวสระจะยื่นออกไปในทะเลสามารถรับชมทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลได้แบบเต็มที่ บางช่วงคลื่นน้ำทะเลสามารถซัดเข้ามาในสระได้เลย ข้อดีคือสระแห่งนี้มีกิจกรรมมากมายทั้งพิพิธภัณฑ์ และร้านอาหาร รวมถึงเปิดรับทุกคน โดยอัตราค่าใช้บริการสระว่ายน้ำอยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ราคาแค่ 6 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ราคานี้รวมการใช้บริการซาวน่าแล้ว นี้เป็นอีกหนึ่งสระที่นักว่ายน้ำทุกคนไม่ควรพลาดจริง ๆ

Water Cube Aquatic Center
สระว่ายน้ำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวมาก ๆ ภายนอกเหมือนเป็นฟองสบู่มากมายมารวมกันเป็นก้อนน้ำขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่งด้วยทุนสร้างถึง 140 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสถิติโลกถึง 25 รายการถูกทำขึ้นใหม่ที่นี่ในปี 2008 ได้รับการสมญานามว่าเป็นสระว่ายน้ำที่เร็วที่สุดของโอลิมปิก หลังการแข่งขันมีการปรับรูปแบบให้มีการใช้งานได้หลากหลาย และเข้าถึงคนทั่วไปมากขึ้น เพราะมีการเพิ่มในส่วนของสวนน้ำ, โรงหนัง, ร้านอาหาร และศูนย์การค้าเข้าไป โดยอัตราค่าใช้บริการอยู่ที่ 30 หยวนสำหรับเยี่ยมชมสนาม และ60 หยวนสำหรับเยี่ยมสนาม บวกกับว่ายน้ำได้อีกเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

Stadio Olympico Del Nouto
ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดโอลิมปิกปี 1960 และยังได้เป็นเจ้าภาพจัดศึกว่ายน้ำชิงแชมป์โลกอีก 2 ครั้งในปี 1994 และปี 2009 มีทั้งความสวยงาม และความคลาสสิคตามแบบฉบับ สถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน มีทั้งสระในร่มและกลางแจ้งริมแม่น้ำ ถ้าอยากเข้าไปว่ายไม่สามารถซื้อตั๋วแบบว่ายครั้งเดียวได้ ต้องซื้อตั๋วแบบเหมา 5 ครั้ง ในราคา 52 ยูโร ถ้ามีโอกาสไปทริปที่โรมแบบยาว ๆ ซื้อตั๋วเข้าไปว่าย 5 ครั้งน่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า และลืมไม่ลงแน่ ๆ สำหรับทุกคน

Olympia Schwimmhalle
ตั้งอยู่ในกรุงมิวนิค เคยเป็นเจ้าภาพในกีฬาโอลิมปิกปี 1972 เป็นสถานที่ที่ มาร์ค สปิตซ์ สร้างตำนาน 7 เหรียญทอง ตัวสระโดดเด่นด้วยหลังคาที่มีรูปร่างแปลกตาสวยงาม ทำจากวัสดุที่น้ำหนักเบา ตัวสระมีทั้งในร่มและกลางแจ้งเพิ่งรีโนเวทเสร็จในปี 2019 เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ ถึง อาทิตย์ 7 โมงเช้า ถึง ห้าทุ่ม อัตราค่าบริการเริ่มที่ 4.80 ยูโร สำหรับสระในร่ม และ5.30 ยูโร สำหรับว่ายน้ำในสระโอลิมปิก ถ้าไม่ว่ายน้ำก็มีกิจกรรมอย่างอื่นอีกมากมาย อาทิเช่น ปีนผา, แทรมโพลีน, ปิงปอง และเครื่องเล่นสำหรับเด็ก

Montreal Olympic Pool
ตั้งอยู่ที่กรุง มอนทรีออล ประเทศแคนาดา เคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 1976 ถ้าคุณเป็นนักว่ายน้ำและอยากลงว่ายในสระแข่งโอลิมปิกสักครั้งในชีวิต ไม่มีที่ไหนเหมาะเท่าที่นี่อีกแล้ว เปิดรับประชาชนทั่วไป มี 6 สระให้เลือกว่ายแบบหนำใจ รวมถึงสระที่ใช้แข่งขันจริง ๆ ด้วย ในราคาเริ่มต้นเพียง 7 เหรียญสหรัฐ เพิ่งรีโนเวทใหม่ในปี 2014 ว่ายน้ำเสร็จ ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย แต่ที่พิเศษที่สุดคือ ในวันอาทิตย์ที่นี่จะเนรมิตสระแข่งขัน 50 เมตรให้กลายเป็นสวนน้ำสวนสนุกขนาดใหญ่ ที่คุณสามารถมาวิ่ง, กระโดด, สไลด์, ว่ายน้ำข้ามสิ่งกีดขวาง และว่ายน้ำในลู่เป่าลม แค่คิดก็สนุกแล้ว

Tokyo Aquatic Center
สระว่ายน้ำที่แพงที่สุดในโลกถูกเนรมิตขึ้นจากจำนวนเงิน 523 ล้านเหรียญสหรัฐ มันถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2021 ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าสระว่ายน้ำแห่งนี้น่าจะเป็นจุดมุ่งหมาย ที่เหล่านักว่ายน้ำจากทั่วโลกอยากไปเยือนสักครั้ง เร็วที่สุดที่จะได้เข้าไปว่าย คุณอาจต้องทำเวลาเพื่อผ่านเกณฑ์โอลิมปิกให้ได้ แต่ถ้านั้นมันยากเกินไปอดใจรออีกนิด หลังเสร็จศึกโอลิมปิกปีหน้า สระว่ายน้ำแห่งนี้ ยินดีเปิดต้อนรับนักว่ายน้ำทุกคนจากทั่วโลกอย่างแน่นอน ไปโตเกียวรอบหน้าอย่าลืมหนีบชุดว่ายน้ำไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่แพงที่สุดในโลกกัน

ISHOF
International Swimming Hall of Fame and Museum ตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จะบอกว่านี่คือศูนย์รวมทุกอย่างของวงการว่ายน้ำโลกเลยก็ได้ มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวทุกสิ่งในวงการว่ายน้ำสหรัฐอเมริกาและวงการว่ายน้ำโลก ถ้าคุณอยากเล่นกีฬาทางน้ำอะไรที่นี่จัดให้คุณได้หมด ว่ายน้ำ, ระบำใต้น้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ, Open water ที่นี่ก็สามารถจัดแข่งได้เลยเพราะตัวศูนย์สร้างยื่นออกไปในทะเลแข่ง Open water ได้สบาย ค่าเข้าก็แสนถูกสำหรับเด็กที่มาเยือนก็เริ่มที่ 4 เหรียญสหรัฐ และ 5 เหรียญสำหรับคนทั่วไป ถ้าอยากสัมผัสประวัติศาสตร์ และว่ายน้ำแบบครบวงจรที่นี่เป็นที่ที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

London Aquatic Center
ถูกใช้เป็นเวทีหลักในการชิงชัยกีฬาทางน้ำในโอลิมปิกปี 2012 ภายในประกอบด้วยสระแข่ง 25 และ 50 เมตร อย่างละ 1 สระ รวมถึงสระวอร์มขนาด 50 เมตร และสระ 50 เมตร ลึก 3 เมตรอีก 1 สระ ตัวสระเริ่มเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้งานในปี 2014 สามารถว่ายได้แม้กระทั่งสระแข่งขันเลย แต่มีข้อกำหนดว่าต้องว่ายตามเวลาที่จำกัด และสามารถว่ายได้ 100 เมตร ติดต่อกัน ส่วนราคาลงสระก็เริ่มต้นที่ 2.80 ปอนด์สำหรับเด็กในช่วง Off Peak และผู้ใหญ่เริ่มที่ 5.10 ปอนด์ ในช่วง Off Peak ใครอยากสัมผัสสระมาตรฐานระดับโลกที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด

ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขต สุวรรณภูมิ
ถ้าตัวเลือกที่กล่าวมาเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป สำหรับนักว่ายน้ำเด็กไทยคนหนึ่ง การพาตัวเองมาแข่งชิงแชมป์ประเทศที่ ศูนย์กีฬาทางน้ำมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว นี่คือหนึ่งในสระว่ายน้ำที่ได้มาตรฐานที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีความพร้อมทางด้านการจัดการแข่งขันระดับประเทศ หรือระดับนานาชาติ เคยจัดศึกชิงแชมป์ประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงเป็นเจ้าภาพการแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือซีเอจ กรุ๊ป อีกด้วย สระแห่งนี้อาจเทียบกับสระอื่นที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้ แต่การแข่งขันในสระแห่งนี้ ก็เปรียบเสมือนเป็นกุนแจดอกสำคัญในการเปิดประตูไปสู่การแข่งขันว่ายน้ำในสระระดับโลกที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนั้นเอง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

• สำรวจว่ายน้ำไทย และค่าใช้จ่ายของนักกีฬาว่ายน้ำ 1 คน
• วงการว่ายน้ำไทยตกต่ำและนักว่ายน้ำไทยโตแล้วไม่เก่งจริงไหม?
• ไขข้อสงสัยทำไมสถิติของฉลามณุกและต่อลาภถึงอยู่นานเกิน 20 ปี