stadium

"เอกนิษฐ์ ปัญญา" พลังบวกที่มากกว่าคำว่าฝีเท้าของกว่างโซ้ง

15 มิถุนายน 2563

"เอกนิษฐ์ ปัญญา" พลังบวกที่มากกว่าคำว่าฝีเท้าของกว่างโซ้ง
#ChangsuekFocus

“เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทีม อยู่กับเรามาตั้งแต่เด็ก การที่เราจะทำให้เด็กในอคาเดมี่มีความสนใจคือต้องให้เขาอยู่ต่อเท่านั้น ถ้าจะปล่อยก็ต้องต่างประเทศ”

ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ของ "บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด หลังจากมีข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมากับการยื่นซื้อตัว "เจ้าบุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติของนักเตะไทยที่ 55 ล้านบาท พร้อมออพชั่นเสริมอีกมากมายจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งดีลนี้ก็จบลงอย่างรวดเร็วด้วยการปฏิเสธจากคุณมิตติ พร้อมเหตุผลที่เปรียบเอกนิษฐ์เหมือนดั่งสัญลักษณ์ของสโมสรและหากจะขายก็ต้องส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้น

นั่นแสดงให้เห็นว่าตัวของ "เจ้าบุ๊ค" มีความสำคัญมากแค่ไหนกับทีมแชมป์ไทยลีกปีล่าสุด และเงิน 55 ล้านบาทจากเมืองทองกลายเป็นเพียงแค่ข่าวให้สื่อออกมานำเสนอเล่นๆในเวลาแค่ 1 วัน พร้อมกับมีคำถามขึ้นมาว่า "55 ล้านทำไมถึงไม่พอ ?"

เหตุผลพื้นๆที่เราพอจะนึกออกนั่นคือไม่มีทีมไหนในโลกอยากจะยื่นหอกให้คู่แข่งร่วมลีกแน่นอน ตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมาย เช่น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ย้ายจากอาร์เซน่อล ไปพาแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์อย่างสบายๆในปีแรกที่เขาย้ายไป เคสนี้ก็เช่นกัน จริงอยู่ว่าเชียงรายยังอยู่กลางตารางใน 4 นัดแรกและยังดูมีปัญหากับฟอร์มการเล่นที่ในทีมมีการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน แต่พวกเขาคือ "แชมป์เก่า" ที่จะต้องสู้จนหยดสุดท้ายเพื่อแสดงให้เห็นว่าแชมป์ปีที่แล้วไม่ใช่ว่าได้มาเพราะ "เก่งแค่ปีเดียว" และเอกนิษฐ์คือกำลังสำคัญที่จะพาเชียงรายฟื้นคืนชีพและพาทัพกว่างโซ้งไปถึงจุดนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปล่อยเพชรเม็ดงามของทีมไปให้กับเมืองทอง ยูไนเต็ด เพราะหากพูดกันตามตรงแล้ว ตอนนี้เชียงรายก็คือทีมใหญ่ไม่น้อยไปกว่าเมืองทองเลย เพียงแค่ว่ายังไม่ป๊อปปูล่าพอเพราะอยู่ต่างจังหวัด

แต่ประเด็นสำคัญที่เราอยากโฟกัสนั่นคือการที่ "เจ้าบุ๊ค" ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งที่ฝีเท้าดีจนเชียงรายต้องประคบประหงม แต่มากกว่านั้นคือการเป็นต้นแบบและหัวใจของทีมในระยะยาวต่างหาก

เด็กหนุ่มรายนี้เกิดที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวเชียงรายอย่างแท้จริง เป็นแฟนบอลของเชียงรายมาตั้งแต่เด็ก ยืนยันด้วยการที่มีภาพของเด็กชายเอกนิษฐ์ผมทรงนักเรียนสวมเสื้อเชียงราย ยูไนเต็ด ยืนนิ่งๆให้ วสันต์ นาทะสันต์ กองหน้าของเชียงรายในขณะนั้น เซ็นต์ชื่อลงบนเสื้อที่อก จนสุดท้ายเอกนิษฐ์ก็เติบโตและพัฒนาฝีเท้าตั้งแต่รุ่น ยู14 กับเชียงรายและขึ้นชุดใหญ่ตอนอายุ 15 ปี มาจนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ โดยสถานะตอนนี้ของเขาคือ 'Key Player' ไม่ใช่แค่นักเตะ 'First Team' ของเชียงราย นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนในสโมสรและคนทั้งจังหวัด ที่เฝ้ารอการเติบโตอย่างเต็มที่ของ"เจ้าบุ๊ค"เพื่อนำความสำเร็จมาสู่ดินแดนของพญาเม็งรายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ว่าได้แชมป์ไทยลีกครั้งแรกแล้วจะหายไป
 


อีกเรื่องที่น่าสนใจจากบทสัมภาษณ์ของ "บิ๊กฮั่น" นั่นคือเอกนิษฐ์เปรียบดั่งสัญลักษณ์สโมสร และเป็นเหมือนต้นแบบให้แก่เยาวชนของทีมได้เดินตามอย่างมีความหวังและความภาคภูมิใจกับการเป็นนักเตะของเชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งตรงนี้นับเป็นรากฐานที่สำคัญของสโมสร หาก"เจ้าบุ๊ค" ต้องย้ายออกเพียงเพราะได้ข้อเสนอที่มหาศาลจากคู่แข่งร่วมลีก เด็กๆในอคาเดมี่คงจะสะเทือนใจไม่น้อย ที่ไอดอลและความภาคภูมิใจของพวกเขาต้องเดินจากไปเพราะเงินจำนวนมหาศาล และต้องกลับมาฟาดฟันกันในลีค แทนที่จะได้ร่วมกันสร้างความยิ่งใหญ่ไปด้วยกันในอนาคตอย่างภาคภูมิใจ แม้จะจริงอยู่ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องวิถีของฟุตบอล แต่อย่าลืมว่า "เจ้าบุ๊ค" คือคนเชียงรายอย่างแท้จริงและโตมากับทีมของจังหวัด ถ้าต้องย้ายไปเพราะเหตุผลข้างต้น คงมีผลไม่น้อยกับทัศนะคติแข้งเยาวชนของเชียงราย ยูไนเต็ด


เอกนิษฐ์ ปัญญา จึงเปรียบดั่งพลังบวกของทัพกว่างโซ้งทั้งในและนอกสนามในขณะนี้ ที่จะมีส่วนทั้งการนำพาความสำเร็จมาสู่สโมสรในอนาคตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นดั่งแสงนำทางให้บรรดาเยาวชนได้เดินตามและคาดหวังว่าซักวันหนึ่งจะต้องเป็นนักเตะแบบพี่บุ๊คให้ได้ ที่สำคัญคือศรัทธาจากแฟนบอลที่จะได้เชียร์ทีมรักทีมบ้านเกิดอย่างมีศรัทธา ว่าสโมสรที่เขารักนั้นจะไม่ขายนักเตะคนสำคัญเพียงเพราะเรื่องเงิน ซึ่งตอนนี้พูดกันตรงๆเลยว่า "บิ๊กฮั่น" กำลังทำให้แฟนๆภูมิใจและศรัทธาในสโมสรอย่างยิ่งยวด และแฟนบอลจะไม่หนีไปไหนแน่นอนแม้ในวันที่เชียงรายอาจจะไม่ใช่ทีมใหญ่อย่างเช่นตอนนี้


พลังบวกต่อมาคือการที่คุณมิตติได้ลั่นวาจาไว้ว่า เอกนิษฐ์จะย้ายทีมได้คือต้องออกไปต่างประเทศเท่านั้น สิ่งนี้กลายเป็นพลังให้แก่ตัว "เจ้าบุ๊ค" ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีดีพอแค่ไหนให้ทีมต่างประเทศมาสนใจ การติดทีมชาติไทยถือเป็นจุดสูงสุดในการค้าแข้งในประเทศ แต่ถ้าจะเอาให้สุดกว่านี้ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับ ชนาธิป , ธีราทร , ธีรศิลป์ หรือ กวินทร์ ซึ่งนั่นหมายความว่า หาก"เจ้าชายล้านนา"สามารถรีดฟอร์มจนถึงระดับนั้นได้ เชียงราย ยูไนเต็ดก็จะแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย และจะกลายเป็นทีมใหญ่ที่ดึงดูดนักเตะดีๆมาสู่ทีมรวมถึงเม็ดเงินอีกจำนวนมากจากความสำเร็จต่างๆโดยมีหัวใจสำคัญคือเอกนิษฐ์ และหากวันหนึ่งได้ย้ายออกไปยังลีกที่มาตรฐานสูงกว่าในประเทศอย่างเช่น 'เจลีก' ก็จะเป็นการนำมาซึ่งคุณภาพที่มากขึ้นของทีมชาติไทย รวมถึงชื่อของเอกนิษฐ์ ปัญญา จะกลายเป็นไอดอลของนักฟุตบอลเยาวชนไทยรุ่นใหม่ให้ได้เดินตาม ไม่ใช่เพียงแค่ชาวเชียงราย แต่หมายถึงแข้งเยาวชนทั่วประเทศ

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือเรื่องของพลังบวกที่เด็กหนุ่มวัย 20 ปีกำลังมีให้กับเชียงราย ยูไนเต็ด จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมเงินสูงถึง 55 ล้านบาทไม่เพียงพอที่จะทำให้เอกนิษฐ์ย้ายไปยังทีมในประเทศ หลังจากนี้ฟอร์มในสนามและการพัฒนาต่อไปของ "เจ้าบุ๊ค" จะเป็นคำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้ และแน่นอนว่าแฟนบอลไทยทุกคนจะเป็นกำลังใจให้เขา เพราะสุดท้ายแล้ว ผลดีทุกอย่างในอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอกนิษฐ์ ปัญญา ก็จะตกอยู่ที่ "ทีมชาติไทย"


stadium

author

ICE Assist

Changsuek Content Creator

โฆษณา