stadium

คาร์ช คิราย ชายผู้พาสหรัฐกวาดทุกความสำเร็จในวงการวอลเลย์บอล

15 กันยายน 2564

ในที่สุดความฝันของ "ทัพลูกยางสาวสหรัฐฯ" ก็เป็นจริง !!! หลังจากที่พวกเขาไล่ตบเอาชนะ บราซิล ไปแบบขาดลอย 3-0 เซต ในการเเข่งขันวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสามารถคว้าเเชมป์มาครองได้เป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ เเละก้าวข้ามผ่านคำว่า "รองเเชมป์ตลอดกาล" ได้เป็นที่เรียบร้อย 

 

แน่นอนว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นต้องยกเครดิตให้กับ "นักกีฬาทั้ง 12 คน" ที่ได้รับเลือกมาเป็นตัวเเทนของ "สหรัฐอเมริกา" ลงเเข่งขันใน โอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบสุดท้าย เเต่ที่จะขาดไม่ได้เลยคือ "หัวหน้าผู้ฝึกสอน" ผู้อยู่เบื้อหลังความสำเร็จของ "ตบสาวมะกัน" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของเขาคือ คาร์ช คิราย บุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ฮีโร่ของวงการลูกยางสหรัฐฯ" อย่างเเท้จริง

 

 

 

กำเนิดตำนาน

 

คาร์ช คิราย เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1960 เป็นลูกชายของ ลาซโล คิราย อดีตนักวอลเลย์บอลเยาวชนทีมชาติฮังการี(เมื่อปี 1956 พ่อของเขาย้ายหนีออกนอกประเทศในช่วงที่กำลังมีการปฏิวัติเเละเกิดการจราจลในฮังการี) คิราย เริ่มเล่นวอลเลย์บอลครั้งเเรกตั้งเเต่อายุ 6 ขวบ เเต่เป็นการฝึกซ้อมอยู่บนชายหาดแบบไม่จริงจังในช่วงสุดสัปดาห์กับคุณพ่อของเขา ก่อนจะมีโอกาสลงเเข่งขัน "วอลเลย์บอลชายหาด" เป็นครั้งเเรกตอนอายุ 11 ขวบ เเละถือเป็นการเล่นเเบบจริงจังครั้งเเรกในชีวิตด้วยเช่นกัน ซึ่งคู่หูของเขาคือ ลาซโล คิราย หรือคุณพ่อของเขานั่นเอง

 

"ผมไม่ค่อยเจอกับพ่อมากนักในวันธรรมดา ส่วนใหญ่เราจะใช้เวลาร่วมกันในช่วงสุดสัปดาห์ เขาเป็นคนทำให้ผมรู้จักกับลูกวอลเลย์บอลในวัย 6 ขวบ เราไปเล่นด้วยกันประจำในชายหาดแถวๆบ้าน ผมจำได้ว่าไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากเล่นกับบอลอย่างเดียวประมาณ 3-4 ปี ก่อนจะได้มีโอกาสเล่นจริงจังครั้งเเรกตอนอายุประมาณ 11 ปี ผมกับพ่อลงเเข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดด้วยกันในระดับท้องถิ่น ผมจำได้ว่ามันสนุกมากเพราะทุกคนโตกว่าผมหมดเลย"   

 

คิราย เข้าเรียนที่ ชานตา บาร์บารา ไฮสคูล เเละเป็นสมาชิกของทีมวอลเลย์บอลโรงเรียน โดยที่พ่อของเขามีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งชมรมวอลเลย์บอลชายของโรงเรียน คิราย สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ วอลเลย์บอลระดับไฮสคูล ได้ทั้งหมด 2 ครั้ง โดยในปี 1976 เเพ้ต่อ ซาน เคลเมนท์ฯ เเละในปี 1978 เอาชนะ ลากูน่า บีชฯ คว้าเเชมป์ไปครองเเบบไร้พ่ายตลอดทัวร์นาเมนต์ หลังจบการเเข่งขัน คิราย ได้รับการโหวตให้เป็น "ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี" พร้อมถูกเรียกเข้าเเคมป์เก็บตัวทีมชาติชุดเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นก้าวเเรกของ คิราย ในนามทีมชาติสหรัฐฯ 

 

 

 

สุดยอดผู้เล่นทั้งในร่มและชายหาด

 

คาร์ช คิราย สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่องในการเล่นระดับมหาวิทยาลัย เจ้าตัว เข้าเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "UCLA" ลงเเข่งขันในทัวร์นาเมนต์ "NCAA Men's Volleyball Championship" เป็นเวลา 4 ปี เเละช่วยทีมคว้าเเชมป์มาครองได้ทั้งหมด 3 สมัยในปี 1979, 1981 เเละ 1982 นอกจากนี้ คิราย ยังได้รับเลือกเป็น "ผู้เล่นเเห่งปีของ NCAA" ในการลงเเข่งขัน 2 ปีสุดท้าย(1981-1982) รวมทั้งเมื่อปี 1992 เจ้าตัว ยังได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่ "หอเกียรติยศ" ของมหาวิทยาลัยเเคลิฟอร์เนีย ต่อด้วยการประกาศรีไทร์เสื้อเบอร์ 31 ของ คิราย ในปีต่อมา   

 

คาร์ช คิราย เริ่มเล่นให้กับ ทีมชาติสหรัฐฯ ครั้งเเรกเมื่อปี 1981 เเละได้รับการชื่นชมว่าเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของ สหรัฐฯ โดยสามารถทำได้ดีทั้งเกมรุกเเละเกมรับ รวมทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่รับเสิร์ฟดีที่สุดคนหนึ่งของ สหรัฐฯ ก่อนจะช่วยพาทีมคว้า "เเชมป์โอลิมปิกฯ" มาครองได้ 2 สมัยติดต่อกันในปี 1984(คิราย อายุ 23 ปี และเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของทีม) เเละปี 1988 รวมทั้งยังเป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้า "เเชมป์เวิลด์ คัพ" ในปี 1985 ต่อด้วย "เเชมป์โลก" ในปี 1986 พ่วงตำแหน่ง "ผู้เล่นทรงคุณค่า" ประจำทัวร์นาเมนต์ 

 

คิราย โลดเเล่นอยู่ในวงการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1992 หลังจากนั้น เจ้าตัว ตัดสินใจประกาศหันหลังให้กับการเล่นในร่มเเละเบนเข็มไปเอาดีกับการเล่นชายหาด ก่อนจะเดินหน้ากวาดเเชมป์รายการต่างๆมาครองได้เป็นกอบเป็นกำ โดยตลอดระยะเวลา 15 ปี(1992-2007)ที่วาดลวดลายอยู่บนพื้นทราย คิราย คว้าเเชมป์มาครองได้ทั้งหมด 148 รายการ เเต่รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือการจับคู่กับ เคนท์ สเตฟฟ์ ประกาศศักดาคว้า "เเชมป์โอลิมปิกเกมส์" เมื่อปี 1996 ที่เมืองเเอตเเลนต้า ประเทศสหรัฐฯ ส่งผลให้ คิราย กลายเป็นนักวอลเลย์บอลคนเเรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าเเชมป์ "โอลิมปิกฯ" มาครองได้ทั้งในร่มเเละชายหาด 

 

 

 

ทำลายอาถรรพ์ "รองเเชมป์ตลอดกาล"

 

คาร์ช คิราย เริ่มต้นการเป็น "ผู้ฝึกสอน" แบบไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะว่า เจ้าตัว เเค่เข้ามาช่วยดูเเลทีม "เซนต์ มากาเร็ตฯ ไฮสคูล" ซึ่งเป็นทีมโรงเรียนของลูกชายที่ทำผลงานได้อย่างย่ำเเย่ เเละพ่ายเเพ้เเบบไม่ได้เซตมาโดยตลอดในทุกๆการเเข่งขัน(สถิติเเพ้รวด 31 นัด) เเต่หลังจากที่ คิราย ก้าวเข้ามาช่วยทำทีม "เซนต์ มากาเร็ตฯ ไฮสคูล" ก็เริ่มมีผลงานที่ดีขึ้นเเละคว้าเเชมป์รายการเล็กๆมาครองได้บ้าง 

 

คาร์ช คิราย ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ทีมลูกยางสาวสหรัฐฯ ในการเเข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยได้รับการทาบทามจาก ฮิวจ์ แม็คคัทชอน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ให้เข้ามารับตำแหน่ง ผู้ช่วยฯ ก่อนสุดท้ายจะพาทีมผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ เเต่ว่าโชคร้ายต้องอกหักเป็นครั้งที่ 3 เช่นเดียวกัน

 

เเม็คคัทชอน อำลาทีมไปหลังจบ "ลอนดอนเกมส์" เเละคนที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง "โค้ชคนใหม่" คือ คาร์ช คิราย นับตั้งเเต่วันนั้น เจ้าตัว ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้าง ทีมชาติสหรัฐฯ ให้มีความเเข็งเเกร่งมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในการเเข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เเต่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ครั้งเเรกของ คิราย คือการพาลูกทีมคว้า "เเชมป์โลก" เมื่อปี 2014 ที่ประเทศอิตาลี มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่ก่อนหน้านั้น สหรัฐฯ ทำได้ดีที่สุดเพียงเเค่ "รองเเชมป์" เท่านั้น

 

 

เป้าหมายของ สหรัฐฯ ภายใต้การคุมทัพของ คิราย คือการคว้า "เเชมป์โอลิมปิกฯ 2016" ที่ประเทศบราซิล เเละน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อยเพราะว่าเพิ่งหยิบ "เเชมป์โลก" มาครองได้สดๆร้อนๆ แต่พวกเขากลับต้องหยุดอยู่เพียงเเค่ "รอบตัดเชือก" หลังจากพลาดท่าพ่ายต่อ เซอร์เบีย ไปแบบหวุดหวิด 3-2 เซต สุดท้ายได้เพียงเเค่ เหรียญทองเเดง ปลอบใจกลับบ้านไป 

 

จนกระทั่งปี 2021 ในการเเข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พลพรรคนักตบลูกยางสาว สหรัฐฯ ก็ทำความฝันสูงสุดให้เป็นจริงได้สำเร็จ เเละยังเป็น คาร์ช คิราย ที่ล้างอาถรรพ์ "รองเเชมป์ตลอดกาล" ให้กับลูกทีมได้อีกครั้ง หลังจากพา "สาวมะกัน" ไล่ถล่มคู่ปรับตลอดกาล บราซิล ไปแบบขาดลอย 3 เซตรวด ในรอบชิงชนะเลิศ เเละคว้า "แชมป์โอลิมปิกฯ" มาครองเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ พร้อมกับประกาศก้องให้ทั่วโลกรับรู้ว่า คาร์ช คิราย คือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการวอลเลย์บอลโลก ณ เวลานี้


stadium

author

ภุมเรศ เอี่ยมเชย

StadiumTH Content Creator / เจ้าของเพจ Wantleyball

La Vie en Rose