12 มิถุนายน 2563
#คุยเฟื่องเรื่องบอลไทย
ก้าวแรกของ “บอลไทยไปบอลโลก”
รูดม่านปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ "Changsuek Road to Qatar 2022" - The Virtual Tournament บนแพลตฟอร์ม PES2020 ทัวร์นาเมนต์จำลองการเดินทางของช้างศึกในเส้นทางฟุตบอลโลกที่มีปลายทางอยู่ที่กาตาร์ซึ่งทีมชาติไทยสามารถสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยการคว่ำอาร์เจนตินาอดีตแชมป์โลก 2 สมัยคว้าตั๋วไปกาตาร์ได้สำเร็จ เป็นบทสรุปสุดท้ายเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา
อาจฟังดูไม่ตื่นเต้นเท่าการแข่งขันจริงในโลกปัจจุบัน, ดีกรีความมันส์อาจเทียบกันไม่ได้ถึงครึ่งนึง และบางคนอาจจะบอกว่า “มันก็แค่เกมนี่หว่า” เพียงแต่ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงบางครั้งหลายๆอย่างก็ถูกรังสรรค์ออกมาเป็นชิ้นงานโดยมีจินตนาการบวกแรงบันดาลใจเป็นตัวจุดสตาร์ท
ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่บ่อยไป เช่นการเริ่มต้นจินตนาการว่าเราจะบินได้ก่อนได้มาซึ่งเครื่องบินลำใหญ่, เรือดำน้ำลำดับแรกๆของโลกที่มาจากแรงบันดาลใจจากการอ่านนวนิยายเกี่ยวกับการท่องไปในโลกใต้ทะเลลึกอย่าง Twenty Thousand Leagues (ตะลุย 20,000 โยชน์) หรือจะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวอย่างการ์ตูนขวัญใจเด็กชาวญี่ปุ่นอย่างกัปตันซึบาสะที่แม้แต่คนเขียนยังเตะฟุตบอลไม่เป็นแต่ผลงานของเขากลับมีบทบาทพลิกโฉมหน้าวงการฟุตบอลญี่ปุ่นทั้งวงการ ทุกอย่างที่พูดมาล้วนเกิดจากสิ่งที่คนมักบอกมันว่า “มันก็แค่โลกแห่งจินตนาการ” ด้วยกันทั้งนั้น
หันกลับมามองเส้นทางบอลโลกสำหรับเราในโลกแห่งความเป็นจริง แน่นอนว่าการไปกาตาร์คงไม่ได้ง่ายเหมือนในเกมอย่างที่เราเห็น เพราะจากผลงานในตารางด้วยชัยชนะแค่สองนัดรั้งที่สามในตอนนี้ การจะสอดแทรกตัวเข้าไปในรอบต่อไปเป็นอะไรที่ต้องชนะรวดทั้งหมดในแมตช์ที่เหลืออยู่ พูดง่ายๆ “ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา” เสียอีก
โอเคแหละว่า 2 ใน 3 นัดที่ว่าเป็นแมตช์ที่เราจะได้เล่นในบ้านกับอาคันตุกะที่ไม่ได้มีเกรดบอลเหนือกว่าเราอย่างมาเลย์และอินโดฯ แต่แมตช์เยือนยูเออีที่รอเวลคัมเราอยู่ที่ดูไบคงเป็นอะไรที่ต้องลุ้นกันปวดขมับ (ต่ำกว่า 6 แต้มโบกมือบ๊ายบาย แต่ถ้าได้แค่ 6 ก็น้ำลายเหนียวคออยู่ดี ถ้ามี 7 อาจพอได้ลุ้นกันต่อ แต่ถ้า 9 แต้มเต็มจะสบ๊ายสบายปลอดภัยหายห่วงแบบเพลงพี่เบิร์ด)
“การไม่ทำอะไรและยอมแพ้ให้แก่ความยากลำบากมันก็ไม่ต่างจากการทิ้งจินตนาการและความฝัน” บนความยากที่ว่าหากมองในมุมบวกก็ยังมีอยู่หลายเรื่องที่เราพอจะได้เปรียบเขาอยู่บ้าง
อย่างแรกเลยคือ 2 จาก 3 ทีมที่เราจะได้เจอ(ทั้งยูเออีและอินโดฯ) ล้วนเป็น “บอลเปลี่ยนโค้ช” ที่แน่นอนว่าความลงตัวของทีมย่อมด้อยกว่าไทยที่มี"ลุงโนะ"คุมบังเหียนมาแล้วกว่าสองปี โดยเฉพาะรายแรกอย่างยูเออีที่ในเวลานี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องนายใหญ่ของพวกเขาเสียที ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่บวกสถานการ์ณของโควิด-19 ที่บอลภายในยังเตะกันไม่ได้ โอกาสที่พวกเขาจะได้ทีมที่ลงล็อคคงเป็นอะไรที่ทำได้ไม่ง่าย
- เห็นอะไรบ้างมั้ยในแมตช์ที่ไทยบุกเซอร์ไพรส์อาร์เจนตินา ?
- ส่องแข้งไทย ใครกันมีลุ้นลุยลีกยุโรป ?
อย่างที่สอง คือ ผลพวงจากลีกไทยและเจลีกที่จะกลับมาเตะได้ใหม่ในช่วงเวลาที่เหมาะส่งผลบวกต่อทีมชาติ
ไทยลีกจะกลับมาโม้แข้งกันในเดือน ก.ย. ในขณะที่เจลีกจะกลับมาตั้งแต่ต้นเดือนหน้า แน่นอนว่าก่อนถึงต้นเดือนตุลาคมซึ่งเป็นแมตช์คัดบอลโลกที่ทางฟีฟ่าและเอเอฟซีกำหนด นักเตะไทยจะมีแมตช์ฟิตมากพอสมควร เผลอๆอาจมีมากกว่าคู่แข่งอย่างอินโดฯ และ ยูเออี ที่ทั้งสองรายที่ว่าสถานการ์ณของโควิด-19 ภายในประเทศของพวกเขายังอยู่ในขั้นโคม่าและยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบในเร็ววัน โดยมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อวันหลักร้อยถึงหลักพันคน (ยูเออีพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 603 คน ในขณะที่อินโดฯพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,240 คนจากรายงานเมื่อวานนี้) นั่นเท่ากับว่าด้านสภาพความฟิตอาจเป็นเราที่มีมากกว่า
บอลโลกที่กาตาร์สำหรับไทยไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ ก็เหมือนกับ "Changsuek Road to Qatar 2022" ของเพจเรานั่นแหละ ที่แรกเริ่มเดิมทีจะเป็นเพียงแค่การไลฟ์เพื่อคลายความเหงาให้แฟนบอลชาวไทยจากผลพวงที่โควิด-19 ได้พรากฟุตบอลไปจากเรา แต่กลับได้ฟีตแบคเป็นพลังงานด้านบวกกลับมามากมาย(บ้างก็ว่าอยากให้ทำซีซั่น 2 ต่อเป็นถ้วยอื่นบ้างก็ได้ บ้างก็ว่าอยากให้ทำไปจนถึงบอลโลกรอบสุดท้าย)
หากสิ่งเล็กๆจากการ์ตูนขวัญใจเด็กๆอย่างกัปตันซึบาสะสามารถเปลี่ยนวงการลูกหนังญี่ปุ่นทั้งวงการได้ เฉกเช่นเดียวกับสโลแกนของทีมชาติญี่ปุ่น ทีมเบอร์ 1 ของทวีปที่บอกว่า “ความฝันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น (Dream courage to achieve)” บางที "Changsuek Road to Qatar 2022" อาจเป็นจุดเล็กๆที่สร้างแรงบันดาลใจใหญ่ๆให้ก้าวแรกของ “บอลไทยไปบอลโลก” ก็อาจจะเป็นไปได้..
TAG ที่เกี่ยวข้อง