10 มิถุนายน 2563
เห็นอะไรบ้างมั้ยในแมตช์ที่ไทยบุกเซอร์ไพรส์อาร์เจนตินา ?
#คุยเฟื่องเรื่องบอลไทย
ประตูชัยจากเจ้านิว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ในแมตช์ชิงตั๋วไปบอลโลกนัดแรกใน CHANGSUEK Road to Qatar 2022 บนแพลตฟอร์ม PES2020 เมื่อค่ำวานที่ผ่านมากำลังพาแฟนบอลชาวไทยล่องลอยไปในจินตนาการแห่งทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์ จินตนาการที่บอกเราว่าเตรียมจองตั๋วไปโดฮากันได้เลยล่วงหน้า และเตรียม “ฮัลโล กาตาร์” กันได้เลย
ใครมันจะไปเชื่อว่าทีมชาติไทยจะบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ทีมฟ้าขาวอาร์เจนตินาได้ถึงหน้าบ้านแถมยังเป็นแมตช์สำคัญที่มีตั๋วไปบอลโลกที่กาตาร์เป็นเดิมพันอีกต่างหาก เพราะก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้นสำนักพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายเล่นออกราคาให้เจ้าบ้านมีแต้มต่อเราอย่างเป็นทางการมากถึงห้าเสาไฟฟ้า พูดง่ายๆผลการแข่งขันแบบนี้ “พลิกล็อคถล่มทลายชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก”
มันเกิดอะไรขึ้นที่เอล โมนูเมนทัล ทำไมอาร์เจนตินาถึงพลาดท่าแพ้ไทยได้แบบเหลือเชื่อแบบนี้? เรามาลองตั้งข้อสังเกตุและวิเคราะห์ถึงสาเหตุไปด้วยกัน
“เมื่อเมสซี่ไม่แผลงฤทธิ์ ฟ้าขาวก็สิ้นฤทธิ์” คือสิ่งแรกที่เราเห็น
ยอมรับกันตามตรงว่าตลอด 90 นาทีที่เราได้ติดตามเกมกันผ่านทางไลฟ์สดในเพจ นี่ไม่ใช่วันของเมสซี่และดูเหมือนว่าการที่กุนซือรักษาการณ์อย่างลิโอเนล สคาโลนี่จับเจ้าตัวไปยืนริมเส้นฝั่งขวาถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและมีผลอย่างมากต่อประสิทธิ์ภาพในการเล่นของเจ้าตัว เพราะเมสซี่ไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด(แตกต่างจากการตำแหน่งประจำที่บาร์เซโลน่าที่เจ้าตัวได้เล่นเป็นตัวรุกตรงกลาง บ้างก็ถูกจับให้เล่นเป็นหน้าต่ำซึ่งมักทำได้ดีกว่า) และนั่นคือที่มาของการไม่แผลงฤทธิ์
หมดโอกาสได้ลากเลื้อยตามแบบที่ตัวเองถนัด, บอลไปไม่ค่อยถึงจนออกอาการหัวเสียออกมาอย่างเห็นได้ชัด และพอเล่นไปเล่นมากลายเป็นเมสซี่ไทยเสียมากกว่าที่ดูจะหวือหวาและเรียกเสียงฮือฮาได้จากแฟนบอลในสนาม (คือคำอธิบายจนแม้แต่ผู้บรรยายทั้งสองท่านยังพูดตรงกันเลยว่าแทบไม่ได้เห็นตัวงานแบบเป็นชิ้นเป็นอันจากเมสซี่ในวันนี้เลยด้วยซ้ำ)
ผมคิดว่าการที่ลิโอเนล สคาโลนี่ กุนซือวัย 40 เศษๆจัดตัวแบบนี้ออกมาเหมือนเจ้าตัวจะชะล่าใจและติดประมาท ยิ่งพอได้ประตูเร็วเขาก็ยิ่งมั่นใจและสั่งให้ลูกทีมขึ้นไปเพรสเราหนักถึงหน้ากรอบเขตโทษ (คงประเมินทีมชาติไทยต่ำเกินไปและกะจะให้ลูกทีมยิงตุนปิดเกมตั้งแต่เลกแรกไปเลยว่างั้น)
อย่างที่สอง คือ การประสานกันในแดนหน้าโดยเฉพาะ ดีบาล่า และ เมสซี่ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
อย่างที่บอกในพารากราฟข้างต้นนั่นแหละว่าตลอด 90 นาทีเราแทบไม่ได้เห็นการแผลงฤทธิ์ของเมสซี่ เมื่อคีย์แมนของเขาไม่ทำงานการสอดประสานกันระหว่างสามตัวรุกในแดนหน้ามันก็เลยพัง และนั่นคือที่มาของฟุตบอลชายเดี่ยวที่ต่างคนต่างเล่นจนดูไม่เป็นธรรมชาติ (ดีบาล่าเลือกยิงเองในหลายจังหวะทั้งๆที่มุมถูกปิดและมีเพื่อนรอบอลอยู่ในกรอบหลายครั้ง ในขณะที่เมสซี่ต้องถอยต่ำเพื่อมาล้วงเอาบอลไปเล่นเองในหลายจังหวะ กลายเป็นทีมอาร์เจนตินาที่ดูแตกต่างจากที่เราเคยเห็น)
อย่างสุดท้าย คือทีมชาติไทยเล่นได้สูงกว่ามาตราฐานชนิดไม่เคยมีมาก่อน
ไม่มีภาวะการตื่นสนาม, ปราศจากอาการกลัวจนขาสั่นจากอันดับฟีฟ่าที่ต่างกันเป็นร้อยอันดับ, ใจไม่เสียเมื่อโดนไปก่อนตั้งแต่นาทีแรกๆ และเล่นได้ตามแทคติกที่โค้ชสั่งอย่างมีวินัย คือทั้งหมดทั้งมวลของที่มาในผลงานที่เราได้เห็นกันไปเมื่อช่วงค่ำวานที่ผ่านมา ต้องปรบมือดังๆและยกเครดิตให้ทั้งนักฟุตบอลและทีมงานสต๊าฟโค้ชทุกคนที่ช่วยกันทำงานหนักจนได้ผลการแข่งขันแบบช็อคโลกแบบนี้กลับบ้าน
“ดีใจหน่ะได้แต่อย่าพึ่งฉลองกันมากไป” เพราะงานของเรายังไม่จบและฟุตบอลรอบนี้มันเล่นกันสองนัด
ดังนั้นเชื่อเหลือเกินว่าแมตช์ที่ไทยในวันพรุ่งนี้ อาร์เจนตินาจะมาแบบฟูลอ็อปชั่น จัดเต็มและเน้นแบบพิเศษจัมโบ้เพราะเขาไม่มีอะไรจะเสียและจากผลการแข่งขันในนัดแรก หากที่กาตาร์จะมีอัศวินฟ้าขาวอยู่ในนั้นเขาจำเป็นต้องบุกมาคว่ำไทยให้ได้ด้วยสกอร์ที่ขาด คงต้องมาดูกันว่าทีมชาติไทยจะรับมืออย่างไร ? และบอลโลกครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? พรุ่งนี้รู้กัน...
TAG ที่เกี่ยวข้อง