15 กรกฎาคม 2564
เหรียญทองในกีฬาลูกกลมๆที่มีลมอยู่ข้างในอย่างฟุตบอลประเภททีมชายที่ตัวแทนจากทวีปแอฟริกาจะหยิบเอามาคล้องคอได้มองยังไงในยุคนี้ก็ยังถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่ดี
เพราะดูเหมือนว่าฟุตบอลสไตล์ถึกทนบวกแข็งแรงบึกบึนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ในฟุตบอลสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยแท็คติกและอาศัยการเคลื่อนที่ในสนามที่รวดเร็วมากขึ้น
ยิ่งพอมาเปิดทำเนียบแชมป์โอลิมปิกประเภททีมชายย้อนหลังกลับไปในครั้งล่าสุดที่ตัวแทนจากทวีปนี้เคยทำสำเร็จมันต้องย้อนกลับไปมากกว่า 20 ปีนู่น (ครั้งที่แคเมอรูนทำได้ที่ซิดนีย์ในปี 2000) เนิ่นนานจนอาจทำให้ใครหลายคนหลงลืมไปเลยด้วยซ้ำว่าเคยมีความสำเร็จเกิดขึ้นจากทีมที่มาจากดินแดนอันแสนไกลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
และพอมาดูผลการจับติ้วของโตเกียวโอลิมปิกหนนี้ที่เทพีแห่งโชคชะตาดูจะไม่เหลียวมองทีมจากทวีปนี้เลย เพราะดันมีแต่เส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามกันถ้วนหน้ายิ่งทำให้ลุ้นกันยากขึ้นไปอีกเป็นสองเท่า
แอฟริกาใต้ ต้องเล่นกับเจ้าภาพ แถมยังมีทั้ง เม็กซิโก และ ฝรั่งเศส ลูบปากรอต้อนรับ, อียิปต์ก็หนักเพราะดันหล่นไปอยู่กลุ่ม “กรุ๊ปออฟเดธ” ที่มีทั้งสเปน, อาร์เจนตินา และ ออสเตรเลีย ร่วมสาย ในขณะที่ ไอวอรี่โคสต์ เจอทั้งแชมป์เก่าและรองแชมป์ครั้งที่แล้วอย่างบราซิลและเยอรมัน เห็นแบบนี้โอกาสที่เราจะได้ยินเสียงเพลง-การโห่ร้องเต้นรำและการเฉลิมฉลองแบบเต็มสีสันสไตล์ซาฟารีเกิดขึ้นอีกครั้งคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
อันที่จริงถ้าจะพูดถึงโอกาสของสามทีมจากแอฟริกา สำหรับผมต้องบอกว่าแอฟริกาใต้เองดูน่าลุ้นกว่าใครเพื่อนนะ เพราะการเจอกับญี่ปุ่นเจ้าบ้านแม้จะเสียเปรียบอยู่บ้างแต่ก็ยังพอสู้ไหว และกับจังโก้เม็กซิโกที่ต้องเสียขุมกำลังไปหลายคนที่ต้องเจียดไปให้รายการชิงแชมป์ทวีปที่ดันจัดมาชนกันพอดี การลุ้นติด 1 ใน 2 ทีมกรุยทางเข้าสู่รอบต่อไปมองยังไงพลพรรคบาฟานาก็น่าจะพอ “ลุ้นได้”
เพียงแต่เหมือน “โชคชะตาเล่นตลก” เพราะจากข่าวล่าสุดในแคมป์ทีมชาติพวกเขาดันเจอนักเตะติดเชื้อโควิดมากถึง 5 คน ในขณะที่ก็มีอีกเกือบสิบชีวิตที่ยังต้องรอลุ้นผลตรวจอีก (คล้ายๆกับสถานการ์ณที่เคยเกิดขึ้นกับทีมจากดินแดนแห่งรอยยิ้มอย่างไทยในช่วงคัดบอลโลกล่าสุดไม่มีผิด)
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายัง “ซวยซ้ำซ้อน” เมื่อสโมสรอย่างไบร์ทตันฯดันส่งจดหมายด่วนปฎิเสธการปล่อยตัว เพอร์ซี เทา มิดฟิลด์อเนกประสงค์และเป็นเดอะแบกประจำทีมมากรุงโตเกียวด้วยเหตุผลสุดคลาสสิกที่หลายทีมในยุโรปชอบใช้กันในช่วงนี้คือ “มันมีผลกระทบต่อการเตรียมทีมในอนาคต”
ผมอาจพูดได้ว่าการหายไปของ เทา มันคือความซวยในแบบที่อาจพาให้ทีมบาฟานาหมดลุ้นไปเลยก็ได้ เพราะหากชำเลืองดูสถิติของเจ้าตัวในนามทีมชาติทั้งชุดใหญ่และชุดเล็ก เขาคือผู้เล่นคนเดียวที่ทำประตูได้มากที่สุดในยุคปัจจุบัน แถมจำนวนประตูที่เจ้าตัวทำได้ยังมากกว่าจำนวนประตูรวมทั้งหมดที่กองหน้าแอฟริกาใต้ทำได้รวมกันเสียอีก
ที่สำคัญการที่สโมสรอย่างไกเซอร์ ชีฟดันทะลุเข้าชิงฯรายการชิงแชมป์สโมสรทวีปก็ไม่ต่างกับ “ผีซ้ำด้ำพลอย” ที่ส่งผลต่อทีมชาติโดยตรงให้แย่ลง เพราะบรรดาสตาร์อย่าง รีฟ ฟรอสเลอร์ และ เอ็นโคซิงกิเล่ เอ็นโกโบ ที่แม้ว่าทั้งสองรายอาจไม่ได้โดดเด่นกว่าเพอร์ซี เทาแต่พวกเขาก็เคยมีข่าวกับสโมสรดังในเยอรมันและฝรั่งเศสว่าต้องการตัวไปร่วมทีม มันมีความเสี่ยงค่อนข้างมากว่าพวกเขาอาจอดมาช่วยทีมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 1-2 เกมแรกที่ทีมต้องดวลกับเจ้าภาพญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
และถ้าจะให้ลงลึกถึงรายละเอียดด้านทีมเวิร์ค เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ถูกเลือกใช้และเรียกมาทดแทนตัวที่ถอนตัวออกไปล้วนแล้วแต่เป็นหน้าใหม่ที่ไร้ประสบการณ์แทบทั้งนั้น ซึ่งการที่ทีมขาดตัวเก่งและไม่มีรุ่นพี่ที่เป็นศูนย์กลางแบบ “บารมีถึงพึ่งได้” อย่างเทา สถานการณ์ของแอฟริกาใต้ ก็ไม่ต่างอะไรกับอาร์เจนตินาไม่มีเมสซี่หรือบราซิลไม่มีเนย์มาร์นั่นแหละ พูดง่ายๆทีมอาจเสียศูนย์แบบออกทะเลไปเลยก็ได้
ทวีปแอฟริกาที่เคยดื่มด่ำความสำเร็จมากมายในยุค 90 จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหรือไม่? ตัวแทนจากทวีปนี้แต่ละทีมจะไปได้ไกลแค่ไหน? และบาฟานาบาฟานาจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร? อีกเดี๋ยวเราคงจะได้รู้กัน!
TAG ที่เกี่ยวข้อง