stadium

จับตา 5 ศูนย์หน้าตัวเป้าฝีเท้าดี ช้างศึกโต๊ะเล็กไทย

23 พฤษภาคม 2563

จับตา 5 ศูนย์หน้าตัวเป้าฝีเท้าดี อนาคตใหม่ทัพ ช้างศึกโต๊ะเล็กไทย

#ChangsuekFutsalCorner

 

จากเด็กหนุ่มดาวรุ่งผอมแห้งร่างโย่งชาวจังหวัดราชบุรี เมื่อ 10 ปีที่แล้ว "อาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายพิสูจน์ตัวเองว่าเจ๋งจริง จนก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมชาติไทย สร้างเกียรติประวัติให้กับตัวเองในระดับทีมชาติ และสโมสร จนถูกยกย่องให้เป็น "พ่อมดฟุตซอลของเมืองไทย" 

 

ในปัจุบัน ช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อย่างมากมาย ผ่านเวทีฟุตซอลโลก 2 สมัย ปี 2012,2016 คว้ารองแชมป์เอเชีย ปี 2012, แชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย ปี 2013,2017 ดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติไทย และนักเตะยอดเยี่ยมทวีปเอเชีย ปี 2013 ถือเป็นเครื่องหมายการันตีชั้นดีว่า "เทพอาร์ม" คือนักฟุตซอลที่ดีที่สุดของเมืองไทย ใน พ.ศ. นี้ 

 

ซึ่งปัจจุบัน ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง อายุก้าวเข้าสู่เลขสาม(31 ปี) เจ้าตัวเองก็ยอมรับน่าจะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายกับการรับใช้ชาติ พร้อมตั้งเป้าหมายสำคัญก่อนเลิกเล่นทีมชาติ หวังพาทัพ "ช้างศึกโต๊ะเล็กไทย" คว้าแชมป์ทวีปเอเชียมาครองให้ได้สักครั้ง และไปลุยศึกเวิลด์คัพ ครั้งที่3 ในชีวิต น่าจะถึงจุดอิ่มตัวเปิดทางให้รุ่นน้องได้ก้าวขึ้นมาทดแทนในอนาคต 

 

วันนี้เราขออาสาพาแฟนคลับฟุตซอลไทย ไปทำความรู้จักกับ 5 กองหน้าตัวเป้าฝีเท้าเยี่ยม ที่ในอนาคตจะก้าวขึ้นทดแทนการขาดหายไปของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ในวันที่ "เทพอาร์ม" เลิกเล่นทีมชาติไทย จะมีใครบ้างไปดูกันเลย 

 

1.มูฮัมหมัด อุสมานมูซา/พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี/ 22 ปี ดาวยิงลูกครึ่งไทย-กาน่า 

ถูกยกให้เป็นตัวตายตัวแทนหาก ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กับ เจษฎา ชูเดช เลิกเล่นไป ด้วยผลงานที่โดดเด่นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทั้งระดับสโมสร และทีมชาติไทย มูฮัมหมัด อุสมานมูซา รูปร่างสูงใหญ่กำยำแข็งแกร่ง มีสไตล์การเล่นเก็บบอลบังบอลเหนียวแน่น จังหวะพลิกบอลเข้าไปทำประตูที่หลากหลาย ไม่แปลกเลยที่จะถูกคาดหวังอย่างมากจากแฟนฟุตซอลชาวไทย ซึ่ง "เจ้าเหม็ด" ที่ติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 18 ปี รับใช้ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก ไปแล้ว 42 เกม ยิงไปถึง 51 ประตู เป็นดาวซัลโวฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2 สมัย ปี 2017,2019 และมีชื่อติด 1 ใน 10 นักฟุตซอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมโลก 3 ปีติดต่อกัน(2017,2018,2019) และจะพัฒนาฝีเท้าก้าวขึ้นมาเป็นเดอะแบกคนต่อไปของทีมชาตไทย ได้ไม่ยาก พร้อมขยับขึ้นไปเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส เฉิดฉายระดับเวทีโลกในอนาคต 

 

2.พีรพัฒน์ แก้ววิลัย/พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี/ 24 ปี 

ดาวเตะลูกหลานชาวจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าของฉายา “ด๊ะ เบเตา” ถือเป็นดาวยิงเท้าซ้ายจอมเทคนิคพรสวรรค์สูงอีกรายของวงการฟุตซอลไทย ผ่านเวทีฟุตซอลลีกมายาวนานถึง 8 ปี ลงเล่นลีกอาชีพตั้งแต่อายุ 15 ปี และติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตอนอายุ 17 ปีเท่านั้น พีรพัฒน์ แก้ววิลัย เป็นนักเตะสไตล์เก็บบอลบังบอลได้ดี และมีลูกยิงเท้าซ้ายที่ไว้ใจได้ ด้วยวัยวุฒิ และฝีเท้าที่แกร่งกล้าขึ้น บวกกับประสบการณ์ค้าแข้งต่างแดนกับสโมสร ซานติอาโก ฟุตซอล คลับ ในลีกสเปน หากในวันที่ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กับ เจษฎา ชูเดช เลิกเล่นทีมชาติไป “ด๊ะ” พีรพัฒน์ แก้ววิลัย ก็พร้อมที่ก้าวขึ้นไปเป็นหน้าเป้าตัวหลักของทีมชาติไทย ได้ทันที 

 

3.อนันตชัย ปราบวงษา/การท่าเรือ เอเอสเอ็ม/ 24 ปี 

ดาวยิงเท้าหนักชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นกองหน้าตัวเป้าฝีเท้าเยี่ยมของวงการฟุตซอลไทย ในยุคนี้ ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่กำยำ เล่นแบบบู๊ดุดันไม่กลัวเจ็บ บวกเป็นบวก มีลูกยิงที่ทรงพลัง และรักษามาตรฐานการเล่นได้เป็นอย่างดีกับอดีตต้นสังกัด ม.เกษมบัณฑิต ก่อนที่ฤดูกาล 2020 จะตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ทีมแชมป์ฟุตซอลลีก 3 สมัย ส่วนในนามทีมชาติไทย "บ๊อบบี้" อนันตชัย ปราบวงษา ยังคงเฝ้ารอโอกาสต่อไป แม้จะถูกเรียกตัวมาร่วมฝึกซ้อมกับทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกรุ่นพี่ทั้ง ศุภวุฒิ เถื่องกลาง, เจษฎา ชูเดช และดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง มูฮัมหมัด อุสมานมูซา แต่หากรุ่นพี่โรยราลงไป อนันตชัย ปราบวงษา ก็พร้อมรับช่วงต่อขึ้นไปเป็นแกนหลักของ ทีมชาติไทย ในอนาคต

 

4.วรศักดิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์/การท่าเรือ เอเอสเอ็ม/ 27 ปี 

“เต่า” วรศักดิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์(ชื่อเดิม นัฐวุฒิ) ผลผลิตจากอะคาเดมีเยาวชนจังหวัดนนทบุรี ถือเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ (แชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย) มีศักยภาพสูงทั้งในเรื่องสภาพร่างกาย และเทคนิคการเล่น เลี้ยงบอลติดเท้า เก็บบอลเหนียวแน่น มีความยืดหยุ่นในสนามเล่นได้ทั้งตำแหน่งหน้าเป้า และริมเส้น ปัจจุบันเจ้าของฉายา "รถถังเมืองนนท์" พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของเมืองไทย มีลูกขยันติดตัว อ่านเกมขาด รอวันที่จะก้าวขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทย หาก ศุภวุฒิ เถื่องกลาง กับ เจษฎา ชูเดช เลิกเล่นทีมชาติไทยไป ก็ถึงเวลาแล้วที่ วรศักดิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์ จะขยับขึ้นมาเป็นเดอะแบกคนใหม่ของทัพ "ช้างศึกโต๊ะเล็กไทย" 

 

5.สราวุท ผลาพฤกษ์/สิงห์ สมุทรสาคร/ 22 ปี 

เด็กหนุ่มจากจังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นนักเตะรูปร่างดีที่มีสไตล์การเล่นที่สวยงามช้าแต่ชัวร์ฉบับกองหน้าตัวเป้า อัดแน่นไปด้วยทักษะ และจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม ซึ่งศิษย์เก่าโรงเรียนราชวินิตบางเขน พัฒนาตัวเองมาทีละสเต๊ปจากบอลนักเรียน สู่ระดับอุดมศึกษา ต่อยอดขึ้นลีกอาชีพ และทีมชาติไทย ยู20, ทีมชาติไทย ชุดบี พร้อมทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ 

 

โดย "บาส" สราวุท ผลาพฤกษ์ เป็นนักเตะที่มีหัวใจนักสู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค์ ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ และโอกาสในนามทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ถูกเรียกตัวมาร่วมฝึกซ้อมมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้โอกาส ซึ่งเจ้าตัวไม่มีท้อ แต่ด้วยวัยวุฒิ และฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นมาก บวกกับประสบการณ์จากรุ่นพี่ เชื่อเหลือเกินว่า สราวุท ผลาพฤกษ์ มีดีพอที่จะเป็นหน้าเป้าตัวหนักของทีมชาติไทย ได้อย่างแน่นอนในอนาคต จริงๆ แล้ว ในตำแหน่งหน้าเป้าของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ยังมีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกหยิบมาใช้งานอีกหลายรายทั้ง เจ้าปอนด์" ธนาธิป แสงสังข์, "กันดินโญ" พู่กัน โด่งดัง, "ต้อง" จักรพล ศรีนารา, "แบงค์" จักริน ต้นเนียม หรือแข้งรุ่นใหม่อย่าง "เจ้าเจมส์" ศุภกร สังอ้ม ซึ่งทุกคนมีมาตรฐานการเล่นที่ดีสม่ำเสมอ รอคอยเพียงแค่โอกาสพิสูจน์ตัวเองในนามทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เท่านั้นเอง

 

 หากในวันที่ “เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่องกลาง หรือ "จ่าต๊อบ" เจษฎา ชูเดช เลิกเล่นทีมชาติไทย ไป มั่นใจได้เล่นว่าทัพช้างศึกโต๊ะเล็กไทย จะมีศูนย์หน้าตัวเป้าฝีเท้าดี ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ได้อย่างแน่นอน.


stadium

author

Futsal Addict

Changsuek Content Creator

โฆษณา