แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ทีมที่รอความสำเร็จนานกว่า ลิเวอร์พูล

ด้วยฟอร์มในเกมลีกของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2019 - 2020 ต้องบอกว่าแฟนๆ ลิเวอร์พูลเตรียมการแห่ฉลองกันค่อนข้างแน่นอน และมันจะต้องยิ่งใหญ่เนื่องจากการรอคอยที่ยาวนานถึง 30 ปี คืออารมณ์ที่อัดอั้นของกองเชียร์ที่รอคอยมานานแสนนาน แต่สำหรับปี 2020 ... ยังมีอีก 1 ทีมกีฬาจากลีกดังระดับโลกที่กำลังจะต้องเตรียมงานฉลอง ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะพวกเขารอคอยความสำเร็จมายาวนานกว่าครึ่ง ศตวรรษ นั่นก็คือ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ทีมจากลีกคนชนคน อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล

"ร้างแชมป์สมัยที่ 2 ยาวนานที่สุดอันดับ 2"

ชีฟส์ เหมือนทีมต้องคำสาป เพราะนอกจากพวกเขาจะคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1970 แล้ว ซึ่งมีเพียงทีมเดียวที่ทำสถิติยาวนานกว่าพวกเขาคือจอมตกต่ำแห่งลีกอย่าง นิวยอร์ก เจ็ตส์ แต่เรื่องที่น่าแปลกใจคือ ชีฟส์ เป็นทีมที่ดีอย่างน้อยๆก็มีช่วงเวลาที่พวกเขาจบฤดูกาลปกติ ด้วยผลงานที่เยี่ยมทั้งในปี 1993,1995,1997 และ 2003 รวมถึงตลอด 10 ปีหลังพวกเขา คว้าแชมป์สาย AFC ในกลุ่มตะวันตก ได้ถึง 4 หน หรือถ้ากล่าวง่ายๆ พวกเขาเคยจบด้วยผลงานแชมป์กลุ่ม 8 ครั้ง แต่กลับไปไม่ถึงรอบชิงอีกเลย และห่างกายจากเกม ซูเปอร์โบลว์ มายาวนานครึ่งศตวรรษ เช่นเดียวกับแฟนๆของทีม ที่นั่งรอคอยความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นเลยก็ว่าได้ แต่อะไรคือสิ่งที่ ชีฟส์ ยังคงตามหาหละ ?

"การพัฒนาที่ยังหาความสำเร็จไม่เจอ"

ปี 2012 หลังความตกต่ำสุดขีด เพราะทีมจบฤดูกาลปกติด้วยสถิติ ชนะ 2 แพ้ 14  ทีมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และ หนึ่งในนั้นคือการเข้ามาของ อเล็กซ์ สมิธ ในปี 2013ซึ่งเวลานั้น สมิธ ถือเป็นควอเตอร์แบ็คที่มีฝีมือ พร้อมกับถูกคาดหวังว่าจะพลิกโฉมหน้าของทีมได้ ปรากฏว่า 5 ปีที่ ชีฟส์ มีควอเตอร์แบ็ครายนี้นำทัพ พวกเขาฤดูกาลปกติด้วยสถิติ ชนะมากกว่าแพ้ ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟ 4 จาก 5 ปี แต่ก็นั่นแหละ พวกเขายังคง ไม่สามารถลบล้างอาถรรพ์ได้ เพราะไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ และ สมิธ ก็ยังคงมีผลงานที่น่าผิดหวังเมื่อต้องเล่นในรอบสำคัญ

ปี 2017 บอร์ดบริหารจัดการดราฟต์เด็กหนุ่มคนนึงเข้ามาสู่ทีมในตำแหน่งควอเตอร์แบ็ค หนุ่มคนนั้นคือ "แพทริก มาโฮมส์" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปีที่พวกเขาใช้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรก กับเลือกตำแหน่งจอมทัพของทีม

"ความเสี่ยงเพื่อจุดหมายปลายทางที่ใช่"

ใครจะเชื่อว่า ชีฟส์ ตัดสินใจเทรดอดีตดราฟต์นัมเบอร์วันอย่าง สมิธ ทิ้งออกจากทีม ทั้งๆที่เขามีเรตติ้งในช่วงฤดูกาลปกติที่ดีที่สุดคนนึง  แต่นั่นเพราะพวกเขาเห็นอะไรบางอย่าง จากเด็กที่ชื่อว่า "แพทริก มาโฮมส์" มาโฮมส์ ฉายแววการเป็นยอดควอเตอร์แบ็คในฤดูกาลที่ 2 ทันที หลังจากได้ขึ้นตำแหน่งตัวจริง ปี 2018 - 2019 เขาสร้างความฮือฮาด้วยสถิติปา 50 ทัชดาวน์ในช่วงเรกูล่าร์ ซีซั่น แม้ท้ายที่สุดพวกเขาจะตกม้าตายเช่นเคยในรอบชิงแชมป์สายต่อ แพทริอ็อตส์ 

แต่พัฒนาการของทีม ความลงตัว และ การก้าวขึ้นมาเป็นจอมทัพเต็มตัวปีแรกของ มาโฮมส์ และสามารถพาทีมมาได้ไกลจนยื้อทีมแห่งยุคอย่างนักรบกู้ชาติได้จนถึงช่วงต่อเวลานั้น ถือว่าสิ่งที่พวกเขาเสี่ยง กำลังจะส่งสัญญาณในทิศทางบวกบางอย่าง ซึ่ง มาโฮมส์ สามารถคว้า MVP ประจำฤดูกาลปกติได้อีกด้วย

"ผลิดอกออกผล ... คนๆเดียวเปลี่ยนโลก ชีฟส์ ได้ทั้งใบ"

จริงอยู่ที่อเมริกันฟุตบอลคือกีฬาประเภททีม และ ชีฟส์ คือ 1 ในแฟรนไชส์ที่มีทีมเวิร์คยอดเยี่ยม แต่การที่พวกเขายังไปไม่สุดสักที อาจจะเพราะทีมยังขาดชิ้นส่วนสำคัญบางอย่าง และ มาโฮมส์ ได้ตอกย้ำอีกครั้งในปี 2019 ว่า "เขาคือส่วนเติมเต็มไปสู่ความสำเร็จของทีม" ทุกตำแหน่งมีหน้าที่ของตัวเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ควอเตอร์แบ็คคือตำแหน่งสำคัญอย่างยิ่ง หลายๆครั้งที่เราได้เห็นทีมที่ก้าวขึ้นมาผงาดคว้าแชมป์ พวกเขาจะต้องมีจอมทัพที่โดดเด่น และสามารถทำในสิ่งที่เหลือเชื่อได้เสมอ

เด็กจาก มหาวิทยาลัย เท็กซัส เท็กซ์ รายนี้ โชว์ศักยภาพการเป็นสตาร์อย่างแท้จริง ขนาดมีอาการบาดเจ็บรบกวนในปี 2019 ยังขว้างในซีซั่นปกติไป 26 ทัชดาวน์ และในรอบเพลย์ออฟ เขาคือส่วนสำคัญที่พาทีมพลิกสถานการณ์กลับมาชนะทั้ง ฮุสตัน เท็กแซน และ เทนเนสซี่ ไททันส์ จุดเด่นที่ไม่ต้องพูดถึงคือ การปกจากสถานการณ์คับขัน แถมยังสามารถวิ่งเองได้ ส่งผลให้ออปชั่นเกมบุกของ ชีฟส์ หลากหลายและลงตัวจนอยู่ในระดับท็อปของลีก

"สิ้นสุดการรอคอย 50 ปี พร้อมตำแหน่ง MVP ที่ต่างจากเดิม"

รอบชิงชนะเลิศของ ซูเปอร์โบล์วครั้งที่ 54 แทบไม่ต่างจากรอบก่อนหน้า เพราะ ชีฟส อาศัยทั้งความมหศจรรย์ของ มาโฮมส์ และ คอนเซ็ปต์ "คัมแบ็ค อิส เรียล" อีกครั้งซัด 21 คะแนนในควอเตอร์ 4 กลับมาแซงชนะ โฟตี้ไนเนอร์ส 31 - 20 คะแนน แชมป์นี้ยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะ ชาวมิสซูรี่ และ แฟนทีม แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์  คงรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ หลังจากพวกเขาไม่ได้ทั้งเข้าชิงและคว้าแชมป์มาเท่ากัน คือยาวนานครึ่งศตวรรษ 

ขณะเดียวกัน โฮมส์ ซึ่งคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของรอบชิงชนะเลิศซูเปอร์โบล์ว คงกลายเป็นฮีโร่ที่จะถูกยกย่องและคาดหวังผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ไปอีกหลายปี การกอบกู้ศรัทธาแฟนกีฬา และ สร้างสีสันที่มีชีวิตชีวาให้กลับคืนสู่เมืองที่ร้างความสำเร็จ ไปอย่างยาวนาน มักจะมีบรรยากาศที่ชื่นมื่นเสมอ … ถ้าไม่เชื่อรอถามแฟนบอลลิเวอร์พูลหลังจบฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้เลย