เอรียา จุฑานุกาล : ถอดรหัสความคิด โปรกอล์ฟไทยที่ประสบความสำเร็จมากสุด

เรื่องราวของเด็กสาวที่ชอบวิ่งเล่นซุกซนในร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟของครอบครัวในวันนั้น เป็นเหตุที่่ทำให้เธอถูกคุณพ่อดุด่าและไล่ให้ไปเล่นกอล์ฟ เพียงเพราะไม่อยากให้มาเกะกะในร้าน แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นชีวิตเธอพลิกผันกลายเป็นนักกีฬาระดับโลกที่ประสบควาสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการกอล์ฟสาวไทยในปัจจุบัน เบื้องหลังชีวิตถูกเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก ทรหดอดทนมากเกินกว่าจะจินตนาการได้ กว่าจะสามารถเทิร์นโปรและกลายเป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนแรกที่ขึ้นครองมือ 1 ของโลกในปี 2017 

ความยิ่งใหญ่ของเธอไม่จบเพียงแค่นั้น ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทั้งประเทศ เชื่อว่าหากใครได้ดูแล้วคงจะได้รับแรงบันดาลใจมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน

เจ้าของรางวัลนักกอล์ฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี LPGA 2 ปีซ้อน นักกอล์ฟสาวที่กวาดทุกรางวัลของ LPGA ปี 2016 มีเธอเทคนิคการไดร์ฟที่ทรงพลัง หวดลูกได้ไกลในระยะเทียบเท่าผู้ชาย ล่าสุดเพิ่งคว้าแชมป์ของแอลพีจีเอ รายการที่ 11 มาครอง ซึ่ง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นั้นมีวิธีคิดที่น่าสนใจและวันนี้เราจะทุกคนไปสำรวจความคิดของเธอกัน

ความเชื่อของครอบครัว จุฑานุกาล

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ประโยคคลาสสิคสั้น ๆ แค่ 4 พยางค์ ฟังดูเชย ๆ แต่กลับมีมนต์ขลังและทรงพลัง เป็นประโยคที่ครอบครัวจุฑานุกาลทุกคนยึดเป็นหลักในการใช้ชีวิตมาตลอด และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ โปรเม ประสบความสำเร็จการเล่นกอล์ฟอาชีพ

“เม ว่าอย่างแรกเราต้องเชื่อในตัวเองก่อน เชื่อว่าเราทำได้แล้วก็ไม่หยุดทำ” โปรกอล์ฟสาวเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เม เชื่อจริง ๆ ว่า ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เราจะทำมันอย่างเต็มที่แล้วก็จะไม่หยุดทำจริง ๆ ถึงแม้ว่าวิธีที่ 1 วิธีที่  2 วิธีที่ 3 มันจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราก็จะหาวิธีที่ 4 วิธีที่ 5 วิธีที่ 6 ต่อไปแค่นั้นเอง”

“เป้าหมาย กับความหมายของมัน คือเป้าหมาย เม ว่าใคร ๆ ก็ตั้งเป้าได้ แต่พอวันนึงเรามีความหมายให้เป้าหมาย จะทำให้เราไม่ใช่แค่ไปถึงแล้วก็ได้เงิน แต่มันมีความหมายมากกว่าแค่หาเงิน เมย์ ว่ามันก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะไปให้ถึงมันได้ค่ะ”

ความหมายของเป้าหมาย ที่เราได้ยินแล้วชวนสงสัยอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อคุณอ่านเรื่องราวของเธอจบแล้วหรือเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่องโปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง ก็จะเข้าใจประโยคนี้ของเธอมากขึ้น ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวถ่ายทอดชีวิตของโปรเมตั้งแต่จุดเริ่มต้น เส้นทางชีวิตที่ต้องเหนื่อยกว่าเด็ก ๆ ทั่วไป ทุ่มเท อดทน ฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เช้ายันค่ำ เป็นเวลานับสิบปีกว่าจะได้ขึ้นครอง มือ 1 ของโลกครั้งแรกในปี 2017 

ความหมายของการเป็นมือ 1 โลก

ย้อนกลับไปเหตุการณ์ในวันที่ เม ลงแข่งขันรายการ “แมนูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ที่ประเทศแคนาดา ด้วยความผิดหวังที่อดขึ้นมือ 1 ของโลกในสัปดาห์ก่อนหน้า เพราะการคำนวณคะแนนที่ผิดพลาดของ แอลพีจีเอ ความมุ่งมั่นของ เม ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 25 ฟุตลงไป ก่อนชนะการดวลเพลออฟ 2 คู่แข่งจากสหรัฐ ฯ และเกาหลีใต้

สำหรับคนอื่นนี่คือการก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงอันดับ 1 ของโลกอย่างสมศักดิ์ศรี แต่สำหรับโปรเม มันคือจุดเริ่มต้นที่จะได้ทำให้คำว่า มือ 1 ของโลกมันมีความหมายมากกว่าความยอดเยี่ยมส่วนตัว

“ดีใจค่ะ เพราะว่ามันเป็นความภูมิใจ เหมือนเรามีเป้าหมาย แล้วเราทำมันได้ จริง ๆ ช่วงที่เป็นมือ 2 ของโลกเมก็มีความสุขนะ ก็รู้สึกว่าชีวิตก็ดี สามารถดูแลคนที่เรารักได้ ทำงานหาเงินเป็นแชมป์ไปเรื่อย ๆ ชีวิตมันก็ดีค่ะ แต่มีวันนึงอยู่ ๆ เราก็คิดขึ้นมาว่าอยากเป็นมือ 1 แล้ว เราถามตัวเองว่าอยากเป็นมือ 1 ของโลกเพราะอะไร” 

“ก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุผล แต่วันที่เราอยากขึ้นมือ 1 เราอยากมีมูลนิธิเป็นของตัวเอง เราอยากช่วยเหลือเด็ก เราอยากให้ชีวิตของเราเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กหรือให้คนอื่นต่อไปได้ เรารู้สึกว่าคำว่ามือ 1 ของโลกมันจะทำให้คำพูดเรามันดูมีความหมายมากขึ้น คนจะฟังเรามากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าโอเค งั้นตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้เป็นมือ 1 ของโลก จากวันนั้นก็ทำทุก ๆ อย่างจนได้เป็นมือ 1 ของโลกค่ะ”

ความสำเร็จในวันนั้น ทำให้ชื่อเสียงของเธอโด่งดังมากขึ้ สื่อไทยและต่างประเทศประโคมข่าวและสกู๊ปกันเต็มไปหมด ผู้ใหญ่ในประเทศก็ออกมายกย่องโปรกอล์ฟสาวไทยว่าเป็นนักกีฬาตัวอย่าง เยาวชนที่อยากประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬาควรเอาเมเป็นตัวอย่างทั้งด้านความพยายามและทัศคติในการใช้ชีวิต

เมื่อผมบอกว่าสิ่งที่เธอทำอยู่มันคือการทำเพื่อคนอื่น ๆ ไม่ใช่แค่ความฝันของตัวเอง แต่เธอก็ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ใช่ เธอก็ทำเพื่อตัวเองเพราะเธอมีความสุขเวลาได้เห็นคนอื่นมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ

“เม ไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น เมแค่รู้สึกว่าการที่เราเห็นคนอื่นมีความสุข มันคือความสุขของเรา การที่ได้ช่วยคนอื่นมันคือความสุขของเรา ไม่ได้คิดว่ามันคือการทำเพื่อคนอื่น เมทำเพื่อตัวเอง พอได้ขึ้นมือ 1 ก็ดีใจมาก เพราะรู้สึกว่าหลังจากนั้น เราจะทำอะไรได้อีกเยอะแยะเลย คำพูดเมมันจะมีความหมายมากขึ้น การที่เราจะช่วยเด็ก เราก็มีโอกาสที่จะทำมันสำเร็จมากขึ้น เสียงของเรามันจะเป็นเสียงที่คนอื่นฟังเรามากขึ้น”

“ความฝัน จุดมุ่งหมาย มันทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีค่า มันทำให้เรารู้ว่าเราตื่นมา รู้ว่าต้องทำอะไรที่สำคัญก็อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครค่ะ ไม่มีใครดีกว่าเรา เราไม่ได้แย่กว่าใคร ทุกคนแค่มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน มันทำให้คำว่าประสบความสำเร็จของเราไม่เหมือนกัน แล้วสุดท้ายแล้วเริ่มต้นจากคำว่ารัก เมย์ว่ามันสวยงามและมันก็ถูกต้องเสมอ”

มูลนิธิโมรียา-เอรียา

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะได้รับการหยิบยื่นโอกาสมาก่อนเช่นกัน อย่างที่โปรเมบอกไว้ การขึ้นมือ 1 ของโลกเป็นเพราะเธอมีเป้าหมายอยากที่จะแบ่งปันโอกาสให้กับคนอื่นบ้าง เธอร่วมมือกับพี่สาว โปรโม โมรียา จุฑานุกาล ก่อตั้ง “มูลนิธิโมรียา-เอรียา” ขึ้น เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษา การกีฬา รวมทั้งหาทุนให้กับนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่มีฐานะยากจน

“จริง ๆ เป้าหมายตอนนี้ ก็อย่างที่บอกค่ะ วันนึงเมขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกแล้ว ก็อยากจะช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ยากไร้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น เป้าหมายตอนนี้ก็โฟกัสไปตรงนั้นค่ะ”

“เม แค่รู้สึกว่าการที่คนอื่นมองเราว่าเราดีแค่ไหน มีเงินแค่ไหน เก่งแค่ไหน เราไม่ได้โฟกัสกับความเป็นจริงในชีวิต ความเป็นจริงในชีวิตคือเราเป็นคนดีแค่ไหน เป็นคนที่พร้อมจะให้คนอื่นแค่ไหน เป็นคนที่พร้อมจะรักคนอื่นแค่ไหน นั่นคือความเป็นคนที่แท้จริงในความรู้สึกของนะ”

“ความเป็นคนที่แท้จริงไม่ได้มีอะไร แต่แค่เป็นอะไร คุณเป็นคนที่ดีไหม มีความคิดที่ดีไหม รู้จักรักคนอื่นและให้คนอื่นไหม อันนี้คือความเป็นคุณ สิ่งที่คุณมีไม่ได้บอกว่าคุณเป็นอะไร”

ชนะใจตัวเองสำคัญสุด

อันดับโลกอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทัศนคติจะอยู่ติดตัวเราไปตลอด แม้ว่าวันนี้ โปรเม ไม่ได้รั้งอันดับ 1 ของโลก แต่ความมุ่งมั่นของเธอไม่ได้ลดน้อยลง กอล์ฟยังคงเป็นความฝันที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้กับเธอ และยังเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสามารถแบ่งปันโอกาสดีให้กับเยาวชนที่ยากไร้ได้อีกมากมาย ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับเธอทำให้ผมเชื่อว่าทัศนคติการใช้ชีวิตที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เด็ก มันจะติดตัวเธอไปตลอด

"แข่งกับตัวเองเป็นสิ่งที่ชนะแล้วภูมิใจนะ เพราะว่าวันที่เราชนะคนอื่น มันก็ดีใจแหละ เราก็ถือถ้วยแล้วก็ดีใจ แต่สุดท้ายแล้วเมว่าชนะตัวเองมันเป็นสิ่งที่เราภูมิใจมากที่สุด การเอาชนะความกลัวของตัวเอง ชนะความกดดันของตัวเอง ชนะความขี้เกียจของตัวเอง ชนะความท้อแท้ของตัวเอง บางวันเราแค่อยากนอนอยู่เฉย ๆ แต่ว่าเราชนะตัวเองคือการลุกขึ้นมาแล้วทำอะไรสักอย่างในแต่ละวันให้มันดีขึ้น”

“จริง ๆ ต้องบอกว่าวันนึงที่เราขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว เราไม่ได้คิดถึงอันดับโลก ไม่ได้คิดถึงเงินรางวัล ไม่ได้คิดว่าเราจะเป็นมือ 1 ของโลกอีกนานไหม จะมีอันดับโลกอยู่ที่เท่าไหร่ เราแค่รู้สึกว่าหน้าที่เราในทุก ๆ วัน คือการออกไปทำให้มันดีที่สุด ออกไปทำให้มันใกล้กับเป้าหมายของเราให้มากที่สุด เรียนรู้กับทุก ๆ เรื่องพบ แล้วก็ต้องคิดเสมอว่าคนเรามีขึ้นแล้วก็มีลงเสมอ ไม่มีใครขึ้นตลอดและก็ไม่มีวันลงตลอด”

“เราแค่เป็นเราให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของเราให้มันดีที่สุด แล้วก็มองข้ามในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ อันดับโลกเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เมไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้อีกกี่ปี ไม่รู้ว่าผลงานตกลงแล้วจะลงไปอีกนานไหม หรือว่าผลงานดีขึ้นแล้วจะดีขึ้นอีกนานไหม มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือวันนี้เราจะทำอะไร และทำมันให้ดีที่สุดก็เท่านั้น” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟ อดีตมือ 1 ของโลกทิ้งท้าย