มูฮัมหมัด อุสมานมูซา : ว่าที่พ่อมดฟุตซอลไทยรุ่นที่ 3

มูฮัมหมัด อุสมานมูซา : ว่าที่พ่อมดฟุตซอลไทยรุ่นที่ 3

#ChangsuekFutsalCorner

หากจะเอ่ยถึงสุดยอดนักเตะของวงการฟุตซอลไทย ชื่อของ "บัง" อนุชา มั่นเจริญ กับ "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จะอยู่ในลิสต์รายชื่อแรกๆ ที่แฟนฟุตซอลไทย นึกถึงอย่างแน่นอน

ด้วยผลงานอันเอกอุไปทั่วทวีปเอเชีย และสไตล์การเล่นที่มีเอกลักษณ์ จังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม เป็นเดอะแบกของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ทำให้สื่อ และแฟนๆ ฟุตซอลช้างศึก ต่างยกให้ "บัง" อนุชา มั่นเจริญ เป็นพ่อมดฟุตซอลไทย คนแรก ก่อนที่ "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จะมารับช่วงต่อโชว์ฟอร์มสุดโหดได้รับฉายา พ่อมดฟุตซอลไทย รุ่นที่ 2  ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 

ปัจจุบัน "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ยังอยู่ในฟอร์มที่ดีแต่อายุเข้าสู่เลข 3 เป็นที่เรียบร้อย ทำให้หลายฝ่ายต่างมองหาตัวแทนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในอนาคต เป็นเดอะแบกคนใหม่ทดแทนในวันที่ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง โรยราลงไป

ซึ่งนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "เจ้าเหม็ด" มูฮัมหมัด อุสมานมูซา นักฟุตซอลดีกรีทีมชาติลูกครึ่งไทย-กาน่า วัยเพียง 22 ปี ที่ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 18 ปี ปัจจุบันลงสนามรับใช้ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก ไปแล้ว 42 เกม ยิงไปถึง 51 ประตู

จุดเริ่มต้นของ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ที่มีคุณพ่อเป็นชาวกาน่า และคุณแม่เป็นคนไทย มีดีเอ็นเอนักกีฬาอยู่ในสายเลือดตามคุณพ่อ ที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ เคยค้าแข้งกับ ฟุตบอลยาสูบ และการท่าเรือ มาแล้ว ทำให้เจ้าตัวผูกพันกับลูกกลมๆ ที่เรียกว่า "ฟุตบอล" มาตั้งแต่เด็ก รวมกลุ่มเตะบอลพลาสติกในชุมชนซอยสุเหร่า (เพชรบุรี 7) กับเพื่อนๆ

ก่อนเริ่มเรียนรู้ศาสตร์ฟุตซอลระดับนักเรียนขาสั้นในระดับมัธยมต้นกับ โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร ย้ายไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนราชวินิตบางเขน ในฐานะนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียน พร้อมสร้างชื่อเสียงมากมาย เรียกได้ว่าลงแข่งขันรายการไหนได้แชมป์รายการนั้น โดยเฉพาะแชมป์ฟุตซอลกทม.ลีก ปี พ.ศ.2558 ที่เจ้าตัวได้รางวัลดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม จากผลงานยิงไปถึง 56 ประตู

เรียกได้ว่า  "เจ้าเหม็ด" มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ผลงานโดดเด่นแบบสุดๆ เก่งเกินวัยจนถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย อย่าง ชลบุรี บลูเวฟ ยื่นขอเสนอให้ไปร่วมทีมตั้งแต่ยังเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 แต่สุดท้าย ดาวเตะลูกครึ่งไทย-กาน่า เลือกเซ็นสัญญากับ สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี เล่นลีกอาชีพในฤดูกาล 2016 และเป็นแกนหลักของทีมมาโดยตลอด 

ช่วยทีมอัศวินเมืองหลวง คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสรทั้ง แชมป์ฟุตซอลเอฟเอ คัพ 2017 และแชมป์ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 และย้ายไปค้าแข้งต่างแดนมาแล้วกับ ซานติอาโก ฟุตซอล ในลีกสูงสุดของสเปน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักฟุตซอลไทยคนแรก ที่ลงเล่นและทำประตูได้ในลีกสูงสุดของสเปน เมื่อปี 2018 และย้ายแบบยืมตัวไปเล่นกับ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ในศึกชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2019

ส่วนในนามทีมชาติไทย เด็กหนุ่มพูดน้อยมารยาทดี เริ่มสร้างชื่อกับ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี จากการบุกปั้นจากโค้ช มิเกล โรดริโก้ กุนซือชาวสเปน ก่อนขยับมาติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ครั้งแรกในศึก ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2016(แข่งขันปี 2017) และก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทัพช้างศึก มาโดยตลอด เป็นดาวซัลโวศึกชิงแชมป์อาเซียนมาแล้ว 2 สมัย ปี 2017,2019

ที่สำคัญ ดาวยิงทีมชาติไทย ยังมีชื่อติด 1 ใน 10 นักกฟุตซอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมโลก 3 ปีติดต่อกัน ปี 2017,2018,2019 ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายการันตีชั้นดีว่า "เจ้าเหม็ด" เป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสที่รอวันเฉิดฉายระดับเวทีโลก ในอนาคต

ปัจจุบัน มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ตัดสินย้ายมาซบทีมใหญ่ "ฉลามพลังเพลิง" พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เจ้าของแชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย เพื่อที่จะขยับตัวเองขึ้นมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เกมระดับนานาชาติให้มากขึ้น และได้มาร่วมทีมกับเหล่านักเตะทีมชาติไทย ที่นำโดย "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย รุ่นที่ 2 

จากผลงานที่กล่าวมานั้น หลายๆฝ่ายต่างฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า "เจ้าเหม็ด" มูฮัมหมัด อุสมานมูซา นี่แหละที่จะก้าวขึ้นมาเป็น "พ่อมดฟุตซอลไทยรุ่นที่ 3" และเป็นเดอะแบกคนต่อไปของ ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ในอนาคต

หลังจากนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่า มูฮัมหมัด อุสมานมูซา จะก้าวขึ้นไปเป็น "พ่อมดฟุตซอลไทยรุ่นที่ 3" ได้แบบเต็มตัวได้หรือไม่ แล้วแฟนฟุตซอลไทย คิดเห็นเห็นอย่างไรกับนักเตะลูกครึ่งไทย-กาน่า คนนี้กันบ้าง