กัตติกา แก้วพิน ซูเปอร์สตาร์แห่งนครนนท์

ย้อนกลับไปในการเเข่งขัน วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก เมื่อซีซั่น 2018-19 อมรเทพ คนหาญ คือผู้เล่นที่ทำคะเเนนสูงสุดในประเภททีมชาย(278 คะแนน) ส่วนฝ่ายหญิงเป็นทาง กัตติกา แก้วพิน ตัวเก่งจาก 3BB นครนนท์ ที่เก็บไปคนเดียว 260 คะแนน

อมรเทพ และ กัตติกา มีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือทั้งคู่เป็นผู้เล่นที่รูปร่างไม่สูงมากนัก หากนำไปเทียบกับดาวตบชื่อดังคนอื่นๆ แต่กลับมีจุดเด่นอยู่ที่พลังการกระโดดที่มหาศาล และน้ำหนักการตบที่ถือว่ารุนแรงมาก จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นตัวหลักของทีมต้นสังกัดมาโดยตลอด

กัตติกา มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 168 เซนติเมตร แต่ผ่านการลงเล่นในนามทีมชาติไทยมาแล้ว โดยสมัยที่ เจ้าตัว แจ้งเกิดขึ้นมากับ โรงเรียนกีฬานครนนท์ 6 ฟอร์มของ กัตติกา ร้อนแรงจนไปเตะตา สมาคมวอลเลย์บอลฯ และมีโอกาสติดธงรับใช้ชาติลงแข่งขันในชุดเยาวชน โดยเป็นรุ่นเดียวกับ สตาร์ดังหลายคน อาทิเช่น ทัดดาว นึกแจ้ง(ขอนแก่นฯ), อัจฉราพร คงยศ(สุพรีมฯ) และ แก้วกัลยา กมุลทะลา(เจที มาร์เวลัส) 

ส่วนในนาม ทีมชาติไทย(ชุดใหญ่) กัตติกา มักจะถูกเรียกตัวเข้าร่วมแข่งขันในรายการพิเศษ แต่เมื่อปี 2014 เจ้าตัว ก็เคยได้รับโอกาสลงเล่นรายการใหญ่อย่าง วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอิตาลี เพราะว่าครั้งนั้น สมาคมฯ ต้องแบ่งทีมออกเป็น 2 ชุดเพื่อส่งแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมกับ รายการชิงแชมป์โลก ที่เมืองมะกะโรนี ซึ่งจบทัวร์นาเมนต์ กัตติกา ทำไปทั้งสิ้น 26 คะแนน

ในการแข่งขัน ไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2018-19 กัตติกา เป็นหัวเสาตัวหลักของ 3BB นครนนท์ และพาทีมผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ รวมถึงจบอันดับ 3 ได้สำเร็จ อีกทั้ง เจ้าตัว ยังคว้ารางวัลบุคคลมาครองอีกทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ หัวเสายอดเยี่ยม, เสิร์ฟยอดเยี่ยม และ ผู้ทำคะแนนสูงสุด นี่จึงเป็นอีกหนึ่งรางวัลการันตีของ "ดาว-กัตติกา" ได้เป็นอย่างดี

เมื่อจบการแข่งขัน “ตบลูกยางลีก” ในฤดูกาลที่แล้ว กัตติกา เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้ถูกทาง สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่อนจดหมายเชิญเข้ามาร่วมคัดตัวเพื่อเป็น นักกีฬาทีมชาติไทย ลงแข่งขันรายการต่างๆในปี 2019 แต่ว่า เจ้าตัว ต้องตอบปฏิเสธด้วยเหตุผลส่วนตัว เนื่องจากมีสัญญาจะต้องย้ายไปเล่นใน ลีกอาชีพประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ไม่ได้เข้าร่วมซ้อมกับ ทีมชาติไทย ไปแบบน่าเสียดาย 

ในฤดูกาล 2020 ที่แข่งขันจบลงไปแล้วในฤดูกาลปกติ กัตติกา ยังคงลงเล่นเป็นตัวหลักให้กับ "ไก่ฟ้ามหากาฬ" ต่อไป และที่สำคัญ เจ้าตัว ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม !!!

ตามที่กล่าวมาข้างต้น กัตติกา เป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก แต่ดาวตบวัยเบญจเพส มีทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความฟิต รวมถึงการตีที่หนักแน่น การเทคตัวที่สูง และไหวพริบในการตีที่ดี ทำให้เป็นกำลังของทีมที่แทบจะขาดไม่ได้

แม้ว่าผลงานใน 2 เกมแรกของซีซั่น 2020 นครนนท์ จะออกตัวได้ไม่ค่อยดีนัก ด้วยการพลาดท่าพ่ายไปถึง 2 นัด แต่หลังจากนั้น กัตติกา สามารถระเบิดฟอร์มเก่งพา "ไก่ฟ้ามหากาฬ" เดินหน้าเก็บชัยชนะมาครองได้ทุกนัด และสามารถจบเลกแรกใน อันดับที่ 3  

แม้ว่าตัวเลขและสถิติจะยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่น และเป็นหัวใจในแนวรุกของ "ไก่ฟ้ามหากาฬ" นับว่าเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองอีกคน

เมื่อการแข่งขัน ไทยแลนด์ลีก กลับมาแข่งขันกันต่อในเลกที่ 2 กัตติกา ยังคงทำผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม และช่วยเหลือทีมได้เป็นอย่างดีเหมือนเดิม รวมทั้งยังเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มสูงสุดต่อเกมได้บ่อยครั้ง โดยเฉลี่ยทำได้อยู่ที่ประมาณ 15 แต้มต่อนัด จากทั้งหมด 6 เกมในเลก 2

ผลงานของ สาวนครนนท์ ในเลกที่ 2 ลงสนาม 6 นัด ชนะ 3 แพ้ 3 จบอันดับ 4 และสามารถตีตั๋วผ่านเข้าสู่ รอบสุดท้าย หรือว่า “ไฟนอลส์โฟร์” ได้สำเร็จ รวมทั้งยังเขี่ย “บิ๊กเนม” ไดมอนด์ ฟู้ดฯ ที่นำทัพมาโดย อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง และ อำพร หญ้าผา

ขณะที่ ไทยแลนด์ลีก ในรอบสุดท้าย จะเหลือการแข่งขันอีกทั้งหมด 2  สัปดาห์ ซึ่งความจริงน่าจะจบลงไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน โดยเบื้องต้นจะกลับมาเล่นกันอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แต่ต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมในเมืองไทยอีกครั้ง

สำหรับรายชื่อ 4 ทีมสุดท้าย ที่จะลงชิงชัยเพื่อแย่งโทรฟี่แชมป์ “ไทยแลนด์ลีก” นอกเหนือจาก นครนนท์ ประกอบด้วย “แชมป์เก่า” นครราชสีมาฯ “แชมป์เลกแรก” ขอนแก่นสตาร์ฯ และ “แชมป์เลกสอง” เจนเนอราลี่ สุพรีมฯ 

นับว่าผลงานของทั้ง กัตติกา และ นครนนท์ ในไทยแลนด์ลีก ซีซั่น 2020 เป็นไปได้สวยเลยทีเดียว และต้องตามกันต่อว่า "ไก่ฟ้ามหากาฬ" ของ กัตติกา จะสามารถทำผลงานได้ดีมากน้อยแค่ไหน ในการแข่งขันรอบสุดท้าย ซึ่งทั้ง 4 ทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด และจะพบกันหมดทีมละ 2 ครั้ง เพื่อหาทีมที่ดีที่สุด 1 ทีม