9 ตุลาคม 2563
หากพูดถึงรอบชิงชนะเลิศของ NBA ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงยุคปัจจุบันแฟนบาสทุกคนคงจะต้องจำชื่อของตำนานนักบาสที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดตลอดกาลอย่าง ไมเคิล จอร์แดน ได้แน่นอน ถึงแม้เขาจะเลิกเล่นไปนานกว่า 20 ปีแล้ว แต่สถิติการทำแต้มในรอบชิง NBA ของเขายังไม่มีใครทำได้เทียบเคียงมาจนถึงทุกวันนี้ โดยสถิตินั้นคือการที่ ไมเคิล สามารถทำได้อย่างน้อย 20 แต้มในทุกเกมที่เขาลงเล่น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถือสถิติในการเข้าชิงแบบ 100% ด้วยการที่เข้าชิง 6 ครั้ง คว้าแชมป์ 6 ครั้งอีกด้วย
เมื่อกาลเวลาผ่านไป อย่างที่ทุกคนทราบกันดี นอกจากเราจะได้เห็นฟอร์มการเล่นที่เก่งกาจของนักกีฬาแล้ว สมัยนี้ยังจะมีเรื่องของแฟชั่นมาเกี่ยวข้องด้วยตลอด เพราะถ้าสังเกตดีๆ แฟนๆคงไม่พลาดสีสันของรองเท้าสวยๆ ที่นักกีฬาระดับโลกเขาสวมใส่กันเมื่อลงแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น NIKE หรือ ADIDAS แม้กระทั่ง PUMA ทั้งสามแบรนด์ดังก็อยู่ในตัวท็อปที่นักกีฬาเลือกสวมกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามาโฟกัสกันที่ เรื่องเทรนด์รองเท้าของคนรุ่นใหม่ ณ ตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ที่มาแรงที่สุดก็คือ NIKE AIR JORDAN โดย FORBES ออกมาเปิดเผยว่าเจ้าของแบรนด์อย่าง ‘MJ’ หรือ ไมเคิล จอร์แดน กวาดเงินจากการสร้าง JORDAN BRAND ที่เป็น SIGNATURE ของเขาไปกว่า 1,000 ล้านเหรียญแล้ว โดยมีหลายองค์ประกอบที่ทำให้รองเท้าของเขาประสบความสำเร็จและกลายเป็นรองเท้าที่คนทั่วโลกต้องการจับจองและเป็นเจ้าของ
เพราะตั้งแต่ ไมเคิล จอร์แดน สวม NIKE AIR JORDAN เป็นคนแรกในช่วงสิ้นปี 1984 ก็ได้ทำให้กระแส ‘JORDAN FEVER’ ดังกระหน่ำไปทั่วโลก
นอกจาก ‘ATHLETE PERFORMANCE’ หรือผลงานในสนามของ ‘MJ’ ที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนสนใจซื้อรองเท้าแล้ว ถ้ามาลองวิเคราะห์จุดเด่นอื่นๆ ของรองเท้ารุ่น AIR JORDAN ที่ทำให้ขายดี ก็ต้องเป็นเรื่องของคุณภาพและความรู้สึกที่ตัวรองเท้ามอบให้กับผู้สวมใส่นั่นเองครับ
เมื่อได้สวมรองเท้าคู่นี้แล้ว หลายคนรู้สึกถึงทั้งความเท่ ความทันสมัย ความสบาย ที่รวมตัวกันมาอยู่ในรองเท้าคู่เดียว
รองเท้า AIR JORDAN ของเขาได้รับความนิยมอย่างสูง และมีคนมักเลือกสวมใส่มากมายมากกว่าแค่คนเล่นบาส เพราะรองเท้าถูกออกแบบให้ใส่ได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน เลยทำให้ TARGET GROUP หรือ กลุ่มเป้าหมายของรองเท้าคู่นี้ใหญ่โตกว่ารองเท้ากีฬาทั่วไป
เหล่า SNEAKER HEAD หรือ นักสะสมรองเท้าทั่วโลกเลยต้องการที่จะหาซื้อและสวมรองเท้าแบรนด์ที่จะทำให้ผู้ใส่ดูเท่พร้อมกับมีสไตล์ เมื่อไหร่ที่สวมออกไปนอกบ้าน
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ก็ได้มีรองเท้าสีและดีไซน์ใหม่ๆออกมาหลายรุ่น แต่ความพิเศษของ JORDAN นอกจากจะเท่และใส่ได้หลายที่แล้ว เรื่องการตลาดรองเท้าคู่นี้ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
AIR JORDAN แต่ละรุ่นจะถูกผลิตมาในจำนวนค่อนข้างจำกัด ทำให้หาซื้อในราคา RETAIL หรือ ตามป้ายได้ยากมาก ทำให้คนที่ซื้อได้ในราคาตามป้ายจะชอบนำมาขายต่อในราคาที่สูงกว่าเดิมในโลกออนไลน์
ซึ่งทั้งความหาได้ยาก และราคาที่สูงก็ทำให้เกิด COLLABORATION หรือการจับมือกันระหว่างแบรนด์ JORDAN กับซุปตาร์ดังๆระดับโลกมากมาย เช่นศิลปินอย่าง DRAKE, DJ KHALED, JAY-Z หรือ แม้กระทั่ง EMINEM
จนมาถึงวันนี้ การได้สวมใส่รองเท้า JORDAN ซักคู่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะของคุณ ว่าคุณเป็นคนที่อยู่ในเทรนด์สมัยใหม่ และ มีรสนิยมชอบในแฟชั่นสายกีฬา
วันนี้เราจึงจะลองมาดู AIR JORDAN ที่ขายแพงที่สุด 10 คู่ในโลกกันครับ ว่าจะมีรุ่นไหน และราคาเท่าใดบ้าง บอกได้เลยว่ามีอึ้งกันแน่นอน
**ราคาอ้างอิงจาก StockX
10 = AIR JORDAN 8 RETRO KENTUCKY MADNESS PE
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $7,000 (221,270 บาท))
9 = AIR JORDAN 5 RETRO TRANSFORMERS
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $7,471 (236,158 บาท))
8 = AIR JORDAN 3 RETRO DJ KHALED GRATEFUL
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $7,733 (244,440 บาท))
7 = AIR JORDAN 3 RETRO DJ KHALED FATHER OF ASAHD
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $8,759 (276,871 บาท))
6 = AIR JORDAN 3 RETRO LEGENDS OF SUMMER
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $9,250 (292,392 บาท))
5 = AIR JORDAN 4 RETRO EMINEM CARHATT
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $9,951 (314,551 บาท))
4 = AIR JORDAN 4 WAHLBURGERS
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $11,000 (347,409 บาท))
3 = AIR JORDAN 4 RETRO UNDEFEATED 2018 SAMPLE
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $15,750 (488,250 บาท))
2 = AIR JORDAN 4 RETRO EMINEM ENCURE 2017
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $18,000 (558,000 บาท))
1 = AIR JORDAN RETRO PREMIUM DEREK JETER
(ราคาขายต่อโดยเฉลี่ย $18,257 (565,967 บาท))