5 ตุลาคม 2563
ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากจะฝากลูกไว้ในมือคนอื่นหากไม่จำเป็น เพราะเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะใส่ใจดูแลลูกเราดีพอ และเราจะวางใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ทำร้ายลูกเรา แต่ถ้าหากว่าความจำเป็นนั้นคือหนทางสู่นักกีฬาระดับโอลิมปิกล่ะ คุณจะตัดสินใจอย่างไร คุณชั่งน้ำหนักอนาคตของลูกไว้แบบไหน และพร้อมจะส่งลูกให้คนที่ได้ชื่อว่า "มืออาชีพ" ดูแลหรือไม่
หากมองในด้านเดียว Athlete A คือสารคดีที่อาจทำให้คุณรู้สึกสิ้นหวัง เชื่อใจคนอื่นได้ยาก แต่ในมุมกลับกันมันก็ทำให้คุณรู้จักระมัดระวัง และสามารถนำไปสอนลูกได้ว่าเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร รวมทั้งทำให้เราใส่ใจพฤติกรรมลูกมากกว่าเดิม
Athlete A คือเรื่องเกี่ยวกับอะไร
Athlete A หรือในชื่อภาษาไทยว่า "นักกีฬาผู้กล้าหาญ" เป็นสารคดีบน Netflix เรื่องนักยิมนาสติกคนแรกที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมคุกคามทางเพศของ แลร์รี่ นาสซาร์ อดีตแพทย์ที่ทำงานกับทีมยิมนาสติกสหรัฐฯ หลายสิบปี โดยมีสมาคมช่วยปกปิด ซึ่ง อินดี้สตาร์ สำนักข่าวท้องถิ่นในเมืองอินเดียนาโปลิส คือผู้เปิดโปงหนึ่งในคดีที่สุดอื้อฉาวนี้ ส่งผลให้มีนักยิมนาสติกทั้งในอดีตและปัจจุบันหลายร้อยคนก้าวออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก และทำให้สมาคมยิมนาสติกสหรัฐฯ หรือ USAG ต้องสังคายนาครั้งใหญ่
ในสารคดีแสดงให้เห็นถึงการสืบสวน, การรวมรวมหลักฐาน และบทสัมภาษณ์ของผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักกีฬาและผู้ปกครอง ซึ่งเปิดเผยวิธีการที่นาสซาร์ใช้สนองความต้องการของตัวเอง รวมไปถึงความเลวร้ายของ Karolyi Ranch สถานเก็บตัวนักยิมนาสติกในชนบทที่ควบคุมโดย เบล่า และ มาร์ธา คาโรลี 2 โค้ชชาวอเมริกัน-โรมาเนียที่เคยปั้น นาเดีย โคมาเนชี่ จนเป็นตำนานโอลิมปิกมาแล้ว แต่ใช้ความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อกดดันให้นักกีฬาไปสู่เป้าหมาย
ที่มากไปกว่านั้น สารคดี ยังเปิดเผยด้านมืดของ USAG ที่ผู้บริหารมองแต่เรื่องความสำเร็จ, ชื่อเสียง และเงินทอง จนหน้ามืดตามัวช่วยปกป้องอาชญากร มองข้ามสวัสดิภาพของนักกีฬา เพราะเห็นแค่ผลลัพธ์เท่านั้นที่สำคัญ สมาคมไม่ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ขณะที่นักกีฬาที่ออกมาเปิดโปง กลับถูกกีดกันจากทีมชาติทั้งที่ทำผลงานได้ดีในการคัดตัว และถูกทำให้คนอื่นมองว่าแต่งเรื่องทั้งที่เป็นผู้เคราะห์ร้าย
สุดท้ายจากการร่วมมือกันของหลายฝ่ายทั้ง อินดี้สตาร์, นักกีฬา, ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นาสซาร์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคนอื่น ๆ ถูกลงโทษทางกฎหมาย ขณะที่ USAG เปลี่ยนผู้บริหารยกชุดพร้อมนำเรื่องนี้เป็นประเด็นหลักในการปฏิรูปองค์กร
Athlete A ดูแล้วได้อะไร
นอกจากเรื่องข้อเท็จจริงในคดีสุดอื้อฉาว, การทำงานอย่างมืออาชีพของสำนักข่าวที่ตีแผ่เรื่องราวเพื่อช่วยเหลือสังคม และขั้นตอนกว่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะไปถึงโอลิมปิกแล้ว Athlete A ยังทำให้เราได้ข้อคิดว่า "อย่าให้ความสำเร็จลวงตาจนลืมคุณค่าของตัวเอง" การให้มืออาชีพดูแลลูกไม่ใช่เรื่องแย่ แต่พ่อแม่ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าโค้ชคนนั้น มีวิธีการอย่างไร ไว้ใจได้แค่ไหน เพราะอย่างในกรณีของนาสซาร์ เขาใช้ภาพลักษณ์ของผู้ชายใจดี ยิ้มแย้ม มีอารมณ์ขัน ทำให้ผู้อื่นตายใจ ในภาวะที่นักกีฬาต้องการที่พึ่งจากความกดดัน ส่งผลให้ลดการป้องกันตัวเอง และบางครั้งเด็กก็ต้องจำใจยอมทนเพื่อไปให้ถึงเส้นทางที่พ่อแม่และตัวเองหวังเอาไว้
ขณะที่ตัวนักกีฬาก็ต้องกล้าที่จะปรึกษากับผู้ปกครองเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะหนทางสู่เป้าหมายไม่ได้มีแค่ทางเดียวเสมอไป อย่ายอมแพ้ให้กับความฝันของตัวเอง และอย่ายอมให้กับความผิดปกติที่คนอื่นมองเป็นเรื่องปกติ เพราะสิ่งที่เสียไปไม่มีวันเอากลับคืนมาได้แม้จะผ่านไปนานหลายปี เหมือนอย่างอดีตนักยิมนาสติกหลายคนที่ประสบการณ์ในอดีตของพวกเธอยังคงตามหลอกหลอนจนถึงปัจจุบัน แต่เธอก็กล้าที่จะออกมาพูดเพื่อให้นักกีฬารุ่นต่อ ๆ ไปไม่ต้องมาเจอประสบการณ์ที่เลวร้ายแบบเดียวกัน
เรื่องนี้ไม่ใช่เหมาะแค่กับผู้ปกครองและนักกีฬาเท่านั้น แต่คนเป็นโค้ชหรือผู้ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับนักกีฬาก็ควรดูเอาไว้เป็นความรู้ในเรื่องวิธีการทำงานเช่นกัน เพราะบางครั้งเราอาจจะคิดไปว่าวิธีการของตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว และเป็นสิ่งที่ใคร ๆ เขาก็ทำกัน จนลืมนึกไปว่ามันคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาก็สายเกินกว่าที่จะแก้ไข
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ เพราะอาจทำให้เข้าใจประเด็นของสารที่จะสื่อผิดเพี้ยนไป ขณะที่พ่อแม่ก็ควรให้คำอธิบายสำหรับเด็กโตควบคู่ไปด้วยเช่นกัน
Athlete A ไม่ได้มีแค่ที่สหรัฐฯ หรือในวงการกีฬา
กรณีแบบ Athlete A เห็นได้ทั่วโลก ถ้ายกตัวอย่างในวงการกีฬา ปัญหาการใช้ความรุนแรงของเกาหลีใต้มีให้เห็นมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จนกรณีล่าสุดเมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่มีนักไตรกีฬาเลือกจบชีวิตตัวเอง หลังต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งและการใช้ความรุนแรงจากโค้ชและรุ่นพี่นานหลายปี ขณะที่การขอความช่วยเหลือจากองค์กรที่รับผิดชอบก็ไม่ได้รับการตอบรับ จนสุดท้ายเลือกหนทางที่น่าเศร้า
หรือจะเป็นกรณีที่ฮือฮาที่สุดในบ้านเราอย่างโรงเรียนอนุบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่พี่เลี้ยงใช้ความรุนแรงกับเด็ก ก่อนถูกเปิดโปงด้วยคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด จนส่งผลให้มีการขยายผลสืบสวนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นให้เราเห็นในข่าวอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงที่ถูกจ้างให้มาดูแลลูกที่บ้าน หรือคนที่ดูแลผู้สูงอายุก็ตาม โดยบางกรณีถึงขั้นได้รับผลกระทบถึงชีวิตเลยทีเดียว
แน่นอนว่ากรณีทั้งหมดไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะมันก่อให้เกิดภาพจำที่เลวร้ายและส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำไปตลอดชีวิต ดังนั้นสิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการให้ความใส่ใจอย่างถึงที่สุด พยายามพูดคุย สอบถามถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่ในการดูแลของคนอื่น เพื่อไม่ให้ทุกอย่างมันสายเกินไป
TAG ที่เกี่ยวข้อง