7 เรื่องโจ๊กของ นิโคล่า โยคิช ที่คุณอาจไม่เคยรู้

“หมอนี่คือสุดยอดผู้เล่น เขาสามารถเล่นด้วยมุมมองของพ้อยต์การ์ด ด้วยร่างกายที่ใหญ่แบบเซ็นเตอร์ และมีทักษะที่ผสมผสานของทั้ง 5 ตำแหน่งในตัวเดียว” นี่คือการพูดถึง นิโกล่า โยคิช ผู้เล่นชาวเซอร์เบียของทีม เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ที่เป็นปรากฏการณ์แห่งวงการบาสเกตบอลยุคใหม่ ด้วยความสามารถที่หลากหลาย ทั้งการชู้ตระยะกลางและไกล การเลี้ยงบอล การส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงทักษะเกมรับที่ดีไม่แพ้กัน

หลังจากการทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสายตะวันตกได้สำเร็จในฤดูกาล 2019-2020 ทำให้ชื่อของ โยคิช เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเดิมทีเขาก็เริ่มเปล่งประกายมาสักพัก ในฐานะผู้เล่นตัวหลักของนักเก็ตส์ รวมถึงทีมชาติเซอร์เบีย และ แน่นอนว่า สไตล์การเล่นที่เจ้าตัวมักติดไฮไลท์ TOP 10 อยู่บ่อยๆ จากลีลาที่ไม่สมกับขนาดตัวยิ่งทำให้ผู้คนพากันสนใจว่า หมอนี่คือใคร และจากรู้จักกลายเป็นการเปรียบเทียบถึงตำนานอย่าง แมจิก จอห์นสัน ในเชิงผู้เล่นอัจฉริยะ ที่ตัวใหญ่แต่ทักษะเหมือนคนตัวเล็ก นั่นเอง … อย่างไรก็ตามเราจะไม่มาพูดถึงเรื่องฝีมือ ความเก่งกาจ หรือ สถิติการทำคะแนนของเขา … แต่เราจะมาเปิดเผยเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับชายที่ชื่อ นิโคล่า โยกิช เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าหรือ MVP ของเอ็นบีเอ ฤดูกาลล่าสุด

อ่านเรื่อง: ดไวท์ ฮาเวิร์ด: ความสุขที่มาพร้อมโอกาสจากการลดอัตตา 

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและคุณอาจสนใจ

• สถิติที่ชี้ว่า บอสตัน เซลติกส์ มีโอกาสคว้าแชมป์น้อยที่สุด
• “ปิดทองหลังพระ” บทบาททรงคุณค่าที่หาคนเต็มใจทำได้ยาก
• ลูกชู้ต 4 แสน Views จากชายร่างอ้วนที่ เควิน ดูแรนท์ ซูฮก
• Glory Road l ภาพยนตร์บาสที่สอนให้รู้จักคำว่า ผู้นำที่ดี
• พรจากแม่ : การขาดเรียน 7 วัน สู่ 9 ปีใน NBA ของ รูบิโอ้

1. The Joker ฉายาที่ได้มาจากการเรียกชื่อผิด แต่ โยคิช ช๊อบชอบ

แฟนบาสเกตบอล NBA คงรู้จักฉายาของ โยคิช อยู่แล้ว … นั่นคือ “The Joker” โดยมีการให้ความหมายและอุปมาต่างๆนานาว่า เป็นเพราะทุกครั้งที่เจ้าตัวลงเล่นเหมือนมีแสงไฟสาดส่อง ไปที่เขาเสมอ จากการที่เจ้าตัวมักจะแสดงโชว์ลีลาเด็ดออกมาให้เห็น และภายใต้ความมหัศจรรย์มักมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แต่แท้จริงแล้วฉายาสุดเท่ที่เป็นตัวละครดังในภาพยนตร์แบทแมน กลับมีจุดกำเนิดที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้น

… มันเริ่มจากการที่อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาคนนึง ไม่สามารถออกเสียง โยคิช ได้ … และบุคคลคนๆนั้นคือ อังเดร มิลเลอร์ ที่ตัดสินใจเรียกเขาว่า โยเคอะ … 

แม้ว่า วิล บาร์ตัน เพื่อนร่วมทีมคนปัจจุบัน จะหาฉายาใหม่อย่าง “บิ๊ก ฮันนี่” มาให้ แต่ตัวโยคิชเองไม่ชอบ และรู้สึกดีกว่ากับฉายา โจ๊กเกอร์ … แม้แต่ พอล จอร์จ สตาร์คนดังของแอลเอ คลิปเปอร์ส ยังเลือกฉายาของ โยคิช ว่าเป็นฉายาที่เจ๋งที่สุดใน NBA อีกด้วย “เฮ้พวก ถ้าจะมีใครสักคนที่มีฉายาสุดเจ๋ง ก็คงเป็น โยคิช เขามีทริคแปลกในการเล่นมากมาย เขาทำให้ทุกสายตาต้องจับจ้องทันทีที่เขาได้ลูก” 

2. Goofy คาแรคเตอร์ที่เพื่อนร่วมทีมนิยาม จากความเป็นตัวเขา

ความแสบของ โยคิช ไม่ใช่ในสนามเท่านั้น แม้แต่นอกสนามเขาก็เป็น 1 ในผู้เล่นตัวใหญ่ที่เฮฮาที่สุดคนนึง ถึงขนาดที่ ไมเคิล มาโลน เฮดโค้ชของทีมเอ่ยปากว่า “เขามักจะเป็นคนลดอุณหภูมิอันร้อนระอุในห้องแต่งตัว ด้วยความสนุกเฮฮา และความเกรียน ทั้งหมดนั้นทำให้เขาเป็นที่รักของทุกคนในองค์กร” 

มาโลน เล่าต่อว่า “ครั้งนึงที่เราชนะเกมแล้วเขาทำทริปเบิ้ล ดับเบิ้ลได้ … เขาแก้ผ้าแบบเหลือแต่บ็อกเซอร์ ในห้องแต่งตัวและเดินเข้ามากอดผมต่อหน้าคนอื่น … ผมจึงแซวเขาว่าขอให้นายอย่าทำทริปเบิ้ล ดับเบิ้ล ได้อีกเลยนะ”

หลายๆหนเขามักสร้างเสียงหัวเราะจากความเกรียนสุดในการให้สัมภาษณ์สื่อหลังการแข่งขัน เช่น เมื่อถูกถามถึงเรื่องดั๊งค์ระหว่างเกม เขาจะบอกว่าเขาสามารถกระโดดได้สูงและดั๊งค์ได้สวยกว่า เมสัน พลัมลี่ ซึ่งเก่งสแลมดั๊งค์ หรือ ถ้าสื่อถามถึงการเคลื่อนที่อันรวดเร็วของ มาลิค บีสลี่ย์ … โยคิช ก็จะบอกเพียงแค่ว่าเขาสามารถเร็วได้มากกว่านั้น

เช่นเดียวกับ มอนเต้ มอร์ริส ที่เคยเฉลิมฉลองกับการดั๊งค์ครั้งแรกในการลงเล่นบาสเกตบอลอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ โยคิช โพสต์อวยพรแก่เพื่อนร่วมทีมลงโซเชียลมีเดีย “คุณคิดว่าหมอนี่ดั๊งค์ได้หรอ … ผมคิดว่ามันไม่ได้เรียกว่าดั๊งค์นะ” … และ มอร์ริส ยังเสริมด้วยว่า “โยคิช คือคนที่ชอบแร็พ ชอบ 50 เซ็น แต่หมอนี่ดำน้ำตลอด สิ่งที่เขาทำไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่า แร็พ แม้แต่น้อย”

ส่วน จามาล เมอร์เรย์ ก็ออกมาแฉเพื่อนซี้ของเขาเช่นกันว่า “ความคือคนที่เกรียนได้ตลอดเวลา จะในหรือจะนอกสนาม แต่ทั้งหมดเพราะเขาคือชายที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ถ้าให้ผมพูดนะ มุขของเขา เรื่องโกหกที่เขาเล่า การพูดคุย การบลัฟเพื่อนร่วมทีม หรือแม้แต่การพยายามจะเต้นของเขา ทุกสิ่งที่ทำคือเกรียนสุดเลยแหละ ถ้าจะให้สาธยายยังไงก็คงไม่หมด”

และครั้งหนึ่ง โยคิช เคยให้สัมภาษณ์ของความเป็นหนุ่มอารมณ์ดีว่า “แม่ของผม มักบอกให้ผมยิ้มในทุกสถานการณ์ ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย แต่การยิ้มคือพลังที่ดี”

3. อยากแข่งม้า … แต่ แมจิก จอห์นสัน ทำให้เขาเปลี่ยนใจ

ถ้าจะบอกว่ากีฬาขี่ม้า คือสิ่งแรกที่โยคิชอยากจะเล่นเป็นอาชีพ คุณจะเชื่อมั้ย ? … นั่นคือความจริง เพราะในวัยเด็กเขาอยากเป็นนักกีฬาขี่ม้า โดยในวัย 10 ขวบพ่อของเขาสอนให้เขาเล่นบาสเกตบอล แต่จากการที่เขาสนใจเรื่องม้าแข่ง ทำให้เขาเลิกเล่นตอนอายุ 13 และหันไปทำความสะอาดโรงนาและฝึกแข่งม้าแทน อย่างไรก็ตาม ตอน โยคิช อายุ 15 … ชายที่ชื่อ แมจิก จอห์นสัน ได้เปลี่ยนความคิดของเขาให้กลับมาสู่โลกของบาสเกตบอลอีกครั้ง ทั้งหมดเกิดขึ้นจากกที่เขาได้ชมคลิปวิดีโอทีมชาติสหรัฐฯ และ เขาได้เห็นลีลาการส่งบอลของ แมจิก จอห์นสัน ที่ประสานงานกับ ฮาคีม โอลาจูวอน และ อีกคนที่เขาจ้องมองด้วยสายตาเป็นประกายก็คือ ไมเคิล จอร์แดน 

แต่เชื่อว่า จอห์นสัน น่าจะเปลี่ยนแรงผลักดันที่ชัดเจนที่สุด สังเกตได้จากสไตล์และวิธีการเล่นที่คล้ายกัน ซึ่งนำมาสู่การสร้างปรากฏการณ์ผู้เล่นตัวใหญ่แต่อาศัยทักษะอันปราดเปรียวแบบผู้เล่นตัวเล็กเข้ามาผสม ในการเล่น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่บทความหรือบล็อกมากมายมักหยิบยก โยคิช ไปเทียบกับ แมจิก อยู่เสมอ

4. เสพติดโคคา โคล่า จนทำให้ร่างกายเกือบเป็นปัญหาในการเข้าเล่น NBA

ร่างกายกำยำของโยคิช กลับไม่ได้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากนัก เพราะเจ้าตัวเสพติดการดื่มโคคาโคล่า ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตาล และถ้าจะบอกตัวเลขก็บ้ามากๆ เพราะเขาดื่มอย่างน้อยวันละ 4 ลิตร ...โดยเชื่อหรือไม่ว่า ระหว่างการทดสอบร่างกายสมัยที่ลงเล่นให้กับทีม เมก้า ซึ่งเป็นทีมระดับอาชีพทีมแรกของเจ้าตัว โยคิช ไม่สามารถวิดพื้นได้แม้แต่ครั้งเดียว และ ทำท่าแพลงก์ ได้ไม่เกิน 20 วินาที … 

แต่ทันทีที่ การดราฟต์ประกาศผลออกมาและเจ้าตัวถูกเลือกโดยทีม เดนเวอร์ นักเก็ตส์ … นั่นทำให้เขาเปลี่ยนทัศนคติใหม่ โดยหันมา ลด ละ เลิก การเสพติดโคคาโคล่าอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับการควบคุมอาหาร รวมถึงการเลิกดื่มโซดา จนในที่สุดทำให้เขาสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 14 กิโลกรัม ก่อนเริ่มแข่งขันฤดูกาลแรกอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามน้ำหนักของเขาตอนเข้าลีก ก็ยังอยู่ที่ 113 กิโลกรัม เลยทีเดียว

ว่ากันว่า โคคาโคล่า หยดสุดท้ายที่ตกถึงท้องเขา เกิดขึ้นบนเที่ยวบินที่เขาบินไปเมือง เดนเวอร์ นั่นเอง แต่ชีวิตของเขาหลังจากนั้นคือการเติบโตที่ชัดเจน จากเฉลี่ย 10 แต้ม เป็น 16 แต้ม และกลายเป็น 20 แต้ม กระทั่งก้าวขึ้นสู่ระดับออลสตาร์

5. ตอนถูกดราฟต์ปี 2014 (รอบ 2 อันดับที่ 41) เขาคิดว่า กำลังนอนฝันอยู่

อีกหนึ่งเรื่องที่จะบอกว่าตลกก็ว่าใช่ จะบอกว่าดูไม่ใส่ใจก็ว่าได้ เพราะวันที่ NBA ประกาศดราฟต์ผู้เล่นในปี 2014 นั้น … โยคิช ยังนอนหลับอยู่ในขณะที่ชื่อของเขาถูกเลือกให้เป็นอันดับ 41 โดยทีม เดนเวอร์ นักเก็ตส์ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อพี่ชายคนโต (เนมันย่า โยคิช) ของเขาไปปลุกให้มาฟังข่าวดี เจ้าตัวกลับนึกว่าตัวเองกำลังฝันและเลือกที่จะนอนต่อทั้งๆแบบนั้น 

6. ให้ความสำคัญ กับคำว่า "เพื่อน" อย่างมาก

จากอุปนิสัยที่แม้จะปนความเกรียนก็ตามที แต่สิ่งหนึ่งที่ โยคิช ให้ความสำคัญอย่างมากคือคำว่า เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อนร่วมทีม เพื่อนสมัยเรียน หรือ แม้กระทั่งแฟนบาสเกตบอลของเขา ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยโพสต์ว่า 

"I CANNOT SAY THEY ARE MY FANS, I CAN SAY THEY ARE MY FRIENDS ..."

นั่นสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติในการใช้ชีวิต และการให้ความสำคัญต่อคำว่า เพื่อน อย่างมาก โดยมีข้อยืนยันจากสิ่งที่ ไมค์ มาโลน เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในลีกเรามีผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่มากมาย จะเป็น เลบรอน เจมส์, คาไว เลียวนาร์ด หรือ สเตฟ เคอร์รี่ แต่สิ่งที่ โยคิช ต่างจากกลุ่มคนเหล่านั้นคือ เขาเป็นผู้เล่นฝีมือดีมากด้วยพรสวรรค์ แต่กลับมีความอีโก้ที่ต่ำมาก เขาไม่ถือตัว และบางครั้งเขาก็ดูเหมือนเด็กน้อยจอมซนที่สนุกกับชัยชนะของการแข่งขันบาสเกตบอลเท่านั้น”

7. อยากให้ทุกคนเข้าใจสไตล์การเล่นของเขา

สิ่งสุดท้ายที่เป็นความลับมากที่สุด (หรือเปล่า ???) ของ โยคิช คือ ความใจเย็นในการเล่นเกมบุกของเขา ที่ถูกยกให้เป็นความนิ่ง และ ใช้ช็อตคล็อก ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดคนหนึ่งของลีก ไม่ว่าจะเป็นเพลย์ที่จบด้วยการชู้ตเอง หรือ เลือกที่จะจ่ายบอลให้กับเพื่อน ซึ่ง โจ๊กเกอร์ กล่าวถึงความลับแห่งความสุขุมนุ่มลึกว่า

“มันไม่มีอะไรมาก ผมไม่ได้อดทนอย่างที่คุณคิดหรอก แต่ผมแค่ไม่สามารถเล่นและวิ่งด้วยความเร็วที่มากกว่านี้แล้วได้ต่างหาก” 

นั่นแหละครับ นิโคล่า โยคิช