stadium

นักเทนนิสมือ 4 ของโลก ที่ถูกโค้ชโดยชายผู้ทำอาชีพคนขับแท็กซี่

9 กุมภาพันธ์ 2564

หนึ่งในความน่าประทับใจมากที่สุดของการแข่งขันออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมรายการแรกของปี 2020 ไม่ใช่การป้องกันแชมป์ของ โนวัค ยอโควิช ซึ่งนักหวดเลือดเซิร์บครองโทรฟี่เป็นสมัยที่ 8 หรือ จะเป็นการที่ โนเล่ยังคงครอบสถิติไร้พ่ายในแกรนด์สแลมรอบชิงตั้งแต่ U.S. OPEN ปี 2016

 

จะเป็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ โดมินิค เทียม ที่โค่น ราฟาเอล นาดาล และยื้อเกมรอบชิงจนต้องเล่นกันถึง 5 เซต หรือ การตกรอบก่อนกำหนดของ แอชลี่ย์ บาร์ตี้ นักหวดสาวมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน

 

ปรากฏว่าชื่อที่พูดถึงมากที่สุดคือ โซเฟีย เคนิน นักเทนนิสสาวที่วัย 21 ปี ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรก แต่เรื่องราวอันน่าประทับใจคงหนีไม่พ้นการให้สัมภาษณ์ของเธอ ที่ออกมากล่าวขอบคุณพ่อของตนเอง 

 

“พ่อของเธอคืออัจฉริยะตัวจริง เขาไม่มีประสบการณ์แข่งขันเทนนิส ไม่รู้เทคนิค แต่อาศัยวิธีการสังเกตและจดจำ ก่อนจะนำทุกสิ่งทุกอย่างมาถ่ายทอด ผลักดัน จนกระทั่งตัวฉันเองมีวันนี้ได้”

 

แชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิต คือ สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเทนนิสดาวรุ่ง อย่างไรก็ตามสำหรับนักหวดวัย 21 ปี คงเป็นเรื่องที่ต่างออกไป หากคุณได้ติดตามเรื่องชีวิตของครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ “อเล็กซ์ เคนิน” 

 

 

American Dream จุดเริ่มต้นที่มาจากเงินหลักร้อยดอลลาร์

 

ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1987 จุดเริ่มต้นของครอบครัวเคนิน ถือว่ายากลำบากพอสมควร เนื่องจากทั้งคุณพ่อ (อเล็กซ์) และ คุณแม่ (ซเว็ตลาน่า) ไม่ใช่คนที่มีฐานะมากนัก หรืออาจจะเรียกได้ว่าใช้ชีวิตกันแบบปากกัดตีนถีบเลยทีเดียว 

 

หลังจากที่พวกเขาได้ให้กำเนิด “ซอนย่า” (ชื่อเล่นของ โซเฟีย เคนิน) ก็ได้มีจุดหมายใหม่ในชีวิตนั่นคือการเข้ามาลงหลักปักฐานในสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มตัว แต่คุณเชื่อมั้ยว่า พวกเขามีเงินติดตัวมารวมกันเพียงแค่ไม่กี่ร้อยดอลล่าร์ ณ ช่วงเวลาแรกที่ก้าวเข้ามาสู่เมืองที่มีชื่อว่า “นิวยอร์ก”

 

“พวกเราดิ้นรนกันอย่างมาก แม้กระทั่งตัวของผมเองที่ต้องอาศัยเวลาช่วงกลางคืนขับแท็กซี่เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ส่วนกลางวันผมจะไปเรียนภาษาอังกฤษ และ คอมพิวเตอร์ แล้วพอกลับมาถึงช่วงเวลางาน (ขับแท็กซี่) ผมก็จะทบทวนภาษาอังกฤษด้วยการฝึกพูดและฟังจากวิทยุที่เปิดตลอดทั้งคืน” อเล็กซ์ กล่าว

 

เจ้าตัวมองว่าจุดเริ่มต้นแห่งการดิ้นรนคือสิ่งที่ปลูกฝังให้ลูกสาวของเขาแข็งแกร่ง … “สิ่งมหัศจรรย์ที่ทำเพื่อความอยู่รอดมักสร้างภูมิคุ้มกันและความเข้มแข็ง รวมถึงเลือดนักสู้ได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่า โซเฟีย ก็รับรู้และซึมซับในสิ่งเหล่านั้น”

 

ความพยายามใช้ชีวิตเพื่อการอยู่รอด เริ่มเปลี่ยนเป็นเส้นทางแห่งความฝัน หลังจากครอบครัว เคนิน ได้พบว่าสาวน้อยในวัย 5 ขวบกำลังทำได้ดีกับกีฬาชนิดนึงที่เรียก “เทนนิส”

 

 

 

โค้ชที่อาศัยเพียงการสังเกต จดจำ และนำมาปรับปรุง … ให้นักกีฬาที่เขารักมากที่สุด

 

อเล็กซ์ไม่เก่งภาษาอังกฤษเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเขาแทบจะไม่มีประสบการณ์เรื่องกีฬาเทนนิสเลย เพราะเขาเล่นมันเพื่อแค่การออกกำลังกายในเวลาว่าง … แต่จะทำยังไงหละในเมื่อลูกสาวของเขาเริ่มฉายแววโดดเด่นเกินตัว และ วงการเทนนิสสหรัฐฯก็เริ่มกลายเป็นความฝันครั้งสำคัญสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะในความคิดของเด็กน้อยวัย 5 ขวบ

 

“พ่อของฉันคืออัจฉริยะตัวจริง เขาไม่มีประสบการณ์ในการแข่งขันด้วยซ้ำ แต่ที่ผ่านมาเขาพัฒนาและฝึกซ้อมฉันโดยอาศัยการสังเกต การจดจำ สิ่งต่างๆรอบตัว ทั้งเทคนิคการเล่นจากนักกีฬาคนอื่น หรือ แม้แต่วิธีการกระตุ้นและให้กำลังใจ” แชมป์ออสเตรเลี่ยนโอเพ่นคนล่าสุดกล่าว

 

“เขาจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแมตช์การแข่งขัน การเล่น การแก้ปัญหา ดูวิธีการวางแผน การกำหนดกลยุทธ์แล้วพ่อมักจะนำสิ่งดีๆมาสู่ฉัน และทุกครั้งมันจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเสมอ”

 

 

พื้นคอนกรีตบนท้อนถนน จุดเริ่มต้นแห่งการแชร์ความฝันระหว่าง พ่อ - ลูก เคนิน

 

ย้อนกลับในวัยเด็ก โซเฟีย ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่เห็นคุณพ่อของเธอใช้เวลาหวดลูกสักกะหลาดเมื่อมีเวลาว่างซึ่งแน่นอนมันก็คงไม่บ่อยนัก แต่ก็ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับครอบครัวซึ่งอยู่ในช่วงสร้างตัวได้เสมอ

 

“เรามีถนนหน้าบ้านที่กว้างพอสำหรับการเล่นเทนนิส ผมจะเลือกจะพื้นที่บริเวณนี้ และท้ายที่สุดผมหยิบแร็คเก็ตเดินไปบอกลูกสาว แล้วชวนกันออกมาเล่นเทนนิสตามประสาพ่อ-ลูก … แค่ต้องคอยภาวนาอย่าให้รถผ่านบ่อยนัก”

 

ทันทีที่เล่นด้วยกันได้ไม่นาน อเล็กซ์ ค้นพบว่าลูกสาววัย 5 ขวบของเขา มีพรสวรรค์และสามารถเรียนรู้พื้นฐานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาพาเธอเข้าสู่โปรแกรมการฝึกซ้อมอย่างจริงจังกับ ริค มัชชี่ ที่ United States Professional Tennis Association (USPTA) สถานที่บ่มเพาะฝีมือเยาวชนรุ่นจิ๋วของอเมริกา

 

 

 

สัตว์ปะหลาดน้อยที่น่ากลัวที่สุดในวงการเทนนิสรุ่นจิ๋ว 

 

 

โซเฟีย ใช้เวลาไม่นานในการพัฒนาตัวเองและเข้าร่วมการแข่งขัน United States Tennis Association (USTA) tournaments ซึ่งเธอคว้าอันดับ 1 ในรุ่น G-10 พัฒนาการที่ก้าวกระโดด ทำให้เธอได้รับการยกย่องอย่างน่ารักว่าสัตว์ปะหลาดน้อยที่น่ากลัวที่สุด

 

มัชชี่ กล่าวว่า “ผมเคยมีประสบการณ์สอนนักเทนนิสมากมายในรุ่นนั้น ทั้ง 2 พี่น้องวิลเลี่ยมส์, แอนนา คูนิโคว่า, เจนนิเฟอร์ คาเพรียติ และ แอนดี้ ร็อดดิก แต่ในช่วงอายุ 7 ขวบ ผมไม่เคยเห็นใครเฉิดฉายและมีแววเท่านี้มาก่อน”

 

นอกจากนั้นด้วยความแกร่งเกินตัวทำให้หนูน้อยโซเฟีย มีโอกาสดวลแร็คเก็ตกับทั้ง คิม ไคลจ์สเตอร์, จอห์น แม็คเอนโร รวมถึง จิม คูเรียร์ มาแล้ว 

 

 

ครอบครัวคือความแข็งแกร่งของฉัน … ในวันที่ถูกคนอื่นมองข้าม 

 

ความฝันในวัยเด็กของ โซเฟีย มักถูกมองข้ามหรือไม่ก็ถูกมองเป็นเรื่องตลกจากคนรอบข้าง “ทุกคนมองข้ามฉันพวกเขามักถามว่าฉันกำลังคิดหรือตั้งใจทำอะไรอยู่ เพราะตอนเด็กๆ ฉันตัวเล็กมาก แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อหรอกว่าฉันจะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จได้”

 

อย่างไรก็ตามด้วยการขับเคลื่อนของอดีตโชเฟอร์แท็กซี่ เมื่อถึงปี 2014 ชื่อของโซเฟีย เข้าไปอยู่ในลิสต์นักกีฬาทีมชาติสหรัฐชุดเยาวชน ในการแข่งขันโอลิมปิกเยาวชน เป็นครั้งแรก และ 1 ปีต่อมา เธอสามารถนำพาตัวเองเข้าร่วมแข่งขันแกรนด์สแลมแรกในชีวิต คือ ยูเอส โอเพ่น 2015 

 

“ความลำบากที่พ่อและแม่ฉันต้องเจอมา คือตัวอย่างของความเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ฉันไม่มีอะไรจะบอกพวกท่านนอกจากคำว่าขอบคุณ และอยากจะแชร์ทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นให้เป็นความสุขของทั้งครอบครัว”

 

เดือนมีนาคม 2018 … โซเฟีย เคนิน เข้ามามีชื่อติดอยู่ในมือวาง 100 อันดับแรกของ WTA tour ได้สำเร็จ และล่าสุดกับการคว้าแกรนด์สแลมแรกในชีวิต ที่ผลักให้เธอกระโดดมาสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 7 ของโลก 

 

เธอกล่าวว่า “ในวันที่ไม่มีใครมองเห็นฉัน ท้ายที่สุดพ่อก็ยังคงสนับสนุน เชื่อมั่น และ ผลักดันให้ฉันมีแรงสู้เสมอ ส่วนแม่ของฉันมักจะตื่นตระหนก และ ไม่ยอมดูการแข่งขันของฉัน เพราะเธอเชื่อในเรื่องของโชคลาง แต่อย่างไรก็ตามเธอจะให้ฉันโทรหาเพื่อแจ้งผลชนะ ซึ่งเธอก็มักจะบอกทุกครั้งว่าเธอคิดผลการแข่งขันนั้นเอาไว้ในหัวอยู่แล้ว

 

จากการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการแรกในชีวิต ส่งผลให้ โซเฟีย เคนิน จะกลายเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตา แม้ว่าใครต่อใครอาจปรามาสว่าเธอโชคดี หรือ มีดวง แต่หากคุณได้ติดตามเรื่องราวของเธอหรือผลงานเก่าๆที่เธอสร้างเอาไว้สมัยเป็นเยาวชน จะบอกได้เลยว่า ความสำเร็จของ เคนิน พึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น


stadium

author

นวพล เกียรติไพศาล

ชอบกินข้าวมันไก่แต่กลัวอ้วน รักแมวแต่โดยข่วนประจำ ชอบกีฬาแต่ไม่ตามผลการแข่ง

La Vie en Rose