7 กันยายน 2563
"การคัดตัวให้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในบางท่ายากกว่าการว่ายน้ำให้ได้เหรียญโอลิมปิกเสียอีก" นั่นเป็นสาเหตุที่โอลิมปิกเกือบทุกครั้ง ทีมว่ายน้ำทีมชาติสหรัฐอเมริกามักจะครองความยิ่งใหญ่ได้อยู่เสมอ เพราะพวกเขามีตัวเลือกนักว่ายน้ำที่มีศักยภาพสูงเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ประเทศอื่นการจะหานักว่ายน้ำผ่านเกณฑ์โอลิมปิกสักคนนั้นเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ในทางตรงกันข้ามทีมว่ายน้ำสหรัฐอเมริกากลับมีตัวเลือกเหลือเฟือจนต้องเปิดให้มีการคัดตัว ซึ่งเป็นอย่างนี้มาจนครบรอบ 100 ปีไปแล้ว และจำนวนนักกีฬา รวมทั้งความนิยมก็เพิ่มขึ้นทุกปี จนทำให้ศึกคัดตัวนักว่ายน้ำโอลิมปิกของสหรัฐอเมริกานั้น เป็นมากกว่าการคัดตัวนักว่ายน้ำธรรมดา ๆ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็นการแข่งขันกีฬาสมัครเล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน
U.S. Swimming Olympic Trials เริ่มมีการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920 ทำให้เพิ่งมีอายุครบ 100 ปีไปเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งรายการแข่งขันว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของโลกรายการหนึ่ง โดยทุกปี จะมีการวนเวียนเปลี่ยนสนาม และเจ้าภาพไปตามเมือง และรัฐต่าง ๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ทั้งประเทศได้สัมผัสกับนักว่ายน้ำระดับชั้นนำ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ แถมเป็นการโปรโมท และเพิ่มความนิยมในกีฬาว่ายน้ำไปในตัวอีกด้วย จนถึง 3 ครั้งล่าสุดในปี 2008, 2012 และ 2016 รวมถึงล่าสุดในปี 2021 การแข่งขันมาลงตัวที่เมือง โอมาฮา ในรัฐ เนบราสกา ซึ่งถึงแม้จะเป็นแค่สังเวียนชั่วคราว แต่เมื่อสระชั่วคราวที่ใช้ในแข่งขันถูกติดตั้งขึ้น ทั้งโลกก็ต้องตะลึงในความอลังการ
สังเวียนชิงสิทธิ์สุดอลังการ
หลังจากร่อนเร่ พเนจรไปทั่วประเทศ ในที่สุดศึกคัดตัวนักว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ก็ได้ลงหลักปักฐานถาวรเสียทีที่ Century Link Center Omaha สังเวียนแห่งนี้ตั้งอยู่ในแถบ midwest มีความหรูหราโอ่อ่าทันสมัย จัดกีฬาได้ทุกประเภท รวมถึงคอนเสิร์ต ศิลปินดัง ๆ ระดับโลกก็ล้วนเคยผ่านการแสดงที่นี่มาแล้วทั้งนั้น ตัวสนามสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 14,000 +++ คนต่อรอบ นี่เป็นจำนวนผู้ชมที่มากกว่าการแข่งขันโอลิมปิกบางปีเสียอีก ซึ่งตั๋วเข้าชมก็มักจะหมดเกลี้ยงทุกรอบอีกด้วยในช่วงหลัง และเนื่องจากสนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการแสดงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่อง แสง สี เสียง และpresentation การเปิดตัวนักกีฬาเพราะทีมงานจัดออกมาได้แบบน่าตื่นตาตื่นใจมาก ๆ อีกทั้งยังมีจอ Projector ยักษ์ 8 เหลี่ยมเห็นได้รอบทิศทางจากทั่วทั่งสนาม มีโชว์ไฟพุ่งจากพื้น เหมือนไปดูการแข่งขันว่ายน้ำพร้อมดูโชว์ดี ๆ ไปด้วย
คุณภาพของการแข่งขัน
มีนักกีฬาผ่านเกณฑ์เข้ามาแข่งขันรายการคัดตัวนี้ในปี 2016 ถึง 1,800 คน ทั้ง ๆ ที่เกณฑ์เวลาที่จะได้เข้ามาแข่งขันนั้นไม่ได้ง่าย ๆ เลย เกณฑ์เวลาที่จะได้เข้ามาแข่งรายการนี้ใกล้เคียงกับสถิติประเทศไทยรุ่นทั่วไปเลย บางท่าเวลายากกว่าสถิติประเทศไทยเสียอีก แต่ประเทศสหรัฐอเมริกากลับมีนักว่ายน้ำทำเวลาผ่านเกณฑ์ถึง 1,800 คน ซึ่งตรงนี้บ่งบอกถึงคุณภาพของการแข่งขัน และคุณภาพของนักว่ายน้ำในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี โดยการแข่งขันคัดตัวรอบแรกของปี 2021 เพื่อคัดตัวไป โตเกียวโอลิมปิกนั้น มี "น้องไท" ตรัย โคมส์ ฉลามหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ดีกรีแชมป์ประเทศไทยท่าฟรีสไตล์ 50 เมตร ปี 2019 เข้าร่วมด้วย หลังจากน้องทำเวลาผ่านเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทำสถิติไม่พอไปแข่งรอบ 2 หรือรอบสุดท้าย
Aqua Zone แรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ สู่ รุ่นน้อง
นอกจากการแข่งขันแล้ว ทาง U.S. Swimming ผู้จัดยังมีการจัดส่วน Aqua Zone ซึ่งมีพื้นที่ถึง 100,000 ตารางฟุต ให้ครอบครัวแฟนว่ายน้ำหรือเด็ก ๆ เยาวชนนักว่ายน้ำมาทำกิจกรรม อาทิเช่น เล่น Surf หรือปีนผา เป็นต้น นอกจากนั้นยังจะมีนักว่ายน้ำระดับ ซูเปอร์สตาร์ทั้งในอดีต และปัจจุบันไม่น้อยกว่า 50 คน มา meet and greet พบปะกับแฟน ๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เพื่อถ่ายรูป และแจกลายเซ็นสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งงานในส่วนนี้จะจัดขึ้น 10 วัน ในระหว่างการแข่งขัน ทั้งหมดนั้นฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเลย นอกจากจะได้ดูว่ายน้ำแล้วยังมีกิจกรรมอย่างอื่นด้วย ทำให้รายการคัดตัวนี้เป็นมากกว่าการแข่งขันว่ายน้ำธรรมดา
มูลค่า การแข่งขัน การถ่ายทอดสด
นอกจากนักกีฬาจำนวน 1,800 คนแล้ว ข้อมูลในปี 2016 ยังมีทีมโค้ชเข้าร่วมอีก 700 คน มีสื่อมาทำข่าวกว่า 300 สำนักข่าวจากทั่วโลก เฉพาะใน Aqua Zone มีผู้เข้าร่วมเกิน 100,000 คน มีอาสาสมัครมาทำงานเกิน 1,000 คน ขายตั๋วได้เกิน 200,000 ใบ เฉพาะค่าตั๋วก็เกือบแตะหลัก ครึ่งพันล้านบาท นอกจากนั้นยังมีค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด 8 วัน 16 ชั่วโมงผ่านทางช่อง NBC และช่อง NBCSN ซึ่งจากการเก็บสถิติพบว่ามีแฟน ๆ ชมการถ่ายทอดสดรวมกันถึงกว่า 36 ล้านคน ตลอดการแข่งขัน มากกว่านั้นรายการแข่งขันนี้ถึงจะจัดขึ้นเพียง 10 วัน แต่มันก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับเมือง โอมาฮา ถึง 74 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา จากแฟน ๆ ที่เข้ามาจับจ่าย และจองที่พักระหว่างการแข่งขัน
มากกว่าแค่คัดตัว
จากทั้งหมดที่กล่าวมา มันแสดงให้เห็นแล้วว่า U.S. Swimming Olympic Trials เป็นมากกว่าการแข่งขันว่ายน้ำ และการคัดตัวธรรมดา มันมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ มันเป็นการร่วมแรงร่วมใจ มีการสร้างแรงบันดาลใจ มันเป็นวันที่นักว่ายน้ำทุกคนจะมาตามความฝันของตัวเอง และของทั้งครอบครัว เมื่อปี 2016 ตอนที่ เคธี่ เลเด็คกี้ ตำนานเงือกสาวของโลกมาคัดตัวมีญาติ ๆ ของเธอตามมาเชียร์ถึงกว่า 50 ชีวิต มันคงไม่ได้มีการรวมญาติแบบนี้บ่อย ๆ แน่ ถ้าไม่ใช่มาเพื่อเชียร์คนในครอบครัวตามความฝันในรายการที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่การคัดตัว แต่เป็นการมาร่วมแรงร่วมใจของครอบครัววงการว่ายน้ำสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนสมาชิก ร่วมครึ่งล้านชีวิต เพื่อเปิดตัว เหล่าตัวแทนนักว่ายน้ำโอลิมปิกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ไปล่าความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งพวกเขาก็มักทำมันได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง เพราะเบื้องหลังของพวกเขาก่อนจะไปถึงโอลิมปิก มันมีเส้นทางที่ต้องผ่านการคัดกรองเป็นอย่างดี ถ้าหลุดรอดไปได้รับรองคุณภาพล้วน ๆ และเวทีโอลิมปิกถึงจะยิ่งใหญ่แค่ไหน เหล่าเงือกสาว ฉลามหนุ่มมะกัน ก็ไม่มีขาสั่น เพราะพวกเขาผ่านเวทีใหญ่ในประเทศมาแล้วนั่นเอง