stadium

"เล่นเพื่อทีม" ปรัชญาลูกหนังเอคโคโน่ที่ "ผลลัพธ์" สำคัญกว่า "ความโดดเด่น"

3 เมษายน 2563

#EKKONOTheSeries

"เล่นเพื่อทีม" ปรัชญาลูกหนังเอคโคโน่ที่ "ผลลัพธ์" สำคัญกว่า "ความโดดเด่น"

 

นับตั้งแต่ที่ผมได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับทีมงานเอคโคโน่ๆ หลายๆ ท่าน โดยเฉพาะกับ ซัลบาดอร์ บาเรโล่ การ์เซีย แน่นอน ผมกล้ายืนยันได้เลยว่า น้องครั้งมากๆ ที่เราจะพูดถึง หรือระบุฟอร์มการเล่นของนักเตะดาวรุ่งคนใดคนหนึ่ง เนื่องจากปรัชญาของ เอคโคโน่ นั้นมีความชัดเจนมากๆ ว่าพวกเขาโฟกัสที่ระบบ ผลลัพธ์ของทีม และการพัฒนาของนักเตะทุกๆ คนในทีม มากกว่าความโดดเด่นของใครคนใดคนหนึ่ง

 

ใช่ครับ สั้นๆ ง่ายๆ ทุกคนต้อง “เล่นเพื่อทีม”

 

เพราะนั่นคือ “ความสำคัญอันดับหนึ่ง” ที่ทีมงานเอคโคโน่ทุกคนโฟกัส เพื่อเป้าหมายของทีม นี่คือทัศนคติที่เราไม่ได้เห็นมานานในวงการลูกหนังไทย เพราะอย่างที่เรารู้ และเห็นกันมาตลอด ธรรมชาติของนักเตะไทยส่วนใหญ่นั้นต้องการเล่นเพื่อโชว์ความเป็นตัวเอง โดยไม่ได้สนใจถึงผลลัพธ์หรือเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ

ต่อให้คุณจะโดดเด่นแค่ไหน หากแต่ถ้าทีมแพ้ อะไรๆ ก็ไม่มีความหมาย...

 

รูปแบบการเล่นของนักเตะดาวรุ่งที่ผ่านเบ้าหลอมยี่ห้อ เอคโคโน่ จึงแตกต่างออกไป นักเตะเหล่านี้ถูกหยั่งรากลึกไปด้วยปรัชญาฟุตบอลที่ “เรียบง่าย แต่ทรงพลัง” เราได้เห็นการออกบอลที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่หากมีจังหวะที่ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวเพื่อแก้ปัญหา พวกเขาก็พร้อมที่จะงัดมันออกมาเพื่อทีม การยืนคุมพื้นที่ที่ยืดหยุ่นทั้งเกมรุก และรับ ปรับได้ตามสถานการณ์ในสนามตามหลักการณ์ของ ไทยแลนด์ เวย์

 

นอกจากนี้คำว่า “เล่นเพื่อทีม” ยังสะท้อนถึงหัวใจที่ต้อง “แข็งแกร่ง” ดั่งภูผาหินสูงชัน และพร้อมจะงัดเอาทุกศักยภาพที่มีมาช่วยทีมพลิกสถานการณ์จากช่วงเวลาที่ตกเป็นรองเพื่อแสดงคาแรกเตอร์ความเป็นผู้ชนะให้ทุกคนได้เห็น หัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้ รวมถึงความไม่ประมาท และให้เกียรติคู่แข่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าเราจะดูเหนือกว่า หรือเป็นรองก็ตาม

 

เมื่อทุกคนในทีมมีความสำคัญเท่ากันหมด ทัศนคติ และแทคติกที่ เอคโคโน่ ปลูกฝังจึงบังเกิดผลบนผืนฟลอร์หญ้า เพราะอย่างที่เราได้เห็นกันว่าบางครั้ง ซัลบาดอร์ กล้าที่ตัดสินใจปรับนักเตะกว่าค่อนทีมในเกมต่อไป เพราะเขามีความเชื่อมั่นว่า นักเตะทุกคนในทีมสามารถทดแทนกันได้อย่างไร้รอยต่อ…

ฟุตบอลของ เอคโคโน่ จึงเปี่ยมไปด้วย “ความเป็นทีม”

 

เราอาจจะเห็น อาร์เจนติน่า มีฮีโร่อย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า จนพาทีมคว้าแชมป์โลก แต่หากมองในแง่ความยั่งยืน คุณจะเห็นได้ว่า การฝากชีวิตไว้ที่ฮีโร่เพียงคนเดียว ไม่อาจรังสรรค์ความสำคัญที่ยั่งยืน และต่อเนื่องได้

 

จากปี 1986 จนถึงปัจจุบัน คือช่วงเวลาที่ อาร์เจนติน่า ยังไม่สามารถติดดาวแชมป์โลกดวงที่สามให้กับตนเองได้สักที...

 

"ที่สำคัญ ผมดีใจที่นักเตะทั้ง 23 คนสามารถทดแทนกันได้ตลอด อย่างที่รู้รายการนี้เล่นวันเว้นวัน ฉะนั้นทุกคนควรจะทดแทนกันได้ และเข้าใจแทคติกที่วางไว้"

เมื่อครั้งที่ ซัลบาดอร์ รับหน้าที่กุนซือทัพ “ช้างศึก U15” สิ่งที่เจ้าตัวได้เคยพูดกับผมในวันนั้นก็คือ ทีมชาติไทย ต้องปรับโฟกัส และสนใจกับคำว่า “การเล่นเป็นทีม” อย่างจริงจัง เพราะนี่คือรูปแบบการเล่นของฟุตบอลสมัยใหม่

 

“ผมวางไว้ตั้งแต่แรกคือการเล่นเป็นทีม และยืดหยุ่น ทุกๆ คนควรจะเล่นเกมรุก และรับได้ตามแบบฉบับฟุตบอลสมัยใหม่ เหนือสิ่งอื่นใดคือเราเล่นเป็นทีม เราเล่นเพื่อทีม ถ้าจะต้องมีซูเปอร์สตาร์ ทุกคนก็จะต้องเป็นเหมือนกันหมด ไม่มีใครเป็นมากกว่าใคร เวลาเราชนะ เราชนะทั้งทีม ถ้าเราจะแพ้ เราก็ต้องแพ้ทั้งทีม คำว่าทีมคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และผมมั่นใจว่านักเตะเยาวชนของไทยเหล่านี้กำลังเดินมาถูกทาง” ซัลบา กล่าว

 

เกือบๆ สามปีที่ เอคโคโน่ ได้เข้ามาพัฒนาการสร้างนักเตะตั้งแต่ระดับเยาวชน แน่นอนว่าย่อมมีทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หรือแม้แต่คำชม ซึ่งนั่นคือเรื่องธรรมดาของชีวิต หากแต่สิ่งที่ เอคโคโน่ และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทุ่มเทลงทั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อยกระดับฟุตบอลไทยให้มีวัตถุดิบชั้นเลิศไว้ป้อนทีมชาติชุดใหญ่นั้นเริ่มจะค่อยๆ ผลิดอกออกผล เพราะว่าลืมว่า โครงการต่างๆ ของทีมงานเอคโคโน่นั้นครอบคลุมการสร้างวัตถุดิบชั้นเลิศอยู่ทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง ถ่ายทอด และขยายองค์ความรู้ฟุตบอลแบบเอคโคโน่ให้กับโค้ชทั่วประเทศ การเฟ้นหา และใส่เทคนิคต่างๆ ให้กับนักเตะมากมาย นั่นคือสิ่งที่เราจะมาดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้ว ผลผลิตเหล่านี้จะก้าวไปข้างหน้า และพาทีมชาติไทยไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้


stadium

author

เก้น นิติพงษ์ ยวนตระกูล

ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล - ฟุตซอล ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนัง

La Vie en Rose