stadium

ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร ราชินีกบแห่งอาเซียน

3 เมษายน 2563

เชื่อว่าคนไทยคงรู้จัก “อาย” ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร เป็นอย่างดี ในฐานะพิธีกร หรือนักข่าวมากฝีมือของช่อง 7 แต่อีกหนึ่งบทบาทที่เธอทำได้ดีมาก ๆ เลยก็คือการเป็นนักว่ายน้ำทีมชาติไทย มีดีกรีเป็นเจ้าของเหรียญทองซีเกมส์หลายสมัย วันนี้เราพามารู้จัก อาย ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร ในอีกแง่มุมหนึ่งว่า ทำไมเธอถึงเป็นนักว่ายน้ำที่โด่งดังเหลือเกินในยุคนั้น

 

แรงบันดาลใจ

ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร เริ่มหัดว่ายน้ำในวัย 5 ขวบ ที่โรงเรียนเขมะศิริอนุสสรณ์ ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเงือกสาวป้อนทีมชาติไทยในยุคนั้น เธอใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นไปเป็นนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติไทยในวัย 11 ปี และสามารถคว้า 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จากศึกอาเซียน เอจ กรุ๊ปได้ทันทีจากท่ากบ 100 เมตร และ200 เมตร ท่าเก่งประจำตัว แรงบันดาลใจสำคัญเกิดขึ้นในซีเกมส์ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ที่เธอได้เห็น เอ๋ นันทนา ขาวปลื้ม ขวัญใจและรุ่นพี่ร่วมโรงเรียน คว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ท่ากบต่อหน้าต่อตา ที่สระว่ายน้ำ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย นั้นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้เธอตัดสินใจมุ่งมั่นไปสู่เส้นทางทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว

 

 

สาวน้อยวัย 14 ปี กับภารกิจรักษาเหรียญทองให้วงการว่ายน้ำไทย

จากผู้ชมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เด็กหญิง ศรสววรรค์ ภู่วิจิตร ในวัย 14 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในท่ากบทั้ง 2 ระยะแทนที่ นันทนา ขาวปลื้ม รุ่นพี่แชมป์เก่าซีเกมส์ที่เพิ่งอำลาสระไป ในสภาวะที่วงการว่ายน้ำไทยหมิ่นเหม่เหลือเกินกับการพลาดทุกเหรียญทองว่ายน้ำในซีเกมส์ครั้งนั้น และก็เป็นเด็กวัย 14 ปีอย่างเธอ ที่ไม่ได้เป็นตัวความหวังอะไรเลยก่อนการแข่งขัน ที่สามารถล้มนักกีฬาตัวเต็งตระกูล “นาซูเตียน” ของเจ้าภาพอินโดนีเซีย คว้าคนเดียว 2 เหรียญทองจากท่ากบ 100 เมตร และ200 เมตร และนั้นก็เป็นเพียง 2 เหรียญทองของทัพนักว่ายน้ำไทยในซีเกมส์หนนั้น ถึงตอนนี้จากสาวน้อยธรรมดา กลับกลายเป็นฮีโร่ของประเทศ และเป็นราชินีกบแห่งอาเซียนไปทันที

 

 

แชมป์กบซีเกมส์ 3 สมัยซ้อน

ซีเกมส์ 2 ปีถัดมาที่มาเลเซีย อาย ศรสวรรค์ ภู่วิจิตรในวัย 16 ปี ยังคงร้อนแรงป้องกันแชมป์เหรียญทองท่ากบ 100 เมตร และ200 เมตรเอาไว้ได้เป็นสมัยที่ 2 และเช่นเคย 2 เหรียญทองของเธอก็เป็นเพียงแค่ 2 เหรียญทองที่ทัพนักว่ายน้ำไทยทำได้ในซีเกมส์หนนั้น แน่นอนว่าในชั่วโมงนั้นไม่มีนักว่ายน้ำคนไหนในประเทศไทยที่จะฮอตไปกว่าเธออีกแล้ว เรียกได้ว่าเธอเป็นคนที่ทำให้วงการว่ายน้ำไทยในยุคนั้นยังคงคึกคักต่อเนื่อง ในซีเกมส์ครั้งต่อมาในปี 1991 คราวนี้ทัพนักว่ายน้ำไทยไม่เหมือนเก่า อาย ศรสวรรค์ในวัย 18 ปีมาพร้อมกับเพื่อนสาวอย่าง รติพร วอง และธันยา ศรีดามา รวมถึงเป็นการเปิดตัวเหล่าดาวรุ่งฟ้าประทานอย่าง รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ และประพาฬสาย มินประพาฬ ซึ่งอาย ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ว่ายน้ำผิดหวังป้องกันแชมป์กบ 100 และ200 เมตรได้สำเร็จ แถมยังได้เหรียญทองผลัดผสม 4* 100 เมตรอีกด้วย จากเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งขึ้น รวมครั้งนั้นเธอได้ทั้งหมด 3 เหรียญทอง และป้องกันแชมป์กบ 100 เมตร และ200 เมตรซีเกมส์ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

 

 

ตัวแทนว่ายน้ำไทยแข่งโอลิมปิก ในรอบ 16 ปี

ในโอลิมปิก เกมส์ปี 1992 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศ สเปน ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร นำทีมสมาชิกซีเกมส์ คลอฟ ออฟ 1991 อย่าง รติพร วอง, ธันยา ศรีดามา, รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ และประพาฬสาย มินประพาฬ เป็น 5 ตัวแทนนักว่ายน้ำไทยที่ได้เข้าแข่งโอลิมปิก เกมส์ในรอบ 16 ปี หลังจากรัชนีวรรณ บูลกุล และศันสนีย์ จังคศิริ คือ นักว่ายน้ำ 2 คนสุดท้ายของประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก เกมส์ในปี 1976 ซึ่งศรสวรรค์ ภู่วิจิตร ว่ายทำเวลาเข้ามาในอันดับที่ 31 ในท่ากบ 100 เมตร และว่ายเข้าอันดับที่ 30 ในท่ากบ 200 เมตร  

 

 

ทิ้งทวนซีเกมส์ครั้งสุดท้าย 

ในศึกซีเกมส์ครั้งสุดท้ายในปี 1993 ซีเกมส์ที่ ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร ยอมรับว่าเหนื่อยที่สุดในชีวิต เพราะเป็นการป้องกันแชมป์สมัยที่ 4 ของเธอแล้ว บวกกับทีมชาติไทยที่ต้องเสีย โค้ชโจว ทง เหวิน โค้ชคู่ใจของเธอไปให้กับทีมชาติสิงคโปร์อีกด้วย แถมเงือกสาวดาวรุ่งวัย 14 ปีอย่าง โจวสลีน โยว ที่ตอนหลังกลายเป็นราชินีสระของอาเซียนคนใหม่ก็เริ่มพีคขึ้นมาพอดี ทำให้เธอทำได้ดีที่สุดเพียง 2 เหรียญเงินจากท่ากบ 100 และ200 เมตร ซึ่ง 2 เหรียญทองที่พลาดไปตกเป็นของ โจวสลีน โยว ทั้ง 2 เหรียญทอง ถึงจะพลาดเหรียญทองในครั้งสุดท้าย แต่สิ่งที่เธอทำไว้มันยิ่งใหญ่จนยากที่จะลืมเลือน โดยเฉพาะการรักษา 2 เหรียญทองให้ประเทศไทยในซีเกมส์ครั้งแรกของเธอ เพราะมันทำว่ายน้ำไทยยังคงทำสถิติได้เหรียญทองว่ายน้ำ ซีเกมส์อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้โดยไม่ขาดช่วง

 

 

บทบาทใหม่ด้านสื่อสารมวลชน

หลังจากจบเส้นทางชีวิตนักกีฬาทีมชาติ ศรสวรรค์ ภู่วิจิตร ผันตัวเข้าไปเป็น ผู้ประกาศข่าว และพิธีกร จากการแนะนำ และสนับสนุนของ ย. โย่ง เอกชัย นพจินดา ผู้สื่อข่าวกีฬาระดับตำนานของประเทศไทย ซึ่งเธอได้ใช้ประสบการณ์ในการเป็นนักกีฬาเก่า มาปรับใช้ในการทำงานสื่อกีฬาในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี  ซึ่งชีวิตผู้ประกาศข่าวกีฬา และพิธีกรของเธอก็ไปได้ดี ไม่แพ้สมัยที่เป็นนักกีฬาทีมชาติเลยแม้แต่น้อย


stadium

author

ฉลามหนุ่มไทยแลนด์

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose