18 สิงหาคม 2563
การกลับมาอีกครั้งของ NBA PLAYOFFS ในยุค ‘NEW NORMAL’ เต็มไปด้วยหลากหลายประเด็นดราม่าที่แฟนๆ ทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเล่นแบบไร้คนดูใน ‘BUBBLE’ ที่ลีกได้จัดไว้ให้ หรือ คู่รักคู่แค้นที่ต้องมาเผชิญหน้ากันตั้งแต่รอบแรก รับรองว่า PLAYOFFS ปีนี้เดือดกว่าฤดูกาลทั่วๆไปแน่นอน
แต่ก่อนที่เราจะไปลงรายละเอียดในประเด็นที่น่าสนใจของการแข่งปีนี้ เราไปทำความรู้จักกับ รูปแบบการแข่งของ NBA PLAYOFFS กันก่อนดีกว่าครับ
NBA PLAYOFFS คืออะไร ??
คำว่า PLAYOFFS คงไม่ค่อยได้ยินบ่อยถ้าคุณไม่ใช่แฟนกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะว่าเป็นรูปแบบการแข่งขันที่มีความพิเศษ จะเกิดขึ้นหลังจากที่จบการแข่งขันของแต่ละฤดูกาลไปแล้ว
NBA จะนำเอาทีมที่มีสถิติดีที่สุด 8 ทีมจากสาย WESTERN CONFERENCE (ตะวันตก) พร้อมกับ 8 ทีมที่มีสถิติดีที่สุดของสาย EASTERN CONFERENCE (สายตะวันออก) มาแข่งขันกันในระบบแพ้คัดออก
ทีมในแต่ละสายจะได้รับ SEED หรือ อันดับที่ถูกจัดวางให้โดยเอาสถิติ ชนะ-แพ้ เป็นตัวตั้ง ยิ่งทีมของคุณชนะเยอะ เมื่อจบฤดูกาลก็จะได้ SEED PLAYOFFS ที่ยิ่งสูง
โดยทีมที่มีสถิติที่ดีที่สุดในแต่ละสายหลังจบฤดูกาล ก็จะได้ SEED #1 และก็ไล่ลงไปเรื่อยๆจนถึง SEED #8
เมื่อการจัดวางตำแหน่งของ SEED ใน PLAYOFFS เสร็จสิ้นแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการจับคู่การแข่งขัน เราจะใช้ กราฟิกข้างล่างช่วยอธิบาย
ฝั่งซ้ายจะเป็นสำหรับ WESTERN CONFERENCE ส่วนด้านขวาเป็นของทีมใน EASTERN CONFERENCE
รอบแรก
ทีม SEED #1 ของแต่ละสายจะเจอกับทีม SEED #8
ทีม SEED #4 ของแต่ละสายจะเจอกับทีม SEED #5
ทีม SEED #2 ของแต่ละสายจะเจอกับทีม SEED #7
ทีม SEED #3 ของแต่ละสายจะเจอกับทีม SEED #6
รอบ CONFERENCE SEMI-FINALS
ผู้ชนะของ SEED #1 vs SEED #8 จะมาพบกับ ผู้ชนะของ SEED #4 vs SEED #5
ผู้ชนะของ SEED #2 vs SEED #7 จะมาพบกับ ผู้ชนะของ SEED #3 vs SEED #6
รอบ CONFERENCE FINALS
เอาผู้ชนะของแต่ละ CONFERENCE SEMI-FINALS มาแข่งกันในรอบรองชนะเลิศ CONFERENCE ผู้ชนะในรอบนี้จะเป็นแชมป์ CONFERENCE ทันที
รอบ NBA FINALS
เอาผู้ชนะของแต่ละ CONFERENCE มาแข่งกันในรอบชิงชนะเลิศ NBA ผู้ชนะในรอบนี้จะเป็นแชมป์ NBA ทันที
BEST OF SEVEN SERIES แปลว่าอะไร ??
ถ้าเป็นการแข่งขันฟุตบอลแบบ KNOCKOUT ก็อาจจะมีการเล่นในระบบเหย้า-เยือน เพื่อสร้างความแฟร์ในการให้ทีมที่ต้องออกไปเล่นนอกบ้านก่อนสามารถกลับมาแก้ตัวได้ รวมถึงเป็นการเพิ่มสีสันให้กับการแข่งขัน
ใน NBA ก็เหมือนกัน แต่ละทีมต้องเจอกันอย่างน้อย 4 เกม โดยคำว่า BEST OF SEVEN หมายความว่า ถ้าใครชนะ 4 ใน 7 เกมก่อน ไม่ว่าจะชนะ 4-0, 4-1, 4-2 หรือ 4-3 การที่ทีมใดทีมหนึ่งสามารถชนะได้ 4 เกมก่อน ถือว่าเป็นฝ่ายชนะทันที
HOME COURT ADVANTAGE หมายความว่าอะไร ??
การที่ทีมมีสถิติที่ดี นอกจากจะได้เล่นเป็น SEED ที่สูงกว่าเจอกับทีมที่ SEED ต่ำกว่าแล้ว ยังได้รับโอกาสเล่นในบ้านเยอะกว่าทีม SEED ต่ำกว่าในรอบ PLAYOFFS อีกด้วย
โดย 2 เกมแรกของ BEST OF SEVEN SERIES จะเล่นที่บ้านของทีม SEED สูงกว่า หลังจากนั้นจะโยกกลับไปเล่นที่บ้านของ SEED ที่ต่ำกว่า
ถ้า SERIES ยังไม่จบ และไม่มีทีมไดที่ชนะขาด 4-0 ก็จะกลับไปเล่นที่บ้านของ SEED ที่สูงกว่าอีกครั้ง
โดยถ้าหลังจาก 5 เกมยังไม่มีทีมที่ชนะด้วยสกอร์ 4-1 ก็จะกลับไปแข่งกันที่บ้านของทีม SEED ต่ำกว่าในเกมที่ 6
และถ้าถึงตอนนั้นยังไม่มีทีมที่ชนะด้วยสกอร์ 4-2 และยังเสมอกันอยู่ที่ 3-3 เกมสุดท้าย ซึ่งเป็นเกมที่ 7 จะต้องกลับไปดวลกันที่บ้านของทีม SEED สูงกว่า
ดังนั้นพอเอามารวมกันแล้ว ทีมที่ SEED สูงกว่าจะได้เล่นในบ้าน 4 เกม ส่วนทีมที่ SEED ต่ำกว่าจะได้เล่นในบ้านแค่ 3 เกมเท่านั้น
PLAY IN FORMAT ใหม่คืออะไร??
ถ้าพูดถึงเรื่องการเพิ่มอรรถรสในการแข่งขันของปีนี้ ก็ต้องยอมรับว่า NBA ได้เพิ่มเติมในเรื่องนี้จริงๆ เพราะว่ามีการสร้างเกม PLAY IN ที่จะนำเอา SEED #8 กับ SEED #9 ของแต่ละสายมาเจอกันเพื่อแย่งตำแหน่งอันดับสุดท้ายที่จะเข้าไปเล่นใน PLAYOFFS
แต่เกม PLAY IN จะเกิดขึ้นเมื่อสถิติของทีม# 8 กับ #9 ไม่ห่างกันเกิน 4 เกมเท่านั้น ถ้าทีมในอันดับ #9 ตามหลังทีม #8 เกิน 4 เกมก็ถือว่าหมดสิทธิที่จะแย่งอันดับสุดท้ายของรอบ PLAYOFFS ทันที
WESTERN CONFERENCE
-----
EASTERN CONFERENCE
อย่างที่ได้เห็นจากด้านรูปด้านบน WESTERN CONFERENCE จะมีเกม PLAY IN ในปีนี้ เพราะทีมใน SEED #9 ห่างจากทีมใน SEED #8 แค่ 0.5 เกม MEMPHIS GRIZZLIES เลยมีโอกาสที่จะเล่นใน PLAY IN เกมกับทีม PORTLAND TRAIL BLAZERS
ผลออกมาว่า PORTLAND สามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 126 - 122 ทำให้ทีมสามารถเข้าไปเล่นในรอบ PLAY OFFS ได้สำเร็จในฐานะทีม SEED #8 ของ WESTERN CONFERENCE
ส่วนใน EASTERN CONFERENCE ไม่จำเป็นที่จะมีเกม PLAY IN เพราะว่า ทีมใน SEED#9 อย่าง WASHINGTON WIZARDS ดามหลังทีม SEED #8 ORLANDO MAGIC มากว่า 4 เกม ถือว่าหมดสิทธิลุ้นที่จะเข้า PLAY OFFS ทันที
ประเด็นที่ทำให้ 2020 NBA PLAYOFFS น่าสนใจกว่าปีก่อนๆ
การเล่นแบบไร้คนดู !!
ต้องยอมรับว่าการกลับมาของ NBA ปีนี้ก็จะแปลกๆ หน่อยเพราะเป็นการเล่นที่ ESPN WIDE WORLD OF SPORTS COMPLEX ที่ ORLANDO, FLORIDA แบบไม่อนุญาตให้คนดูทั่วไป สามารถเข้าไปส่งเสียงเชียร์ทีมที่ตัวเองรักได้
นอกจากนี้จะมีการใช้สนามแข่งขันแค่ 3 ที่เท่านั้นคือ THE ARENA, HP FIELD HOUSE กับ VISA ATHLETIC CENTER
ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากว่า ปีนี้ไม่น่าจะมีใครได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบในเรื่องของการได้เล่นในบ้าน
Lakers เจองานหนักแน่ !!
ถึงแม้จะคว้าแชมป์ Western Conference ครั้งแรกในรอบ 10 ปี เส้นทางสู่แชมป์สมัยที่ 17 ของ Franchise ที่เก่งที่สุดตลอดกาลอย่าง LOS ANGELES LAKERS ต้องผ่านด่านทดสอบที่ยากตั้งแต่รอบที่ 1 ของ PLAYOFFS เลย
คู่ต่อสู้อย่าง PORTLAND TRAIL BLAZERS ชนะถึง 7 เกมตั้งแต่ลีกกลับมาลงแข่ง แถมยังมี DAMIAN LILLARD ที่ได้รับรางวัล MVP ประจำ BUBBLE อีกด้วยหลังเจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยการทำคะแนนที่ 37.6 ถือว่าเป็นการทำผลงานที่สุดยอดที่สุดเลย
CP3 กับ WESTBROOK กลับมาเจอกันอีกครั้งจะเป็นอย่างไร ??
หลังจากที่เกิดการ TRADE ที่ช็อกวงการ NBA ช่วง SUMMER ที่แล้ว กับการที่ CHRIS PAUL ถูก TRADE กับ RUSSELL WESTBROOK หลายคนก็คิดว่าดีลนี้จะส่งผลดีต่อทีม HOUSTON ROCKETS มากกว่าหลังจากคว้าอดีต MVP อย่าง WESTBROOK มาคอยเล่นตำแหน่ง GUARD คู่กับ JAMES HARDEN แต่ทีมกลับทำผลงานไม่ได้ดีมากถึงกับจะไปอยู่ใน 3 SEED แรก
ในทางกลับกัน การได้ตัว CHRIS PAUL ของ OKLAHOMA CITY THUNDER ถือว่าช่วยทำผลงานได้ดีมาก การมีประสบการณ์เล่นในลีกกว่า 15 ปีช่วยให้ทีมใหม่มีฟอร์มการเล่นที่ดีกว่าที่หลายคนคาดการเอาไว้
แฟนๆ ก็ต้องจับตามองคู่นี้อย่างไม่พลาดสายตา เพราะเป็นการเจอทีมเก่าของสตาร์ดังที่ทั้งโลกรู้จักดี
EASTERN CONFERENCE BUCKS เต็งแชมป์ ?
ต้องยอมรับว่าทีมยักษ์ใหญ่แห่งสายตะวันออกยังรักษามาตรฐานได้ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะคว้าแชมป์ EASTERN CONFERENCE แล้ว ทีมยังมี MVP ปีที่แล้วอย่าง GIANNIS ANTETOKOUNMPO ที่ฟอร์มโหดเหมือนเดิม ปีนี้นักบาสชาวกรีซ ทำแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ เฉลี่ยแล้วเกมละประมาณ 29.5 แต้ม
การได้แชมป์ Regular Season ทิ้งระยะห่างกับทีม TORONTO RAPTORS ได้เหมือนปีที่แล้ว ก็เป็นอีกสาเหตุที่ดูแล้วทุกคนยกให้ MILWAUKEE BUCKS เป็นตัวเต็งนั่นเอง
HEAT กับ PACERS จะมีมวยมั้ย ??
TJ Warren ของทีม INDIANA PACERS ฟอร์มร้อนแรงทีเดียวตั้งแต่กลับลงสนามมาเล่นที่ ORLANDO โดยเจ้าตัวทำแต้มเฉลี่ยเกมละ 34.8 แต้ม
การที่ทีม PACERS ดันถูกจับมาเจอกับ MIAMI HEAT ทำให้คู่ TJ ต้องมาดวลกับ Jimmy Butler ผู้นำแห่ง HEAT ที่เคยมีเรื่องกันช่วงก่อน COVID-19 ในเกมนั้น TJ กับ JIMMY ได้มีการด่าทอกัน พร้อมกับปะทะเดือดเอาศีรษะมาชนกันด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นในการกลับมาของ NBA ทั้งสองทีมได้แข่งกันสองครั้ง โดย HEAT ชนะเกมแรก และ PACERS คว้าชัยในเกมล่าสุด
ดังนั้นต้องคอยติดตามกันว่า NBA PLAYOFFS ทั้งสองทีมจะวางมวยกันหรือไม่
TAG ที่เกี่ยวข้อง