11 สิงหาคม 2563
หากพูดถึงสุดยอดนักกีฬาระดับโลก หลายคนมักจะนึกถึงการฝึกซ้อมที่หนัก หรือพรสวรรค์ที่หาซื้อไม่ได้ แต่อาจลืมคิดถึงปัจจัยหลักอย่างครอบครัว ที่คอยให้ความสนับสนุนอยู่ตั้งแต่วันที่ไม่มีใครรู้จักจนวันที่ทั้งโลกต้องจดจำ
เนื่องในวันแม่แห่งชาติ วันนี้เราจะนำเสนอ “5 สุดยอดนักกีฬา ที่มีแม่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ” จะมีซูเปอร์สตาร์จากกีฬาไหนบ้าง ไปดูกัน
Steph - Sonya Curry
การมีแม่ที่เป็นคนคอยช่วยฝึกฝนให้ลูกกลายเป็นนักบาสเกตบอลอันดับต้นๆของโลกพร้อมกับมีชื่อเสียงโด่งดัง ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมากแล้ว แต่ การ์ดของโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส อย่าง สเตฟ เคอร์รี่มีซูเปอร์มัมที่มีชื่อว่า ซอนย่า เคอร์รี่ โดยเธอเป็นแม่คนแรกที่สามารถช่วยปั้นให้ตัวเขาและน้องชายเขาอย่าง เซธ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์สองคนที่มาดวลกันอย่างดุเดือดใน 2019 NBA Western Conference Finals ให้โลกได้จดจำ
เมื่อมองไปที่ผลงานของลูกคนโตในครอบครัวเคอร์รี่แล้วก็จะพบว่า นอกจากสกิลการชู้ตสามแต้มที่เป็นเอกลักษณ์ของสเตฟ เขายังมีความว่องไวในวีธีการเคลื่อนตัวและวิ่งหาพื้นที่ได้ดีมาก ส่วนสำคัญของความเป็นนักบาสที่ครบเครื่องมาจากการที่แม่เขาช่วยสอนเทคนิคการวิ่งบนคอร์ท เขามักจะได้รับคำแนะนำวีธีการเล่นฟิตเนสให้ถูกต้องเพื่อที่จะเค้นศักยภาพของตัวเองให้อยู่ในระดับท็อปเสมอ
หลายคนเลยอาจเกิดคำถามในใจว่าตัวซอนย่ามีความรู้เรื่องกีฬาได้อย่างไร เหตุผลก็มาจากการที่เธอเองก็เคยเป็นนักกีฬาเหมือนกัน เธอลงเล่นวอลเลย์บอลในระดับมหาวิทยาลัย ดิวิชั่น 1 ของ สหรัฐอเมริกา ที่ เวอร์จิเนียเทค
สเตฟ เคอร์รี่ ก็เคยได้ออกมายอมรับว่าคำสอนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา เป็นคำสอนที่มาจากคุณแม่ซอนย่านั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ “เชฟ” เคอร์รี่ ฟอร์มดีทำลายสถิติของลีกเป็นว่าเล่นหรือช่วงที่เขาได้รับบาดเจ็บจนอดลงเล่นเป็นเวลานาน สเตฟก็จะมีแม่เป็นคนคุยด้วยและให้กำลังใจตลอด
หนึ่งในคำคมตลอดกาลที่เขาพูดเสมอคือ “SUCCESS IS NOT AN ACCIDENT, IT’S ACTUALLY A CHOICE” หรือแปลเป็นไทยว่า “ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากการที่เราเลือกให้มันเกิดขึ้น” มาจากปรัชญาการใช้ชีวิตของแม่เขาที่ไม่เคยยอมแพ้
การใด้ข้อคิดจากประสบการณ์ของคุณแม่ ซึ่งได้ผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งเรื่องการเล่นกีฬาและเรื่องวิธีการใช้ชีวิต เป็นแรงผลักดันให้ สเตฟ เคอร์รี่ ไม่หยุดขยันซ้อมและพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น
Yao Ming - Fang Fandi
ส่วนใหญ่แล้ววันที่ลูกเปิดตามาเห็นโลกจะเป็นวันที่แม่มีความสุขมากที่สุด แต่แม่ผู้ให้กำเนิดกับเด็กที่โตขึ้นจะกลายเป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีนกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ในทางกลับกัน เธอรู้สึกฝืนใจมากกว่าในวันคลอด
แม่ที่กำลังพูดถึงอยู่คือ ฟาง เฟนดี ที่มีดีกรีเป็นถึงกัปตันบาสเก็ตบอลทีมชาติจีนหญิงที่มีความสูงถึง 188 เซนติเมตรและเป็นผู้ให้กำเนิด เหยา หมิง นักบาสชายที่เก่งที่สุดในเอเซีย
ตั้งแต่ 3-4 ขวบ เหยา หมิง ได้เข้ารับการฝึกฝนในโรงเรียนกีฬาเพื่อทำเป้าหมายของการสร้างยอดนักกีฬาแห่งจีนให้สำเร็จ เขาไม่ได้มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตที่จะสุขสบายเหมือนเด็กทั่วไปเพราะเขาเกิดช่วง ยุคสมัยประธาน เหมา เจ๋อ ตุง ซึ่งจีนช่วงนั้นต้องการให้ประเทศสร้างเมล็ดพันธุ์นักกีฬารุ่นใหม่ที่มาจากนักกีฬาแท้ๆทั้งสองฝ่าย เลยทำให้แม่เขาถูกจับคลุมถุงชนกับพ่อเขาซึ่งก็เป็นนักกีฬาบาสทีมชาติเหมือนกัน
ถึงแม้ เหยา หมิง จะไม่ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่รักกันเหมือนครอบครัวทั่วไป แต่ความพยายามหมั่นเพียรขยันซ้อมตั้งแต่เด็กก็ได้ผล เขาได้รับการดราฟท์เป็นตัวเลือกอันดับแรกของ 2002 NBA DRAFT เพื่อไปเล่นให้ทีม ฮิวสตัน ร็อกเก็ตส์ นอกจากนั้น ความสำเร็จของเขาในการได้เป็นนักบาสใน NBA ยังเป็นเหตุผลที่ทำให้ครอบครัวเขาหันมารักกัน โดยแม่ของ เหยา หมิง หันมาภูมิใจและเชื่อในพรหมลิขิตที่ได้มาพบเจอกับพ่อของเขาอีกด้วย
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องการได้รับ DNA GENETICS นักกีฬาไปแบบเต็มๆ เหยา หมิง ถือว่าเป็นเคสที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก การมีทั้งพ่อกับแม่ที่เป็นนักบาสทีมชาติที่มีส่วนสูง 208 กับ 188 เซนติเมตร เป็นปัจจัยหลักในการช่วยทำให้เขามีความเป็นยอดมนุษย์ด้วยความสูง 229 เซนติเมตร ซึ่งเป็นอันดับห้าของส่วนสูงตลอดกาลของ NBA
นอกจากนั้นการที่ เหยา หมิง ไปเล่นใน NBA ก็นำทั้งความสำเร็จทางเรื่องกีฬาเละทางเรื่องการตลาดมาทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการที่คนเริ่มหันมาสนใจเรื่อง NBA มากขึ้น หรือ การสร้างพันธมิตรระหว่างทีม ร็อกเก็ตส์ กับ ประเทศจีน ก็ล้วนแล้วส่งผลดีให้กับทุกคน
Raheem - Nadine Sterling
นักกีฬาฟุตบอลส่วนใหญ่จะมีพ่อเป็นคนที่ทำให้หันมาสนใจและเอาดีในเกมลูกหนัง แต่มีไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่แม่เป็นเสาหลักในการช่วยผลักดันให้ลูกไปถึงฝันของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ หนึ่งในผู้หญิงคนนั้นก็คือ นาดีน สเตอร์ลิ่ง แม่ของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจรวดแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้
หากพูดถึงราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อเขาเป็นอย่างดี ปีกรายนี้เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งด้วยการถูกคัดเลือกเข้าไปเล่นในอะคาเดมี่ของสโมสรควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส จนสามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นนักเตะหลักของทีมได้ ก่อนจะโดนทีมยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูลดึงไปเล่นให้ และปัจจุบันกลายเป็นนักเตะแถวหน้าของโลกที่คว้าแชมป์มากมายกับทีมเรือใบสีฟ้า แต่รู้หรือไม่ถ้าแม่ของ ราฮีม ไม่ได้ทิ้งเขาเพื่อมาหางานทำที่อังกฤษ ทั้งหมดที่พูดมานี้จะเป็นไปไม่ได้เลย
นาดีน สเตอร์ลิ่ง เป็นอดีตนักวิ่งของทีมชาติจาเมกา ซึ่งต้องผันตัวมาเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากที่สามีของเธอถูกฆ่าตอนราฮีมอายุเพียงแค่สองขวบ เธอจึงต้องเป็นคนดูแลลูกทั้งสี่ในครอบครัว นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจย้ายไปหางานทำที่อังกฤษเพื่อส่งตังค์กลับไปให้ราฮีมและพี่น้องของเขาที่จาเมกา
เมื่อเวลาผ่านไปนาดีนก็หาเงินได้มากพอและสามารถพาลูกๆ ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษจนได้สัญชาติแบบถูกกฎหมายทุกคน
มาถึงทุกวันนี้ เมื่อนักข่าวมาสัมภาษณ์ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ว่าทำไมเขาถึงมีสกิลการวิ่งที่เร็วและเป็นเอกลักษณ์ เขาตอบว่า “มันมาจากแม่ของผม” และยังพูดต่อว่า แม่สมควรที่จะได้รับความยกย่องในการที่แกยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อมอบชีวิตที่ดีให้กับผมและลูกๆทุกคน การทำผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนามก็คือการตอบแทนบุญคุณของแม่
Serena - Oracene Williams
เมื่อพูดถึงวงการเทนนิสหญิงคงไม่พูดถึงชื่อสองพี่น้อง วีนัส กับ เซเรน่า วิลเลียมส์ ไม่ได้ ทั้งคู่กวาดแชมป์เป็นว่าเล่นรวมกันกว่า 100 รายการ แถมยังเคยประสบความสำเร็จในการเล่นในประเภทคู่ด้วยกันอีก แต่ตลอดเส้นทางการไต่ระดับมาเป็นนักเทนนิสหญิงที่หลายคนยอมรับว่าเก่งที่สุดตลอกกาล พี่น้องวิลเลียมส์มีคุณแม่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จมาโดยตลอด
การทุบสถิติคว้าจำนวนแชมป์แกรนด์แสลมมากที่สุดของน้องเล็กแห่งตระกูลวิลเลียมส์ในปี 2017 ถือว่ามาจากวินัยในการเล่นและการซ้อมรวมถึงการเล่นสไตล์ดุเดือดที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอ แต่ทั้งหมดนี้เซเรน่ายอมรับว่ามาจากผู้ที่เป็นทั้งโค้ชทั้งในและนอกสนามของเธอ คุณแม่ โอโรเชเน่ วิลเลียมส์ นั่นเองคือผู้ที่สอนคำคมกับเซเรน่าที่เธอจะไม่มีวันลืม “YOU HAVE TO BELIEVE IN SOMETHING, BEFORE YOU CAN DO IT” แปลเป็นไทยว่า “คุณต้องเชื่อว่าคุณจะทำได้ ก่อนที่คุณจะลงมือทำ”
นอกจากนั้น การเป็นครอบครัวคนผิวสีในสหรัฐอเมริกาปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องพบเจอกับเหตุการณ์เหยียดผิวและการดูถูกจากคนขาวอยู่เป็นประจำ โดยเห็นได้ชัดในการแข่งขันกีฬาเทนนิสซึ่งส่วนใหญ่จะมีแค่นักกีฬาผิวขาว แต่เซเรน่ามีแม่คอยอยู่เคียงข้างเธอในเวลาที่เธอท้อจากคำดูถูก
ไม่ว่าจะโดนโห่เยอะขนาดไหนในรายการที่เซเรน่าไปลงแข่งขัน การมีคุณแม่คอยเป็นโค้ชนั่งอยู่บนอัฒจันทร์เป็นแรงที่ทำให้เธอไร้ความกลัวและมุ่งหน้าพร้อมพุ่งชนคู่ต่อสู้ตลอดเวลา
อีกเรื่องที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คือการที่คุณแม่โอโรเชเน่รับฟังและคอยดูแลเรื่องสุขภาพจิตของลูกเธอตลอดเวลา เซเรน่ามักจะเป็นไมเกรนในช่วงทัวร์นาเมนต์จากความเครียดที่สะสมเมื่อลงแข่งเข้าไปในรอบลึกๆ แต่แม่ของเธอเป็นโค้ชทั้งในและนอกสนาม คอยให้คำแนะนำและเป็นคนรับฟังปัญหาของลูกทุกเรื่อง
เชื่อเหลือเกินว่าการทีแม่เป็นทั้งโค้ชทั้งในและนอกสนามเป็นองค์ประกอบหลักในความสำเร็จของหนึ่งในนักเทนนิสที่เก่งที่สุดตลอดกาลอย่าง เซเรน่า วิลเลียมส์
Puttita - Woraporn Supajirakul
แม่-ลูกคู่สุดท้ายที่รับรองว่าแฟนๆชาวไทยหลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็คือ คุณแม่หมวย วราภรณ์ สุภจิรกุล กับ เอิร์ธ พุธิตา สุภจิรกุล คุณแม่หมวยซึ่งเป็นอดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยที่ประสบความสำเร็จในนามทีมชาติกับการคว้าเหรียญทอง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 15 ปี 2532 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลซีย เป็นปัจจัยหลักในความสำเร็จในการเอาดีในสายกีฬาของน้องเอิร์ธ
เอิร์ธ พุธิตา สุภจิรกุลมีทั้งความสูงเกือบ 185 เซนติเมตร และยังเป็นตัวหลักของทีมแบดมินตันไทยในประเภทหญิงคู่อีกด้วย
การที่เธอมีคุณแม่เป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติและคุณพ่อที่เป็นโค้ชวอลเลย์บอลทีมชาติไทย เอิร์ธจึงได้คลุกคลีในวงการกีฬาไทยตั้งแต่วัยเด็ก พ่อแม่ได้ปลูกฝังความเป็นมืออาชีพในตัวเธอ เห็นได้ชัดจากผลงานที่น่าประทับใจมากในการลงเล่นแบดหญิงประเภทคู่
ในวัยแค่ 20 ปีเอิร์ธได้ไปแข่งโอลิมปิก 2016 ที่บราซิลคู่ กับ ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ถือว่าเป็นรายการใหญ่ที่สุดที่เธอได้ไปสร้างชื่อเสียง การมีคุณแม่หมวยซึ่งผ่านการเล่นในเวทีทีมชาติ มาพร้อมคอยให้กำลังใจเธออยู่เสมอ ก็ถือว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยให้เอิร์ธมีการเล่นที่ดูธรรมชาติและไม่ตื่นเต้นในสถานการณ์ที่กดดัน
ในวัยที่ยังสามารถพัฒนาฟอร์มได้อีกเยอะ เชื่อเหลือเกินว่าแฟนๆแบดมินตันไทยจะได้เชียร์นักตบสาวคนนี้ให้คว้าแชมป์ในรายการใหญ่ๆอีกมากมาย
TAG ที่เกี่ยวข้อง