30 กรกฎาคม 2563
สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2020 ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 16 สิงหาคมนี้ แฟนสอยคิวไทยน่าลุ้นน่าเชียร์เพราะปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่มีนักสนุกเกอร์ไทยผ่านเข้ารอบสุดท้ายในครูซิเบิล เธียร์เตอร์ มากถึง 2 คน ได้แก่ “เอฟ วัน” เทพไชยา อุ่นหนู มือ 20 ของโลก และ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ มือ 42 ของโลก ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีประสบการณ์กันมาแล้ว แต่ก็ไปได้ไกลที่สุดในรอบ 32 คนสุดท้ายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวเต็งก็น่าเอาใจช่วยให้พวกเขาทำผลงานเข้าถึงรอบในลึกที่สุด ส่วน 5 ตัวเต็งแชมป์ในปีนี้จะเป็นใครกันบ้าง ในสายตาของทีมงาน #StadiumTH ไปติดตามพร้อมกันเลย
จัดด์ ทรัมป์ แชมป์โลก 1 สมัย (2019)
เจ้าของฉายาเพชฌฆาตปืนกล วัย 30 ปี จากอังกฤษ แชมป์เก่า และมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ผู้ที่ตบ เอฟ นครนายก ตกรอบ เมื่อปีที่แล้ว ยังคงถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ในปีนี้ ฟอร์มในช่วงก่อนจะพักการแข่งขันจากโควิด-19 มีความคงเส้นคงวาและกำลังอยู่ในช่วงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต เพิ่งสร้างสถิติคว้าแชมป์เวิลด์แรงกิ้งได้ถึง 6 รายการ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติเดิมของ สตีเฟ่น เฮนดรี้ ตำนานนักสนุกเกอร์จากสกอตแลนด์ , ติง จุ้น ฮุย จากจีน และ มาร์ค เซลบี้ จากอังกฤษ ที่คว้าแชมป์เวิลด์แรงกิ้ง 5 รายการ ใน 1 ฤดูกาล มีคะแนนสะสมอันดับโลกทิ้งห่างอันดับ 2 ของโลกอย่าง นีล โรเบิร์ตสัน มากกว่า 700,000 คะแนน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าทำไมสื่อทุกสำนักถึงยกให้เขาเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์โลกในปีนี้
รอนนี่ โอซัลลิแวน แชมป์โลก 5 สมัย (2001 , 2004 , 2008 , 2012 , 2013)
ห่างหายจากตำแหน่งแชมป์โลกนานถึง 7 ปีเต็ม แต่ในแง่ของฝีมือว่ากันว่า รอนนี่ โอซัลลิแวน คือนักสนุกเกอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล ทั้งเร็วและแม่นยำ แม้ว่าปัจจุบันด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ในวัย 44 ปี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ไม่ดีเอาเสียเลย ฤดูกาลนี้คว้าแชมป์มาครองเพียงแค่รายการเดียวเท่านั้น คือ เซี่ยงไฮ้ มาสเตอรส ซึ่งก็ไม่ใช่รายการระดับเวิลด์แรงกิ้ง ส่วนรายการเวิลด์แรงกิ้งทำได้ดีที่สุดทำได้เพียงแค่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลศรายการ นอร์ทเธิร์น ไอร์แลนด์ โอเพ่น
อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายอาชีพของ เดอะ ร็อคเก็ต เจ้าตัวยืนยันว่ายังคงกระหายที่จะคว้าแชมป์อยู่ เพราะต้องการทำลายสถิติต่าง ๆ ลงให้ได้ อาทิ การคว้าแชมป์โลกมากที่สุด 7 สมัยของ สตีเฟ่น เฮนดรี้ และยังต้องการคว้าแชมป์รายการเวิลด์แรงกิ้งเพิ่มอีก 1 รายการเพื่อทำสถิติคว้าแชมป์มากที่สุดแต่เพียงผู้เดียว หลังจากที่สถิติตอนนี้ 36 แชมป์เท่ากับ สตีเฟ่น เฮนดรี้ นี่จึงเป็นเหตุที่ผลทำให้เราตัดชื่อของ รอนนี่ โอซัลลิแวน ออกจากการลุ้นแชมป์ไปไม่ได้
นีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลก 1 สมัย (2010)
นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกในปี 2010 เขาก็ไม่สามารถ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกเลย ทำได้ดีที่สุดคือการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเพียงครั้งเดียวในปี 2014 มิหน้ำซ้ำในรอบ 9 ปีหลัง ยังตกรอบแรกไปถึง 4 ครั้ง ขณะที่ฟอร์มในช่วงหลังแม้ว่าจะไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่ จนถึงขั้นพลดาตกรอบแรกอยู่หลายรายการ แต่เจ้าของฉายา จิงโจ้ มหาประลัย ยังสามารถเรียกฟอร์มเก่งมาได้ถูกเวลาเพราะนับตั้งแต่ปี 2020 เปิดฉากมา เขาคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงกิ้งไปแล้ว 2 รายการ จาก 3 รายการที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ทำให้อันดับโลกนั้นพุ่งกลับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของโลก ช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนรายการสำคัญอย่างชิงแชมป์โลกได้แบบทันท่วงที ดังนั้นถ้าหากนักสอยคิวจากออสเตรเลียรายนี้ ยังรักษาฟอร์มเหมือนเมื่อต้นปีได้ก็มีสิทธิ์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเช่นกัน
มาร์ค เซลบี้ แชมป์โลก 3 สมัย (2014 , 2016 , 2017)
นักสนุกเกอร์เขี้ยวลากดินที่สุดคนหนึ่งสำหรับนักสอยคิวจากเมืองเลสเตอร์ วัย 37 ปี ขึ้นชื่อในเรื่องของการดึงเกมช้า เน้นเกมป้องกันเป็นหลัก อาจดูน่าเบื่อในสายตาแฟนสนุ้กแต่ทรงประสิทธิภาพในเกมการแข่งขัน เป็นสไตล์การเล่นที่ทำให้เขาคว้าแชมป์โลก ได้ 3 สมัยภายในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาขึ้นไปครองมือ 1 ของโลกได้อย่างยาวนานถึง 4 ปีเช่นกัน
ปัจจุบันแม้ว่าจะหล่นไปอยู่มือ 7 ของโลก แต่ในช่วงหลังฟอร์มถือว่ากระเตื้องขึ้นมาพอสมควร คว้าแชมป์ อิงลิช โอเพ่น และ สกอตติช โอเพ่น นอกจากนั้นยังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการเวิลด์แรงกิ้งอีก 3 รายการ ถือว่าเป็นสนุกเกอร์อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองในครั้งนี้เช่นกัน
จอห์น ฮิกกินส์ แชมป์โลก 4 สมัย (1998 , 2007 , 2009 , 2011)
"พ่อมดวิสกี้" จอห์น ฮิกกินส์ มือ 5 ของโลกจากสกอตแลนด์ ช่างโชคร้ายจริง ๆ หลังจากอกหักแพ้ในรอบชิงชนะเลิศใน 3 ครั้งหลังสุด พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 เทียบเท่า รอนนี่ โอซัลลิแวน แม้ว่าทุกวันนี้ฟอร์มการออกคิวจะไม่โดดเด่นเหมือนนักสนุกเกอร์คนอื่น ๆ แต่ด้วยความสุขุมทำให้ จอห์น ฮิกกินส์ สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆได้เป็นประจำ และมักจะโชว์ฟอร์มได้ดีในรายการสำคัญ ๆ เสมอ
แม้ว่าในฤดูกาลนี้จะยังไม่มีแชมป์แต่ก็ผ่านเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้ถึง 7 รายการที่ลงแข่ง ซึ่ง 2 ใน 7 รายการนั่นมีทั้ง ยูเค แชมเปี้ยนชิพและ เดอะ มาสเตอร์ส รวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศอีก 2 รายการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ พ่อมดวิสกี้ ในวัย 45 ปี ยังคงอยู่อันดับ 5 ของโลก และเราขอยกให้เขาเป็นม้ามืดที่ไม่ควรมองข้ามในการแข่งขันครั้งนี้
TAG ที่เกี่ยวข้อง