stadium

สำรวจความคิด กันตภณ หวังเจริญ นักแบดชายคนแรกที่คว้าเหรียญชิงแชมป์โลก

11 มีนาคม 2563

เด็กหนุ่มตัวน้อยๆแต่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ “กัน” กันตภณ หวังเจริญ นักแบดมินตันประเภทชายเดี่ยว มือ 1 ของไทย ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาผลงานของ กัน โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเอาชนะ เฉิน หลง ยอดนักแบดมินตันจากจีน , ลี ชองเหว่ย ราชันย์ไร้มงกุฎ จากมาเลเซีย รวมไปถึงผลงานสร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จัก และมีโอกาสได้ไปโอลิมปิก 2020 เป็นครั้งแรก นั่นก็คือการคว้าเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2019 ซึ่งเป็นผลงานที่ “ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยที่ดีที่สุด ยังไม่เคยทำได้เลยด้วยซ้ำ

 

โดยนักแบดมินตันชายวัย 21 ปี คนนี้ เขาขยับเข้าใกล้การไปโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก แต่นั่นเป็นเพียงความฝันเพี้ยงเสี้ยวหนึ่ง เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ คือการยกระดับแบดมินตันไทย ให้อยู่ในระดับท้อปของโลกมากยิ่งขึ้น

 

 

จุดเริ่มต้น

กันตภณ สังกัดอยู่กับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นที่แสนธรรมดาไม่หวือหวา เริ่มเล่นแบดมินตันเพราะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง หมอจึงบอกให้เขาหากีฬาเล่นสักอย่าง ก่อนลงเอยที่แบดมินตัน

“กัน” ใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองเป็นนักกีฬาทีมชาติได้ ณ วินาทีนั้น เป็นความฝันอันสูงสุด ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เมื่อมาอยู่ในจุดแล้ว เขาก็ต้องเรียนรู้ที่ยืนระยะให้ได้เช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ

 

“ผมว่ามันเป็นความเป็นมืออาชีพมากกว่า คือตอนเด็ก ๆ เรายังไม่ค่อยดูแลตัวเอง มีออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนดึกๆบ้างอะไรบ้างครับ แต่พอโตมาเกมการแข่งขันมันเข้มข้นขึ้น เราก็ต้องกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น เราก็ต้องมีวินัยทั้งในสนามและนอกสนามไปด้วย แตกต่างจากตอนเป็นเยาวชน”

 

“ผมมองว่าปัญหาทุกอย่างมันเป็นเรื่องปกติครับ ถึงแม้จะเจอช่วงเวลาที่แย่ ผมก็พยายามที่จะคิดถึงความสุขเข้าไว้ เวลาทำอะไรแล้วมีความสุขก็จะทำ แล้วพยายามไม่ได้คิดถึงเรื่องลบๆมาก” กัน เริ่มต้นบทสนทนากับเราเป็นครั้งแรก

 

 

 

 

ปี 2019 ก้าวสำคัญในชีวิต

ตอลดการเล่นอาชีพ “กัน” ยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้แม้แต่รายการเดียว ใกล้เคียงที่สุดคือรองแชมป์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส ปี 2017 ความผิดหวังในวันนั้น ทำให้เขากลับไปคิดทบทวนถึงสิ่งที่ทำผิดพลาดในเกมการแข่งขัน และมุ่งมั่นตั้งแต่ใจซ้อมให้หนักขึ้น จนในที่สุดสิ่งที่ทำเขาเพียรพยายามมาตลอดก็เริ่มเห็นผลมากขึ้น เขาเริ่มชนะนักแบดมินตันมือท็อปของโลกได้แล้ว อาทิ เฉิน หลง แชมป์โอลิมปิก 2016 จากจีน , ลี ชองเหว่ย ตำนานนักแบดมินตันจากมาเลเซีย และโจว เทียนเฉิน มือ 2 ของโลกจากไต้หวัน

 

โดยเฉพาะในปี 2019 ถือเป็นปีที่ “กัน” ฟอร์มดีที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เขาคว้าเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลกได้เป็นคนแรกของนักแบดมินตันชายไทย รวมไปถึง 2 เหรียญทองแดงซีเกมส์ และยังพาทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองแดงสุธีรมานคัพ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงความสำเร็จก้าวแรก ที่เกิดจากความมุ่งมั่นและความพยายามของตัวเขาเอง

 

“ก็ดีใจมากครับ เพราะเหรียญรางวัลเกิดจากการทำงานหนักของเรา ก็รู้สึกมีความสุขมากกับเหรียญรางวัล ก็พยายามจะทำผลงานให้ดีต่อ ๆ ไป”

 

“คือผมทำงานหนักมากจริงๆ พยายามโฟกัสที่ซ้อมก่อนเป็นอันดับแรก คือเรารู้ว่าจุดบกพร่องคืออะไร กลับมาแก้ไข มันถูกจุดไหม เราก็ต้องไปลองที่สนามแข่งอีกทีครับ ถ้าเกิดมันยังไม่ถูก เราก็ต้องกลับมาแก้ไขกันอีก จนกว่ามันจะถูกต้อง แล้วถ้าเกิดว่ารู้สึกว่าเราไปถูกทางแล้ว ก็ต้องรีบคว้าโอกาสไว้ให้ได้ ผมว่าเราอย่าไปโฟกัสที่ผลงานมาก มันทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นของลดลงไปมากกว่า”

 

 

เป้าหมายต่อไปโอลิมปิกเกมส์ 2020

โอลิมปิกนั้นเป็นความฝันของนักกีฬาทุกประเภททุกชนิดอยู่แล้ว ซึ่งการที่ กันตภณ นั้นมาท็อปฟอร์มในปี 2019 นั้นถือว่าถูกที่ถูกเวลาเลยจริงๆ เพราะว่าเป็นปีของการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยเวลานี้ กัน มีอันดับโอลิมปิกที่อยู่ในข่ายจะได้ไปเข้าร่วมโตเกียวส์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในชีวิต และถ้าหากเขาทำได้ก็จะถือเป็นการยกระดับตัวเองอีกก้าวที่สำคัญ

 

“ตอนนี้ยังเก็บคะแนนอยู่ครับ พยายามเล่นทุกรายการให้มันเต็มที่สุด ให้มันดีที่สุด เพื่อทำให้ตัวเองมั่นใจ ผมเชื่อว่าถ้าเกิดเรามั่นใจ ผมก็สู้ทุกคนได้

 

“จริงๆก็ไม่ได้กดดันอะไรตัวเองมากนะครับ เพราะว่าผมพยายามมองว่าทุกวันคือเรื่องปกติมากกว่า เมื่อวานผมอาจจะได้เหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก วันนี้คนก็อาจจะลืมแล้วก็ได้ ผมก็พยายามเล่นให้มีความสุข ผมเชื่อว่า ถ้าเกิดทำอะไรแล้วมีความสุข ผลงานมันก็จะออกมาดีเองครับ”

 

 

ยกระดับแบดมินตันชายไทยไปสู่ระดับโลก

ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน แบดมินตันชายไทย ค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อเทียบกับทางฝั่งผู้หญิง ที่มีทั้ง “เมย์” รัชนก ที่อยู่ท็อป 5 ของโลกมาตลอด 10 ปี นอกจากนี้ยังมี บุศนันท์ อึ๊งบำรุงสุข , พรปวีร์ ช่อชูวงศ์ , ณิชาอร จินดาพล หญิงคู่มี “กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธารากุล – รวินกา ประจงใจ ส่วนคู่ผสม ก็มี “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่อยู่มือ 3 ของโลก 

 

แต่หากมองมาที่แบดมินตันชาย ท็อป 20 ของโลก มีเพียง กันตภณ เพียงคนเดียว ขณะที่ประเภทชายนั้นไม่ติด 1 ใน 40 ของโลกเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อสมัยที่ บุญศักดิ์ พลสนะ เป็นนักกีฬาที่เขายืนอยู่ในท็อปของโลกได้ตลอด

 

นั่นจึงเป็นทำให้ “กัน” ในฐานะนักแบดมินตันชายของยุคนี้ อย่ากเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพาวงการแบดมินตันชายไทยให้กลับไปอยู่ในแถวหน้าของโลกอีกครั้ง

 

“แน่นอนครับว่าอยากเป็นส่วนสำคัญในการพาแบดมินตันชายกลับไปยืนในระดับโลกอีกครั้ง ทุกวันนี้ก็พยายามเริ่มต้นจากการผลักดันตัวเอง ตั้งใจซ้อม ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อที่จะพาทุกคนกลับไปยืนในระดับโลกด้วยกันอีกครั้ง” เจ้าขอเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2019 กล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

 

ในวัย 21 “กัน” มีจุดเด่นคือความุ่งมั่น ความแข็งแรง ซึ่งเราเห็นได้จากรูปแบบการเล่นในสนามที่เขามักจะตามเก็บทุกลูก แต่สิ่งที่ “กัน” ยังขาดอยู่ทุกวันนี้ คือด้านเทคนิค ซึ่งทางด้านสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ มองเห็นในเรื่องนี้ จึงได้ดึง บุญศักดิ์ ตำนานนักแบดมินตัน เข้ามาช่วยสอนพิเศษให้กับ “กัน” โดยเน้นไปที่การเสริมเทคนิค ทั้งการเล่นลูกหน้าเน็ตรวมถึงวิธีการคิด ที่จะเลือกเล่นในแต่ละช็อต 

 

ซึ่งน่าสนใจว่า บุญศักดิ์ นั้นเป็นไอดอลของ “กัน” และเป็นนักกีฬาแบดมินตันชายเพียงคนเดียวที่มีประสบการณ์และได้รับการยอมรับในระดับโลกมาแล้ว ขึ้นอยู่กับ กัน แล้วว่าจะเรียนรู้ได้และเก็บเกี่ยวได้มากน้อยขนาดไหน

 

 


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

โฆษณา