stadium

ชัยชนะนอกสังเวียนของนายกเทศมนตรีกำปั้นเหล็ก

2 พฤษภาคม 2563

ชัยชนะนอกสังเวียนของนายกเทศมนตรีกำปั้นเหล็ก 

 

หากเอ่ยถึงชื่อ วิตาลี คลิทช์โก้ แฟนกีฬาคงนึกถึงยอดนักมวยรุ่นยักษ์ อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต และพี่ชายของ วลาดิเมียร์ ตำนานแห่งวงการมวยอีกราย แต่ปัจจุบัน คลิทช์โก้ ผู้พี่กำลังทำได้ดีกับการรับบทบาททางการเมือง นั่นคือการเป็นนายกเทศมนตรีของกรุงเคียฟ ในประเทศยูเครนบ้านเกิด

 

สิ่งที่เป็นเครื่องชี้วัดได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ มาตรการในการรับมือต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งจนถึงปัจจุบัน กรุงเคียฟ ที่มีประชากรกว่า 2.8 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตโดยมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับโควิด-19 เพียง 25 รายเท่านั้น

 

วิตาลี คลิทช์โก้ ทำอย่างไร ถึงจำกัดการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการเอาชนะน็อกคู่แข่งบนสังเวียน สิ่งนี้นับเป็นกรณีศึกษาที่จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน 

 

ออกมาตรการรับมืออย่างรวดเร็ว

ย้อนไปในเดือนมกราคม อดีตนักชกวัย 48 ปี ออกมาตรการรับมือทันทีทันควัน หลังได้ทราบข่าวการแพร่ระบาดจากอู๋ฮั่นเมืองแฝดของกรุงเคียฟ โดยได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยชีวิตและบังคับใช้มาตรการปิดเมืองตั้งแต่เนิ่น ๆ

 

 

นั่นคือช่วงเวลาสุดท้ายของวิตาลีที่ออกมาปรากฎตัวต่อสาธารณชน ซึ่งเจ้าของสถิติชกชนะ 45 ไฟต์ แพ้เพียง 2 ครั้งตลอดอาชีพ ก่อนแขวนนวมในปี 2012 เปิดเผยว่า "เคียฟตั้งทีมเฉพาะกิจอย่างเร่งด่วนในช่วงปลายเดือนมกราคม เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งขณะที่ยูเครนออกคำสั่งกักตัวในวันที่ 12 มีนาคม แต่ 2 วันก่อนหน้านั้น กรุงเคียฟก็ได้รับชุดตรวจที่สั่งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเริ่มในวันที่ 11 มีนาคม และเพิ่มความเข้มงวดในวันที่ 17 มีนาคม โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม มีโรงพยาบาล 7 แห่ง ที่ปรับให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการรับมือไวรัสโดยเฉพาะ และปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 14 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้ถึง 1,700 ราย นอกจากนั้นเรายังดำเนินการกักตุนชุดป้องกัน, ยารักษาโรค, เครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง ผมต้องการแน่ใจว่างบประมาณของเมืองสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ทั้งหมด รวมถึงการจัดซื้อสิ่งเหล่านี้"

 

เปิดรับความช่วยเหลือจากต่างแดน

จากการที่เป็นเมืองแฝดหรือเมืองพี่เมืองน้องกับอู๋ฮั่น ทำให้กรุงเคียฟได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย ซึ่ง วิตาลี เปิดเผยว่า "เราได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของที่นั่น และเขาก็ยินดีที่จะแบ่งปันความรู้รวมทั้งแนะนำวิธีปฏิบัติที่ช่วยให้อู๋ฮั่นจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส นอกจากนั้นพวกเขายังชี้แนะวิธีป้องกันรวมทั้งการรักษาความปลอดภัยสำหรับแพทย์และพยาบาลซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างสูงอีกด้วย โดยกรุงเคียฟใช้คำแนะนำของพวกเขาประกอบการตัดสินใจในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรน่า"

 

 

ไม่ใช่แค่การรับความช่วยเหลือจากอู๋ฮั่นเท่านั้น แต่นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟยอมรับว่า เขายังได้ถามความคิดเห็นไปยังประธานของสถาบันควบคุมและป้องกันโรคติดต่อในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เช่นกัน ซึ่งการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน ทำให้พวกเขามีเวลามากพอในการชะลอการแพร่ระบาด ส่งผลให้สถานการณ์คงที่และรอดพ้นจากหายนะอย่างที่ประเทศอิตาลีและสเปนต้องเผชิญ

 

ตระหนักถึงปัญหาอย่างจริงจัง

วิตาลีไม่หยุดที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ เขายังคงติดต่อกับนายกเทศมนตรีของเยอรมนี, ออสเตรีย, จีน และเมืองในสหรัฐฯ เพื่อเรียนรู้วิธีรับมือของแต่ละประเทศ รวมทั้งยังกระตุ้นให้กรุงเคียฟปรับปรุงกลยุทธ์รับมือไวรัสให้ดียิ่งขึ้น และตัดสินใจเรื่องอนาคตจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ เนื่องจากนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำแบบขอไปที

 

 

"ความรับผิดชอบของเรื่องนี้นั้นใหญ่โตมโหฬาร เรากำลังพูดถึงเรื่องสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนนับล้าน ในฐานะนายกเทศมนตรีแห่งเมืองหลวงของยูเครน ผมต้องเจอปัญหามากมายทุก ๆ วัน ตอนนี้กรุงเคียฟอยู่ภายใต้มาตรการกักตัวอย่างเข้มงวด ซึ่งหมายความว่าผมต้องเจอกับความกดดันและความท้าทายใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน พวกเราทำงานกัน 24 ชั่วโมง และตัวผมเรียกได้ว่าแทบจะใช้ชีวิตในสำนักงานเลยทีเดียว"

 

นำสปิริตนักสู้มาใช้กับการทำงาน

ในอาชีพนักมวย วิตาลี ไม่เคยหันหลังให้กับความท้าทาย ซึ่งเจ้าตัวนำสิ่งนั้นติดตัวมาด้วยในชีวิตหลังแขวนนวม 

 

"ความมุ่งมั่นในชัยชนะ ความเพียรพยายามในการเผชิญกับความยากลำบาก และความตั้งใจที่จะสู้ยิบตา คือสิ่งที่สำคัญกับงานบริการสังคมพอ ๆ กับการเป็นนักกีฬา ผมไม่เคยลังเลที่จะขอคำแนะนำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดต่อสถานการณ์นี้ เบื้องหลังการตัดสินใจอันยากลำบากคือความเสียหายของทุกฝ่าย ความตั้งใจแรกของผมคือนำพาเคียฟผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากโดยได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เราจะฟื้นฟูเศรษฐกิจแต่ไม่มีใครชุบชีวิตคนได้"

 

 

"คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่ามนุษยชาติและเศรษฐกิจโลกจะได้รับความเสียหายมากมายขนาดนี้ แม้แต่ระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดอย่างในสหรัฐฯ ยังไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ป่วยหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งไม่มีใครคาดเดากระบวนการแพร่ระบาดได้ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นไปได้คือการลดความสี่ยง เพราะโดยมากขึ้นอยู่พฤติกรรมส่วนบุคคล อย่างเรื่องง่าย ๆ เช่น การล้างมือ, อยู่บ้าน และมองหาความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยเร็วเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง เชื้อไวรัสมันไม่ได้สนใจว่าคุณจะเป็นใคร ผิวสีอะไร เชื้อชาติหรือนับถือศาสนาอะไร สิ่งนี้มันคุกคามไปทั่วโลก ดังนั้นเราต้องยืนหยัดต่อต้านร่วมกัน"

 

เคยมีคนพูดเอาไว้ว่า เมื่อเป็นนักสู้แล้ว ก็จะเป็นนักสู้ตลอดไป (Once a fighter, always a fighter) และนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟก็มองว่าสิ่งนี้คือไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต แม้จะเคยได้แชมป์โลกหลายสถาบัน รวมทั้งยังป้องกันแชมป์ของสภามวยโลกได้ถึง 10 สมัย "ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องทำงานแบบไม่ได้หยุดพักนานขนาดนี้ ตอนนี้วันทำงานของผมคือเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวันตลอดทั้งสัปดาห์ และผมยังมองไม่เห็นว่าเมื่อไหร่ที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ นับตั้งแต่ที่ผมได้รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกรุงเคียฟ ภาวะการแพร่ระบาดนี้คือความท้าทายครั้งใหญ่ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าเราจะก้ามข้ามมันไปได้"

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง


stadium

author

ไทเกอร์ วืด

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose