29 เมษายน 2563
ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า จะทำให้โลกกีฬาต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะฟุตบอลที่ต้องหยุดการแข่งขัน ทั้งที่หลายลีกในยุโรปกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำหน้าที่ตามกลไกของมันโดยไม่สนสถานการณ์บ้านเมือง นั่นก็คือข่าวลือเรื่องตลาดซื้อ-ขายนักเตะ
ทุกวันนี้ข่าวเรื่องย้ายทีมยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะแต่ละสโมสรต่างทำงานอยู่หลังฉากเพื่อเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด เมื่อกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง และหนึ่งในข่าวลือที่ใหญ่โตที่สุดก่อนหน้านี้คือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะขาย แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าตัวเก่ง ไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยมีรายงานว่า แดเนียล เลวี่ ประธานทีมไก่เดือยทองพร้อมปล่อยหัวหอกทีมชาติอังกฤษออกไป หากได้ค่าตัว 200 ล้านปอนด์ (ราว 8,000 ล้านบาท)
หากการซื้อขายเกิดขึ้นจริงด้วยตัวเลขตามข่าวลือ ก็จะทำให้ เคน เป็นนักที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทำลายสถิติ 198 ล้านปอนด์ของ เนย์มาร์ ที่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2017 อย่างไรก็ตาม บางรายงานระบุว่า สเปอร์สจะไม่ขายเคนให้แมนฯ ยูไนเต็ด หรือทีมอื่น ๆ ร่วมลีก แม้จะได้ค่าตัวสถิติโลกก็ตาม
เคนอาจจะทำลายหรือไม่ทำลายสถิติค่าตัว เมื่อตลาดซื้อขายเปิดทำการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็มีนักเตะอีกหลายรายที่มีโอกาสจะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกเช่นกัน ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
จาดอน ซานโช่ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ดาวรุ่งอนาคตไกลที่สุดของอังกฤษในปัจจุบัน สร้างชื่อจากการไปลงเล่นใน บุนเดสลีกา เยอรมนี หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่เจ้าหนูซานโช่วัย 20 ปี ยิงไปถึง 17 ประตู พร้อมกับ 19 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเพียง 35 นัด ทำให้มีรายงานว่าอาจได้ย้ายกลับมาพิสูจน์ตัวเองในลีกบ้านเกิด โดยมีทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ความสนใจคว้าตัวไปเสริมทัพ รวมทั้งมีข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า อีกด้วย
ทั้งนี้ แม้ดอร์ทมุนด์จะเปิดเผยว่าพร้อมปล่อยนักเตะในราคาราว 120 ล้านปอนด์ แต่การเปิดศึกนอกสนามของบรรดาทีมเงินถุงเงินถัง อาจทำให้ค่าตัวของนักเตะพุ่งสูงถึง 200 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)
ดาวดังทีมชาติฝรั่งเศสที่มีอายุเพียง 21 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงเป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากจะเห็นเอ็มบั๊ปเป้ทำลายสถิติของเนย์มาร์ในเร็ว ๆ นี้ โดยในปี 2017 เอ็มบั๊ปเป้ ย้ายจาก อาแอส โมนาโก มาอยู่กับ เปแอสเช ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมกับข้อตกลงซื้อขาดในปีต่อมาด้วยราคา 116 ล้านปอนด์ ถูกกว่าค่าตัวของเนย์มาร์ 82 ล้านปอนด์ แต่เมื่อดูจากฟอร์มของเอ็มบั๊ปเป้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่ามูลค่าทางการตลาดของเจ้าตัวแซงหน้าเพื่อนร่วมทีมชาวบราซิลเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ศูนย์บันทึกข้อมูลและวิเคราะห์กีฬาฟุตบอลนานาชาติ (CIES Football Observatory) ตีมูลค่าให้ เอ็มบั๊ปเป้ คือนักเตะที่แพงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ด้วยตัวเลขมากกว่า 250 ล้านยูโร (219 ล้านปอนด์) เลยทีเดียว
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ก่อนที่โลกฟุตบอลต้องหยุดชะงักเพราะไวรัสโคโรน่า หนึ่งในข่าวฮือฮาของตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้คือ สเตอร์ลิ่งกับเรอัล มาดริด โดยปีกทีมชาติอังกฤษ เคยถูกถามถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเรียกทีมราชันชุดขาวว่าเป็น "สโมสรที่น่าอัศจรรย์" รวมทั้งยังถูก อาส สื่อดังของสเปนตัดต่อภาพใส่เสื้อของ เรอัล มาดริด ขึ้นหน้าปกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม การจะกระชากตัวสเตอร์ลิ่งออกมาจากถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมย่อมต้องใช้เงินก้อนโต โดยในช่วงปลายปีที่แล้ว ซีไออีเอส ตีมูลค่าของสเตอร์ลิ่งเอาไว้ราว 223 ล้านปอนด์ และแมนฯ ซิตี้ ย่อมเรียกค่าตัวจำนวนมหาศาลสำหรับนักเตะที่มีสัญญากับพวกเขาถึงปี 2023 อีกทั้งยังเป็นนักเตะโควต้าโฮมโกรวน์อีกด้วย
ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)
สเตอร์ลิ่งไม่ใช่ดาวดังในพรีเมียร์ลีกเพียงคนเดียวที่ได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด แต่ราชันชุดขาวยังหวังที่จะดึงมาเน่ไปเล่นในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เช่นกัน โดยเฉพาะฟอร์มในฤดูกาลนี้ที่ทำให้ทีมหงส์แดงจ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของสโมสร หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และแชมป์สโมสรโลกมาแล้ว ดังนั้นจึงมีความไปได้ที่นักเตะจะหาความท้าทายใหม่
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เป็นนักเตะสำคัญของทีม รวมทั้งเหลือสัญญาถึงปี 2023 ทำให้ เรอัล มาดริด จำต้องทุ่มทุนสร้างเพื่อคว้าตัวมาเน่ ซึ่งแม้เว็บไซต์ Transfermarkt จะประเมินมูลค่าปีกทีมชาติเซเนกัลเอาไว้มากกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนว่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงเมื่อเทียบกับความยอดเยี่ยมของนักเตะในฤดูกาลนี้
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ยังไม่มีใครเคยได้ยินชื่อ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มาก่อน ไม่ต้องพูดไปถึงขั้นที่ว่ามีโอกาสเป็นแข้งค่าตัวสถิติโลกในอนาคต แต่สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ฮาแลนด์เริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 กับทีม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และหลังจากยิงได้ 28 ประตูในการลงเล่นเพียง 22 เกม รวมทั้ง 8 ลูกจาก 6 นัดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ศูนย์หน้าวัย 19 ปี ก็ย้ายไปอยู่กับดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ตามค่าฉีกสัญญา ถึงแม้จะได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริดก็ตาม ซึ่งหัวหอกชาวนอร์เวย์ก็ตอบแทนทีมเสือเหลืองอย่างคุ้มค่าทันที ด้วยการกระหน่ำไป 12 ประตูจาก 11 นัด
จากฟอร์มที่ไม่ได้ลดน้อยถอยลง แม้ขยับไปอยู่ในลีกที่ระดับสูงขึ้น ทำให้ทั้ง ปิศาจแดง และ 2 ทีมดังจากสเปน ยังไม่ลดความสนใจจากฮาแลนด์ ขณะเดียวกันตัวนักเตะก็คงไม่อยู่ในถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์ค นานนัก และเชื่อว่าดอร์ทมุนด์จะทำกำไรได้มหาศาลอย่างแน่นอน หลังจากปัจจุบันได้รับการประเมินว่าค่าตัวอยู่ในหลัก 100 ล้านปอนด์ไปแล้ว ดังนั้นหากรอดูผลงานในบุนเดสลีกาอีก 1 ฤดูกาล เชื่อได้เลยว่าตัวเลข 200 ล้านปอนด์ ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด
แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)
จากรายชื่อนักเตะทั้งหมดที่ว่ามา ดูเหมือน เคน จะใกล้เคียงกับการทำลายสถิติมากที่สุด หากพิจารณาจากข่าวที่ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้สเปอร์สต้องการระดมทุนจากการขายกองหน้าทีมชาติอังกฤษให้กับคู่ปรับร่วมลีกเพื่อพยุงสถานะทางการเงินของสโมสร เนื่องจากพวกเขาต้องแบกรับภาระจากการก่อสร้างสนามมูลค่า 1 พันล้านปอนด์
เคนยิงให้สเปอร์สไปแล้วเกือบ 200 ประตู และตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด นับตั้งแต่แจ้งเกิดในฤดูกาล 2014-15 ซึ่งแม้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะกำลังทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพเกมรุกและคงไม่บอกปัดโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญากับหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก
TAG ที่เกี่ยวข้อง