stadium

10 ยอดนักกีฬาที่กลับมาประสบความสำเร็จ หลังบาดเจ็บรุนแรง

15 เมษายน 2563

ในโลกของกีฬานั้น อาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่กับนักกีฬาที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุด หรือฝึกซ้อมมาอย่างดีที่สุด เพราะแค่การก้าวที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว, จังหวะการลงสู่พื้นที่ผิดธรรมชาติ หรือการปะทะอย่างรุนแรงก็สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงได้ ซึ่งเมื่อนักกีฬาต้องเจอกับปัญหานี้ก็ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง บางคนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อีกเลยในชีวิต แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่สร้างความประหลาดใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกจากการที่พวกเขากลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

 

และนี่คือ 10 สุดยอดนักกีฬาที่เผชิญปัญหาบาดเจ็บรุนแรง แต่กลับมาประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง

 

 

10.โมนิก้า เซเลส (เทนนิส)

ก่อนที่จะอายุ 20 ปี โมนิก้า เซเลส ก็คว้าแชมป์แกรนด์สแลมไปแล้วถึง 8 รายการ ซึ่งไม่มีใครประสบความสำเร็จเท่าเธออีกแล้วเมื่ออยู่ในวัยเดียวกัน แต่หลังจากขึ้นเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลกในช่วงปี 1991-1992 ระหว่างการแข่งขันที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ในปี 1993 เซเลสถูกแฟนเทนนิสของ สเตฟฟี่ กราฟ คู่ปรับสำคัญในเวลานั้น บุกลงมาในคอร์ทและใช้มีดแทงเธอที่หลัง ซึ่งทำให้ร่างกายและจิตใจของเซเลสไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ดีเหมือนเดิม แต่เธอก็กลับมาลงแข่งอีกครั้งในช่วงปลายปี 1995 ก่อนคว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพ่น ได้สำเร็จในปีต่อมา ทั้งที่เพิ่งรู้ว่าพ่อของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็ง 

 

 

9.ลินด์ซี่ย์ วอนน์ (สกี)

ลินด์ซี่ย์ วอนน์ ต้องถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากภูเขาไปที่โรงพยาบาล หลังได้รับบาดเจ็บจากการชนอย่างรุนแรง ในช่วงฝึกซ้อมของการแข่ง โอลิมปิก เกมส์ ฤดูหนาว ปี 2006 ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี แต่เธอกลับมาลงแข่งได้ในอีก 48 ชั่วโมงถัดมาอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยตลอดอาชีพ วอนน์ เจอปัญหาบาดเจ็บนับไม่ถ้วน แต่กลับมาลงแข่งและประสบความสำเร็จได้ทุกครั้ง ก่อนจะลาวงการพร้อมกับเกียรติยศมากมายทั้ง แชมป์ เวิลด์ คัพ 4 สมัย, เหรียญทอง โอลิมปิกปี 2012 และเป็น 1 ใน 6 นักสกีหญิงที่คว้าแชมป์ได้ทั้ง 5 ประเภทของการแข่งสกีอัลไพน์

 

 

8.นิกิ เลาด้า (รถแข่ง)

แชมป์ฟอร์มูล่า วัน อย่าง นิกิ เลาด้า เคยโกงความตายมาแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงในปี 1976 ซึ่งทำให้รถของเขาไฟลุกท่วมและตัวเขาเองได้รับแผลไฟลวกที่ศีรษะและใบหน้า แต่ 40 วันหลังจากนั้น เลาด้า กลับมาอยู่หลังพวงมาลัยอีกครั้งเพื่อชิงชัยกับ เจมส์ ฮันท์ คู่แข่งคนสำคัญ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะพ่ายไปแบบเฉียดฉิว และต้องใช้เวลาหยุดพักถึง 2 ปี เลาด้าก็กลับมาแข่งอีกครั้งในปี 1982 และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ของตัวเองใน 2 ปีถัดมา 

 

 

7.เบทานี่ แฮมิลตัน (กระดานโต้คลื่น)

ในปี 2003 ขณะที่ เบทานี่ แฮมิลตัน ดาวรุ่งวัย 13 ปีของวงการโต้คลื่นกำลังเล่นเซิร์ฟกับครอบครัว เธอกลับโดนฉลามเสือความยาวเกือบ 4 เมตรครึ่งเข้าจู่โจม และต้องเสียแขนไปหนึ่งข้างจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนั้น แต่ 1 เดือนต่อมา แฮมิลตัน กลับมาเล่นเซิร์ฟได้อีกครั้ง และ 2 ปีถัดมา เธอก็คว้าแชมป์ระดับประเทศได้สำเร็จ หลังจากนั้นแฮมิลตันก็ทำตามความฝันของเธออย่างไม่ลดละ ทั้งการได้เป็นนักโต้คลื่นอาชีพในวัย 17 รวมทั้งการได้ลงแข่งและคว้าแชมป์ระดับเวิลด์ ทัวร์

 

 

6.เพย์ตัน แมนนิ่ง (อเมริกันฟุตบอล)

เพย์ตัน แมนนิ่ง คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลครั้งแรกกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ในฤดูกาล 2006 ก่อนจะมาทำได้สำเร็จอีกครั้งในอีก 9 ปีต่อมากับ เดนเวอร์ บรองโก้ส์ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาเคยต้องพักทั้งฤดูกาล 2011 หลังต้องเข้ารับการเชื่อมต่อกระดูกสันหลัง เพราะมีปัญหาที่กระดูกคอ โดยขณะที่ โคลต์ส ถอดใจจากแมนนิ่งและพร้อมจะก้าวต่อไป หนึ่งในตำนานควอเตอร์แบ็กของเอ็นเอฟแอลกลับไม่ยอมแพ้ และทุ่มเททุกอย่างเพื่อกลับมาแข่งอีกครั้ง ก่อนจะเข้าร่วมทีมบรองโก้ส์ในปี 2012 ซึ่งในปีต่อมาเจ้าตัวก็ระเบิดฟอร์มขว้าง 55 ทัชดาวน์ ทำลายสถิติขว้างทัชดาวน์มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล ตามด้วยพาทีมม้าป่าคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลในฤดูกาลสุดท้ายของตัวเองเมื่อปี 2016

 

 

5.อเล็กซ์ ซานาร์ดี้ (รถแข่ง)

อเล็กซ์ ซานาร์ดี้ เคยเป็นแชมป์อินดี้คาร์ เมื่อตอนที่เขาขาขาดทั้ง 2 ข้างจากอุบัติเหตุที่ฉีกรถของเขาออกเป็น 2 ส่วน แต่แค่ 2 ปีหลังจากนั้น ซานาร์ดี้ กลับมาลงแข่งรายการเดิม และขับไปได้ 13 รอบสนามในรถที่ออกแบบเป็นพิเศษ นอกจากนั้นเขายังคว้า 3 เหรียญทองจากการแข่งขัน พาราลิมปิก เกมส์ รวมทั้งลงแข่งศึกไตรกีฬาชื่อดังอย่าง Ironman อีกด้วย

 

 

4.โจ มอนทาน่า (อเมริกันฟุตบอล)

สมัยที่เล่นในระดับคอลเลจกับมหาวิทยาลัย Notre Dame โจ มอนทาน่า เจ้าของฉายา "The Comeback Kid" เคยต้องพักทั้งฤดูกาลเนื่องจากไหล่หลุด ก่อนจะกลับมาพาทีมคว้าแชมป์ระดับชาติได้สำเร็จ ขณะที่ชีวิตในเอ็นเอฟแอล มอนทาน่า ถูกดราฟต์ในรอบที่ 3 ของปี 1979 โดย ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส และนำทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 2 สมัย ก่อนจะเจอปัญหาหมอนรองกระดูกสันหลังฉีกในปี 1986 ซึ่งต้องผ่าตัดนานถึง 2 ชั่วโมง โดยแพทย์แนะนำให้อำลาวงการ แต่มอนทาน่าสู้จนกลับมาพาโฟร์ตี้ไนเนอร์สคว้าแชมป์ได้อีก 2 สมัย และกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าของศึกซูเปอร์โบว์ล ถึง 3 สมัย

 

 

3.เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ (เทนนิส)

หนึ่งในนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอย่าง เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ เคยเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บที่ไหล่และเข่าเรื้อรังในปี 2015 และ 2016 ซึ่งทำให้เธอต้องถอนตัวจากการแข่งขันหลายทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ตาม เซเรน่า กลับมาคว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพ่น ได้สำเร็จในปี 2017 และกลายเป็นแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุดของนักเทนนิสที่ยังเล่นอยู่ในปัจจุบัน ก่อนที่จะหยุดพักเนื่องจากตั้งครรภ์ แต่เธอก็กลับมาลงแข่งได้อีกครั้งในปีต่อมาและเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมอีก 4 รายการ

 

 

2.แลนซ์ อาร์มสตรอง (จักรยาน)

แลนซ์ อาร์มสตรองอาจจะเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ฉาวโฉ่ที่สุดจากการใช้สารกระตุ้น แต่คงไม่มีใครปฏิเสธถึงความสุดยอดในการที่เจ้าตัวกลับมาลงแข่งขัน หลังจากเป็นโรคมะเร็งซึ่งอาจคร่าชีวิตเขาได้เลยทีเดียว โดยอาร์มสตรองถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งอัณฑะในปี 1996 ขณะที่มีอายุ 25 ปี ก่อนที่โรคร้ายจะลามไปที่ปอดและสมอง แต่เจ้าตัวพิชิตมันลงได้ ก่อนจะสร้างชื่อโด่งดังจากการคว้าแชมป์ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 7 สมัย และการก่อตั้งมูลนิธิ Livestrong ช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง โดยมีริสต์แบนด์สีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะถูกห้ามแข่งตลอดชีวิตรวมทั้งถูกริบแชมป์และรางวัลทุกอย่างที่ได้รับหลังจากปี 1998 แต่อาร์มสตรองก็เป็นบทเรียนที่ดีให้นักกีฬาคนอื่นๆ ในการสู้กับอาการบาดเจ็บ

 

 

1.ไทเกอร์ วู้ดส์ (กอล์ฟ)

ในตอนที่อายุ 30 ปี ไทเกอร์ วู้ดส์ ก็ประสบความสำเร็จและได้รับการยกย่องในระดับเดียวกับ แจ็คกี้ โรบินสัน ตำนานนักเบสบอล และ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานของเอ็นบีเอ แต่ชื่อเสียงของพญาเสือเริ่มตกต่ำลงในปี 2009 เมื่ออดีตภรรยาจับได้ว่าเขานอกใจไปกับผู้หญิงหลายคน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ผีซ้ำด้ำพลอยในปี 2017 เมื่อเจ้าตัวถูกจับกุมในข้อหาขับรถโดยประมาท การประดังประเดของปัญหาในช่วงนั้น ร่วมถึงอาการเจ็บหลังที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง อาจทำให้ใครหลายๆ คนท้อแท้ และยอมแพ้กับชีวิต แต่ ไทเกอร์ วู้ดส์ กลับมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการแซงคว้าแชมป์ศึกเดอะ มาสเตอร์ส ปี 2019 ซึ่งเป็นการคว้ากรีนแจ็กเกตสมัยที่ 5 และเป็นแชมป์แรกตั้งแต่ปี 2005

 

2 ประธานาธิบดีจาก 2 พรรคต่างแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ โดย โดนัลด์ ทรัมป์ มอบเหรียญแห่งอิสรภาพของประธานาธิบดี (Presidential Medal of Freedom)ซึ่งเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์สูงสุดของสหรัฐอเมริกาให้เป็นเกียรติคุณแก่ไทเกอร์ วู้ดส์ ขณะที่ ไมเคิล จอร์แดน ถึงกับแสดงความเห็นว่านี่เป็นการกลับมาประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

ไทเกอร์ วืด

StadiumTH Content Creator