9 เมษายน 2563
เบทานี่ แฮมิลตัน "ฉันกลัวไม่ได้เล่นเซิร์ฟมากกว่าฉลาม"
คุณจะทำอย่างไรหากมีความฝันว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต แต่กลับประสบอุบัติเหตุขั้นร้ายแรง ที่ไม่ใช่แค่ฟกช้ำ, กระดูกหัก หรือ เอ็นฉีก แต่ถึงขั้นสูญเสียอวัยวะอย่างแขนไปหนึ่งข้าง และที่ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่เกิดเหตุยังเกี่ยวข้องกับกีฬาที่ตัวเองรัก ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ กับนักโต้คลื่นสาวที่ชื่อว่า เบทานี่ แฮมิลตัน
ในปี 2003 ขณะที่ เบทานี่ แฮมิลตัน นักโต้คลื่นสาวชาวฮาวายอายุได้เพียง 13 ปี เธอก็ต้องสูญเสียแขนซ้ายให้กับการถูกฉลามเสือโจมตี ขณะเล่นเซิร์ฟที่ชายหาดทันเนลส์ ในเกาะคาวายอี
หลังเสียเลือดไปเกือบ 2 ส่วน 3 ของร่างกาย ไม่มีอะไรการันตีถึงชีวิตและอนาคตการเป็นนักโต้คลื่นของเธอ การโต้คลื่นด้วยแขนข้างเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย และการจะไปแข่งในระดับมืออาชีพยิ่งใกล้เคียงกับคำว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อรวมเอาแรงปรารถนาอันมากล้น, จิตใจที่มุ่งมั่น และความต้องการที่จะเติมเต็มเป้าหมายของชีวิต สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้ขึ้นมา
ด้วยการมีทัศนคติในเชิงบวกทำให้เธอมีมุมมองต่อชีวิตหลังอุบัติเหตุครั้งนั้น แตกต่างจากคนอื่นๆ
"เมื่อทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันก็เห็นสิ่งที่สวยงามและเรื่องดีๆ ทั้งหมดที่เข้ามาหลังจากต้องเสียแขนไป ฉันจะไม่เปลี่ยนชีวิตของตัวเองไปเป็นสิ่งที่ฉันคิดว่ามันควรจะเป็น แต่จะพร้อมยอมรับชีวิตที่มันเป็นไป"
และเหมือนกับปาฏิหาริย์ เพราะแค่ 26 วัน หลังจากถูกฉลามจู่โจม เบทานี่ กลับมาเล่นเซิร์ฟได้อีกครั้ง และ 2 ปี หลังจากนั้น เธอก็เป็นแชมป์ระดับชาติ ซึ่งเธอเปิดเผยว่าแรงศรัทธาในพระเจ้ามีส่วนสำคัญที่ทำให้เธอกลับมาเล่นกีฬาได้อีกครั้ง
"เมื่อฉันต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แน่นอนว่าฉันพึ่งศรัทธาในพระเจ้าของตัวเอง และมันเหมือนกับ 'เฮ้ พระเจ้า ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงต้องเสียแขนไป แต่ฉันจะเชื่อคุณ และรู้ว่าสิ่งดีๆ จะตามเข้ามาจากสถานการณ์นี้' "
หากแรงศรัทธาช่วยให้เบทานี่กลับมาเล่นเซิร์ฟได้อีกครั้ง ความสามารถโดยธรรมชาติของเธอและความมีวินัยในการฝึกซ้อมคือคุณสมบัติที่ทำให้เธอขึ้นสู่จุดสูงสุด
เบทานี่คว้าแชมป์ระดับชาติในรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เมื่อปี 2005 ตามด้วยลงแข่งเวิลด์ ทัวร์ ในปี 2009 ส่วนผลงานที่ดีที่สุดของเธอคือในปี 2016 เมื่อเบทานี่เอาชนะ สเตฟานี กิลมอร์ แชมป์โลก 6 สมัย ขณะที่ ไทเลอร์ ไรท์ มือ 1 ของโลกในขณะนั้นได้อันดับ 3 ในรายการ Fiji Women's Pro.
ความหลงใหลในการโต้คลื่น
คนส่วนใหญ่หลังจากประสบอุบัติเหตุรุนแรงจะพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่เกิดเหตุ แต่ไม่ใช่เบทานี่
"ฉันว่าความต้องการที่จะโต้คลื่นของตัวเองมีอำนาจมากกว่าความกลัวต่อฉลาม และฉันแค่ต้องรอจนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้ลงทะเลได้อีกครั้ง"
ทัศนคติของเบทานี่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาชั้นแนวหน้า
"นี่คือสิ่งที่ฉันฝันถึง และการเสียแขนไปไม่ได้หยุดความฝันนั้น"
"มันเป็นแค่ทัศนคติและความกล้าที่จะเผชิญกับอุปสรรค รวมทั้งการคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำได้และรู้ว่าต้องสู้กับอะไร ความท้าทายของสิ่งนั้นคืออะไร"
ในฐานะภรรยาและแม่ เบทานี่ต้องเจอกับอุปสรรคใหม่ในทุกๆ วัน แต่เธอก็เพลิดเพลินไปกับการคิดหาวิธีเอาชนะทุกอย่าง ซึ่งบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
"ฉันพยายามหาวิธีกระโดดเชือกด้วยแขนข้างเดียว และมันเป็นความท้าทายที่สนุกมากๆ เลยทีเดียว"
ด้วยการเดินทางของชีวิตที่ไม่เหมือนใครและมุมมองเชิงบวกของเบทานี่ทำให้เป็นแรงบันดาลใจแก่คนทั่วโลก อีกทั้งยังเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Soul Surfer ในปี 2011 ซึ่งอ้างอิงเนื้อหาจากอัตชีวประวัติในชื่อเดียวกัน ก่อนที่จะมีภาพยนตร์สารคดีที่เธอแสดงเองในชื่อ 'Bethany Hamilton: Unstoppable' ในปี 2018
"คนส่วนมากมองฉันในฐานะ Soul Surfer หรือเหยื่อจากการถูกฉลามจู่โจม ดังนั้นนี่จะเป็นการสร้างมุมมองใหม่ให้คนได้เห็น และฉันหวังว่าพวกเขาจะได้รับแรงกระตุ้นต่อเส้นทางชีวิตของตัวเอง"
ในสารคดีแสดงให้เห็นเส้นทางชีวิตอันโดดเด่นของเบทานี่และเน้นเรื่องการเอาชนะทุกอุปสรรคที่ก้าวเข้ามา เริ่มจากการเล่นเซิร์ฟด้วยแขนข้างเดียวไปถึงการเลี้ยงดูลูกชาย 2 คน
เบทานี่มีความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นให้คนอื่นๆ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอบอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นแบบอย่างแก่คนทั่วไป ในฐานะนักเล่นเซิร์ฟฝีมือดี เบทานี่ไม่ได้มีความทนทานต่อเกลียวคลื่น แต่ทุกครั้งที่เธอล้ม เธอจะกลับขึ้นมาบนเซิร์ฟบอร์ดอยู่เสมอ ซึ่งปรัชญาในการรับมือกับคลื่นนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอนำไปปรับใช้กับชีวิต เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ถาโถมเข้าใส่
TAG ที่เกี่ยวข้อง