31 มีนาคม 2563
ในการแข่งขันเทเบิลเทนนิส โอลิมปิก เกมส์ รอบคัดเลือก โซนเอเชียตะวันตก ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา เฮนด์ ซาซ่า สาวน้อยวัยเพียง 11 ปี จากซีเรีย คว้าสิทธิ์ไปเข้าร่วมศึกโตเกียว เกมส์ ในประเภทหญิงเดี่ยวได้สำเร็จ ทำให้เธอกลายเป็นนักเทเบิลเทนนิสที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิก เกมส์
ขณะเดียวกันเธอยังจะเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันหนนี้ เนื่องจากเด็กกว่า สกาย บราวน์ สาวน้อยมหัศจรรย์ นักกีฬาสเกตบอร์ดของ สหราชอาณาจักร ที่มีอายุ 12 ปีอีกด้วย โดย เดอะ การ์เดี้ยน สื่อชื่อดังในอังกฤษรายงานว่า ซาซ่า จะเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 5 ในโอลิมปิก นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (หากนับตามกำหนดการแข่งขันเดิมที่จะมีขึ้นในปี 2020) ขณะที่สถิติของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ระบุว่า นักกีฬาอายุน้อยที่สุดที่คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกคือ ดิมิทริออส ลาวน์ดราส นักยิมนาสติกทีมชาติกรีซที่คว้าเหรียญทองแดงจากประเภทบาร์คู่ ในการแข่งขันเมื่อปี 1896 ขณะที่มีอายุเพียง 10 ปี
อย่างไรก็ตามการเป็นนักกีฬาอายุน้อย และมาจากประเทศที่ต้องเผชิญกับภาวะสงครามอย่าง ซีเรีย ทำให้ ซาซ่า ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก แต่เรื่องนี้ก็ส่งผลดีต่อตัวเธอและชาติบ้านเกิดเช่นกัน
ดาวน้อยในหมู่เมฆ
ซาซ่า เกิดที่เมืองฮามาของซีเรียในปี 2009 และเริ่มต้นเล่นเทเบิลเทนนิสในปี 2014 ภายใต้คำแนะนำของโค้ช แอดแฮม อัลยามาน ซึ่งในขณะที่บ้านเกิดเมืองนอนของเธอต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการก่อการร้ายและสงคราม ซาซ่าและพี่น้องของเธอก็ได้กีฬาเทเบิลเทนนิสเป็นตัวช่วยบรรเทาความรู้สึกจากความยากลำบากที่ได้รับในแต่ละวัน
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ พี่ชายของซาซ่าได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ West Asia Hopes Week and Challenge ในปี 2016 ซึ่งเธอก็ได้ติดสอยห้อยตามไปด้วย และในช่วงของการฝึกซ้อม เธอได้รับอนุญาตจากโค้ชให้จับคู่กับผู้เล่นที่มีอายุมากกว่า ก่อนที่ซาซ่าจะฉายแววความสามารถเกินอายุจนดึงความสนใจจากโต๊ะอื่นๆ ขณะที่ตัวโค้ชเองก็ประทับใจในฝีมือจนตัดสินใจส่งชื่อเธอลงแข่งขัน
มาจนถึงวันนี้ที่บ้านในเมืองฮามา ซาซ่าต้องซ้อม 3 ชั่วโมงต่อวัน และ 6 วันต่อสัปดาห์ ในสภาพแวดล้อมที่ห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ เธอมีเพียงห้องโถงพร้อมกับโต๊ะเก่าๆ 4 ตัว, พื้นคอนกรีต และระบบไฟฟ้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้การฝึกซ้อมต้องพึ่งแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ด้วยคำแนะนำของโค้ชอัลยามาน เธอได้เป็นนักกีฬาในสังกัด Al-Muhafaza Table Tennis Club ในกรุงดามัสกัส และกลายเป็นนักกีฬาซีเรียคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับชาติได้ทั้ง 4 ประเภทที่มีสิทธิ์ลงแข่งคือ โฮป (ยุวชนอายุไม่เกิน 12 ปี), คาเด็ต (เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี), จูเนียร์ (เยาวชนอายุไม่เกิน 18) และ ซีเนียร์ (รุ่นทั่วไป)
ซาซ่าต้องเดินทางจากซีเรียไปแข่งรายการ Hopes Weeks ระดับภูมิภาคและระดับทวีปหลายรายการ ซึ่งจากประสบการณ์ครั้งแรกที่กาตาร์และชัยชนะที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้เธอได้สิทธิ์ไปแข่งในระดับชิงแชมป์เอเชียในปีนี้
ขณะเดียวกัน ด้วยวัย 11 ปี ทำให้ ซาซ่า ยังอยู่ในกลุ่มนักกีฬาที่อายุน้อยกว่าคนอื่นๆ ในรุ่นโฮป เมื่อเทียบกับระดับโลก ซึ่งเป็นเรื่องปกติตั้งแต่เธอลงแข่งครั้งแรก แต่บางทีเธออาจจะไม่ได้ไปแข่งในศึก World Hopes Week and Challenge เนื่องจากมีรายการอื่นที่สำคัญมากกว่า นั่นคือ โอลิมปิก เกมส์ ปี 2020 และในรอบชิงชนะเลิศของโอลิมปิกรอบคัดเลือกโซนเอเชียตะวันตกที่ประเทศจอร์แดน ซาซ่าเฉือนชนะมาเรียน่า ซาฮาเคียน นักตบลูกเด้งวัย 31 ปีจากเลบานอนลงได้แบบเฉียดฉิว 4-3 เกม คว้าตั๋วไป โอลิมปิก เกมส์ ปีนี้ได้สำเร็จ
ความสำเร็จของซาซ่าไม่ได้สร้างความปลาบปลื้มเพียงแค่ตัวเธอและครอบครัว แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้กับนักกีฬาเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ดั่งที่ บาสซาม คาลิล ประธานสหพันธ์กีฬาเทเบิลเทนนิสของซีเรีย กล่าวเอาไว้ว่า
"ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเรื่องยากมากสำหรับเรา แต่เราภูมิใจมากๆ ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก เกมส์ เป็นครั้งที่ 2 แต่คราวนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเราได้สิทธิ์ผ่านกระบวนการลงแข่งรอบคัดเลือก (ในปี 2016 เฮบา อัลเลจี ได้รับคำเชิญจากคณะกรรมการไตรภาคีให้เข้าร่วมการแข่งขัน ริโอ เกมส์) ผมอยากจะบอกกับคุณว่าทัวร์นาเมนต์นี้ทำให้นักกีฬาทุกคนในประเทศได้รู้ว่าการคว้าสิทธิ์ลงแข่งโอลิมปิกนั้นเป็นไปได้ และเรามีศักยภาพมากพอที่จะทำได้อีกครั้ง ความขัดแย้งในซีเรียช่วงก่อนหน้านี้ทำให้เราไม่ได้ลงแข่งหลายรายการ แต่เราก็พยายามเต็มที่ในการมีส่วนร่วม และทำให้กีฬาเทเบิลเทนนิสยังมีตัวตนอยู่ในประเทศต่อไปให้นานที่สุด"
ผู้นำแสงแห่งความหวังของซีเรีย
ซาซ่าไม่เพียงหักปากกาเซียนคว้าแชมป์ที่กรุงอัมมานได้เท่านั้น แต่เธอยังพลิกชะตาจนกลายเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนแรกของประเทศที่ผ่านรอบคัดเลือกโอลิมปิก นั่นหมายความว่าความทุ่มเทของสหพันธ์เทเบิลเทนนิสของซีเรียผลิดอกออกผลอย่างชัดเจน
โตเกียว เกมส์ คือเป้าหมายต่อไปของ ซาซ่า ซึ่งมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอนาคต แต่คำพูดแรกที่ออกมาจากปากของเธอหลังจากที่ทำตามความฝันได้สำเร็จนั้น เต็มไปด้วยความนอบน้อมและความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ
"นี่คือของขวัญแด่ซีเรีย, พ่อแม่ของฉัน และเพื่อนของฉันทุกคน"
TAG ที่เกี่ยวข้อง