21 กุมภาพันธ์ 2563
การเเข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพ "ซีพี" ไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 15 ประจำฤดูกาล 2020 กำลังจะเดินทางเข้าสู่ "เลกที่ 2" ซึ่งจะลงชิงชัยกันต่อเนื่องตั้งเเต่ 22 กุมภาพันธ์ ไปจนถึง 29 มีนาคม) กระเเสในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของ "ไทยเเลนด์ ลีก" ถือว่าดีขึ้นกว่าใน "ยุคตั้งไข่" พอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า "แฟนกีฬาชาวไทย" เริ่มให้ความสนใจวอลเลย์บอลมากขึ้น นับตั้งเเต่ "7 เซียน" ถือกำเนิดขึ้นมาประดับวงการ อีกส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า "ลีกลูกยางอาชีพ" มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
การทำงานที่เป็นมืออาชีพมาขึ้นของ สโมสรต่างๆ
เริ่มจากในเรื่องของ "สโมสร" ตลอดเวลา 15 ฤดูกาลที่ผ่านมา "ไทยเเลนด์ ลีก" มีทีมเข้าร่วมเเข่งขันมากมายแบบนับไม่ถ้วน(ปีละ 16 ทีม) เพราะว่าหลายๆทีมเข้าเเข่งขันไม่นานก็เลิกราไป ส่วนหนึ่งผลงานอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างเช่น บางกอกกล๊าสฯ เเต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าไม่มีเงินทำทีมเป็นเรื่องเป็นราว หรือพูดง่ายๆคือทำทีมเเบบ "ขอไปที"
ทุกวันนี้ต้องยอมรับเเบบเต็มปากว่า "บางทีม" ยังมีคุณสมบัติเเบบ "ขอไปที" คือส่งเข้าร่วมเเข่งขันเพื่อหวังเงินรางวัลเเละเงินสนับสนุนทีมเป็นหลัก ส่วนใหญ่ที่ยืนระยะได้ เป็นเพราะว่าทีมเหล่านี้จะใช้นักกีฬาระดับเยาวชน(นักเรียน, นักศึกษา)เป็นหลัก เเละมีตัวใหญ่ๆเก๋าๆเข้ามาเสริมนิดหน่อย ขณะที่ "บางทีม" เริ่มมีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ มีการแผนงานที่ชัดเจนในระยะยาว เเละไม่ได้รับผลกระทบมากนักเเม้ว่าผลงานจะออกมาต่ำกว่าเป้าหมาย
เงินรางวัลและเงินสนับสนุนทีม เพิ่มมากขึ้น
ย้อนกลับไปด้านบนที่กล่าวถึงการทำทีมเเบบ "ขอไปที" เริ่มจะได้ผลตอบเเทนที่คุ้มค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าช่วงหลังๆเม็ดเงินต่างๆของ "ไทยเเลนด์ ลีก" เริ่มมากขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร "เงินสนับสนุนทีม" จากปีละเเสนนิดๆ ขยับมาเป็นปีละหลายเเสน จนผ่านมาถึง 2 ฤดูกาลล่าสุด สโมสรต่างๆ จะได้รับเงินสนับสนุนสูงถึง 1.6 ล้านบาท คือแบ่งเป็น 2 เลก(เลกละ 8 เเสนบาท)
"เงินรางวัล" ก็มีการขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากเดิมที่ค้างอยู่ 1 ล้านบาทเป็นเวลานานหลายปี ล่าสุด "ไทยเเลนด์ลีก" ได้เพิ่มเงินรางวัลเป็น 3 ล้านบาท (ตั้งเเต่ปีก่อน) เเละในฤดูกาล 2020 ฝ่ายจัดการเเข่งขันฯ ยังเพิ่มเงินรางวัลพิเศษขึ้นมาให้กับ "ทีมไร้พ่าย" อาจจะฟังดูเหมือนว่าเป็นเรื่องยาก เเต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา "ทีมเเชมป์" ก็มักจะจบฤดูกาลโดยไม่เเพ้เลยสักเกม
การประชาสัมพันธ์และการถ่ายทอดสด
คงต้องยอมรับว่าทุกๆกิจกรรมจะไม่สามารถเป็นที่รู้จักอย่างเเพร่หลายได้เลยถ้าขาดการ "พีอาร์" โดยเฉพาะในวงการกีฬาที่บางรายการมักถูกพูดถึงเเบบติดตลกว่า "เเข่งเองดูเอง" ย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ของ "ไทยเเลนด์ ลีก" ก็เช่นเดียวกัน เสียงบ่นที่เราได้ยินกันบ่อยๆคือ หาดูยาก, หาข่าวยาก, ไม่มีข้อมูลอะไรเลย เป็นต้น
แต่ว่าหลังจากที่ "กลุ่มทรู" ก้าวเข้ามาดูเเลเเบบเต็มตัว "ไทยเเลนด์ลีก" ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เเละสามารถเข้าถึง "แฟนกีฬาชาวไทย" ได้เเบบทั่วถึง เพราะด้วยความหลากหลายของ "สื่อ" เเละช่องทางในการติดตาม ทำให้มองไปทางไหนก็เห็นเเต่คนดู "ไทยเเลนด์ลีก" มากยิ่งๆขึ้นไปในทุกๆปี สมาชิกรายเดือน(ทรูวิชั่นส์)สามารถดูได้ทุกคู่, ดูออนไลน์ผ่าน ทรู ไอดี ก็สามารถรับชมได้ทุกคู่ เเละดูฟรีผ่าน ทรูโฟร์ยู(ฟรีทีวี) ก็สามารถดูได้เเบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเกือบทุกคู่เช่นเดียวกัน
ผู้สนับสนุนและสปอนเซอร์
จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น รวมทั้งการกลับมารวมตัวกันอยู่ในเมืองไทยของ "7 เซียน" ส่งผลให้กระเเสตอบรับ "ไทยเเลนด์ ลีก" จาก "แฟนกีฬาชาวไทย" มีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร ไม่เพียงเเค่การรับชมถ่ายทอดสดทางบ้านเท่านั้น หลายๆสนามที่จัดการเเข่งขันก็มี "แฟนกีฬาชาวไทย" ตามเข้าไปเชียร์เเละให้กำลังใจนักกีฬากันอย่างล้นหลาม(เสียค่าเข้าชม) เเน่นอนว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ บริษัทห้างร้าน ก็เริ่มให้ความสนใจ "วงการลูกยาง" มากขึ้นกว่าเดิม เเม้ยังเป็นมูลค่าที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับ "วงการฟุตบอล" เเต่อย่างน้อยก็พอจะทำให้ "บางทีม" ได้ลืมตาอ้าปาก เเละยิ่งไปกว่านั้นคือ "บางทีม" สามารถจัดหนักทุ่มเงินจ้าง "นักกีฬาฝีมือดี" เข้ามาร่วมทีมได้
นักกีฬาไทยและผู้เล่นต่างชาติ
ไฮไลท์สำคัญของ "ไทยเเลนด์ลีก" ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือการลุ้นว่าเเต่ละทีมจะมีโฉมหน้านักกีฬาเเบบไหน นักกีฬาทีมชาติไทย เเละ นักกีฬาจากต่างประเทศ คือเป้าหมายหลักที่ "แฟนกีฬาชาวไทย" ให้ความสนใจ จากหลายปัจจัยที่น่าจะเกี่ยวข้อง ส่งผลให้หลายปีที่ผ่านมา "นักกีฬาต่างชาติ" เดินทางมาเล่นในเมืองไทยมากขึ้น เเละที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ "คุณภาพของนักกีฬา" เพราะว่าช่วงหลังๆ "นักกีฬาต่างชาติ" ที่เดินทางมาสู่ "ไทยเเลนด์ลีก" ล้วนเเล้วเเต่ดีกรีไม่ธรรมดา
ขณะที่ "นักกีฬาทีมชาติไทย" ก็ยังลงเล่นใน "ไทยเเลนด์ลีก" กันเกือบทุกคน เเต่ที่เปลี่ยนไปคือเริ่มจะอยู่เป็น "กระจุก" มากกว่าสมัยก่อนที่ "กระจาย" ไปตามทีมต่างๆ เเม้ว่าฝ่ายจัดฯจะจำกัดโควตาของ "นักกีฬาทีมชาติไทย" ไว้ชัดเจนคือ 3 คน เเต่ก็ยังมีทางหนีเอาตัวรอดได้ด้วยคำว่า "อะคาเดมี่" หรือเป็นนักกีฬาที่เติบโตมาจากทีมนั้นๆ ส่งผลให้ "ทีมใหญ่" ที่อยู่มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ได้เปรียบในเรื่องของ "นักกีฬาต่างชาติ" เเต่ก็ต้องยอมรับด้วยเช่นกันว่า "ทีมใหญ่" มีกำลังซื้อมากกว่า "ทีมเล็ก"
TAG ที่เกี่ยวข้อง