17 กุมภาพันธ์ 2563
#แบกเป้ดูบอลไทย
การออกสตาร์ทอันยอดเยี่ยมของบิ๊กทรี
"การท่าเรือ - บีจีพียู - ทรู แบงค็อกฯ"
ในที่สุด เวลาที่แฟนบอลไทยทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังเสียงนกหวีดแรกจากผู้ตัดสินที่เปรียบเสมือนการส่งสัญญาณว่า ศึกฟุตบอลลีกบ้านเราได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
16 ทีมที่ดีที่สุดในประเทศ กับการช่วงชิงความเป็นหนึ่งเพื่อศักดิ์ศรี เกียรติยศ และโทรฟี่แชมป์ และแน่นอนว่า ฤดูกาลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจับตามองในแง่ของความสูสีของแต่ละสโมสรที่ตัดสินใจดึงผู้เล่นชั้นเลิศเพื่อทำให้ทีมตัวเองแข็งแกร่งที่สุด
ช่องว่างระหว่างแต่ละทีมจึงบีบแคบน้อยลงตามลำดับ
ความพ่ายแพ้ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมนัดเปิดสนามกับ โปลิศ เทโร
การต่อสู้กันแบบสนุกของแชมป์เก่าอย่าง สิงห์ เชียงรายฯ และสมุทรปราการ ซิตี้ ที่ยกระดับทีมขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม
นี่คือตัวอย่าง “น้ำจิ้มๆ” ที่บอกว่า การแข่งขันในปีนี้ทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่วันนี้ สิ่งที่ผมอยากจะโฟกัสนั่นก็คือ การออกสตาร์ทของสามทีมยักษ์ใหญ่ในลีกที่ต้องบอกว่า “สมราคา”
พวกเขาคือสามที่ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ มีความพร้อมทั้งใน และนอกสนาม รวมถึงเม็ดเงินมหาศาล
ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงการออกสตาร์ทของ การท่าเรือ เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
เริ่มต้นที่ “สิงห์เจ้าท่า” แน่นอนว่ากูรูลูกหนังทั่วประเทศล้วนแต่ยกให้พวกเขามีภาษีดีสุดในการลุ้นแชมป์ไทยลีกฤดูกาลนี้
เพราะนักเตะระดับท็อปมากมายต่างตบเท้าเข้ามาค้าแข้งในถิ่น แพท สเตเดี้ยม กันอย่างคับคั่ง
เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส, อดิศักดิ์ ไกรษร, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, ฉัตรมงคล ทองคีรี ก่อนจะตบท้ายด้วย ชาริล ชัปปุยส์ เมื่อบวกกับขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ เห็นทีคงต้องบอกว่า นี่อาจจะเป็นขุมกำลังที่ดีที่สุดของพวกเขาในรอบทศวรรษเลยก็เป็นได้
แม้จะต้องพบกับความผิดหวังในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ รวมถึงศึกออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ แต่พวกเขาก็สามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างรวดเร็วหลังออกสตาร์ทด้วยการถลุงทัพ “สวาทแคท” ไปอย่างขาดลอย 4-1 จากสองประตูของ เฮแบร์ตี้ และสองแอสซิสต์ของ บดินทร์ ผาลา
นี่คือสัญญาณที่ดีว่า แข้งใหม่จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้ง เฮแบร์ตี้ และอดิศักดิ์ สามารถปรับตัวเล่นกับ เซร์คิโอ้ ซํวเรซ และบดินทร์ ได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่าการมีอาวุธหนักอยู่ในมือมากขนาดนี้ จะทำให้ การท่าเรือ ขยับเข้าใกล้กับความฝันในการชูโทรฟี่แชมป์ไทยลีก ซีซั่นนี้ คงเหลือแค่ความคงเส้นคงวาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องชี้วัดว่า ฝันนั้นจะกลายเป็นความจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ณ วินาทีนี้ พวกเขาคือจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ !!!
ถัดมาที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์ T2 ที่คัมแบ็กคืนสู่ไทยลีก 2020 ได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่นัดแรก หลังเปิดบ้านเอาชนะทีมแกร่งอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แบบสุดดราม่า ท่ามกลางแฟนบอลในสนาม เฉียดๆ หลักหมื่น
ความแข็งแกร่งในเรื่องของตัวผู้เล่น โดยเฉพาะการได้ตัว วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ มาปักหลักเป็นยักษ์หลังบ้าน เช่นเดียวกับหัวหอกตำนานทีมชาติมาเลเซียอย่าง นอร์ชาห์รูล, สันติภาพ จันทร์หง่อม และสุมัญญา ปุริสาย เพลย์เมคเกอร์มันสมองจอมเก๋า มาผนึกกำลังกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และบาร์รอส ทาร์เดลลี่ ทำให้ บีจีพียู ชุดนี้ดีพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงโทรฟี่แชมป์ได้ไม่ยาก
การเปิดหัวด้วยการเอาชนะคู่ปรับแย่งแชมป์โดยตรงอย่าง “กิเลนผยอง” จึงเปรียบเสมือน “ดรีม สตาร์ท” ที่เหล่าแฟนบอลบีจีพียูต่างฝันว่า พวกเขาจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าสองแชมป์ใหญ่สองซีซั่นติดต่อกันให้ได้
ตบท้ายด้วยเต็งแชมป์อีกหนึ่งทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ปีนี้เปรียบดั่ง “รถไฟขบวนสุดท้าย” ที่จะตัดสินชะตาของ มาโน่ โพลกิ้ง ว่าจะสามารถนำ “แข้งเทพ” ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่ดีที่สุดในไทยได้หรือไม่
การทุ่มเงินค่าเหนื่อยเพื่อมัดใจอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นอย่าง ฮาจิเมะ โฮโซไก มาคุมเกมในแดนกลาง อาจจะกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “แข้งเทพ” พลิกโฉมจนไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ หลังเจ้าตัวโชว์คลาสระดับเอเชียให้ทุกคนเห็นว่า การยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางของเขานั้นเนียนตาขนาดไหน
"โฮโซไก" เป็นผู้เล่นที่ฉลาด ประสบการณ์ในบุนเดสลีกา เยอรมัน ถึง 7 ปี ของเขา หาที่ไหนไม่ได้ ส่วนตัวผมยินดีมาก ที่ได้เขามาร่วมทีม ผมต้องการให้เขาช่วยเราได้หลายตำแหน่ง อย่างช่วงแรก เขาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และ ช่วงท้าย ที่ถอยลงมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งเขาทำได้ดี เพราะมีความเข้าใจในเกมสูง" นี่คือคำยกย่องที่ มาโน่ โพลกิ้ง พูดถึง โฮโซไก หลังจากเอาชนะ พีที ประจวบ เอฟซี ได้ในถิ่นทรู สเตเดี้ยม ประเดิมสามแต้มได้อย่างงดงาม
เช่นเดียวกับการกล้าให้โอกาสกับ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม หัวหอกดาวรุ่งที่เพิ่งกลับมาจาก เอฟซี โตเกียว U23 ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวังหลังกดประตูสุดสวยให้ทีมเอาชนะได้ นี่คือสัญญาณที่ดีว่า ทรู แบงค็อกฯ มีทางเลือก และมิติในแนวรุกมากขึ้น ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้พวกเขาเดินหน้ากรุยทางด้วยความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สุดท้าย ท้ายสุด หนทางในการไล่ล่าโทรฟี่แชมป์ไทยลีก 2020 นั้นยังอีกไกล ต้องมาดูกันว่าสัปดาห์ต่อไป ทั้งสามทีมนี้จะยังคว้าชัยชนะได้ และรักษาเส้นทางการลุ้นแชมป์ของตัวเองไว้ได้ต่อไปเรื่อยๆ หรือไม่… แล้วเรามาลุ้นไปด้วยกันครับ
TAG ที่เกี่ยวข้อง