stadium

หายไปไหน !! ตามหา 5 ทีมดัง ไทยลีก 3

12 กันยายน 2568

ศึกลูกหนัง “บีวายดี” ไทยลีก 3 สังเวียนแข้งที่มีทีมและแฟนมากที่สุดของประเทศ เริ่มโม่แข้งตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน นับจากนี้ไปทีมรากหญ้า ใน 6 โซนทั่วประเทศ ต้องแข่งขันเพื่อคัด 2 ทีมแต่ละโซน เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีก 12 ทีมสุดท้าย เพื่อหา 3 ทีมดีที่สุดแห่งปีขึ้นสู่ไทยลีก 2

 

รู้กันดีว่า การเลื่อนชั้นของไทยลีก 3 กว่าจะขึ้นในลีกรองมีความยากลำบาก แข่งขันกันหลายนัด หลายรอบ กว่าจะถึงปลายทางหลายทีมถอดใจ พักและยุบทีมจนหายไปจากสารบบ ทั้งที่มีแฟนและกองเชียร์ให้กำลังมากมายเต็มสนาม

 

Stadium TH ขอนำพาตามหา และทำความรู้จักกับ 5 ทีมดังที่หายไปจากไทยลีก 3

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กสโมสร เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้

 

“เจ้าแห่งนักษัตร” เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้

 

ประเดิมเริ่มด้วยทีมดังและประสบความสำเร็จสูงสุด ก่อตั้งโดย “มณฑล ณ นคร” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังทำการโอนสิทธิ์ย้ายสนามและเปลี่ยนชื่อจากทีม “เวียงสระ สุราษฏร์ ซิตี้” ใน จ.สุราษฏร์ธานี มาเป็น “เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้” ใช้สนามกีฬามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นรังเหย้าในฤดูกาล 2021/22

 

ก่อนสร้างผลงานสุดเปรี้ยงมาแรงสุดในกลุ่มทีมน้องใหม่ หลังลุยไทยลีก 3 แค่ปีเดียว ต่อมาในฤดูกาล 2022/23 “เจ้าแห่งนักษัตร” เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้ เบียดคู่แข่งในช่วงโค้งสุดท้ายขึ้นเป็นรองแชมป์ในโซนใต้ โดยมี “สงขลา เอฟซี” เป็นแชมป์ ควงคู่กันเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ลีก 12 ทีมสุดท้าย ในกลุ่ม 6 ทีมโซนล่าง

 

ขุนพลหลักอย่าง อังเดร หลุยส์ ลาเต้, นิราศ บุหง่า, อัครวิทย์ เสมารัมย์ และ สมศักดิ์ มุสิกพันธ์ พาทีมปราบมาหมดทั้ง ดีพี กาญจนบุรี เอฟซี, สมุทรสงคราม เอฟซี, สงขลา เอฟซี รวมถึง บางกอก เอฟซี แข่งขัน 5 นัดไม่แพ้ใคร เป็นแชมป์โซนทะลุเข้าชิงชนะเลิศ

 

คู่ชิงเป็น “กระต่ายป่า” จันทบุรี เอฟซี ทีมที่มียักษ์ใหญ่อย่าง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” เป็นผู้สนับสนุนทั้งเงินทุนและตัวผู้เล่น

 

แต่ก็หยุดยอดทีมจากแดนใต้ไม่อยู่ “เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้” สร้างประวัติศาสตร์ก้าวถึงแชมป์ไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อบุกไปเอาชนะ “กระต่ายป่า” จันทบุรี เอฟซี ถึงบ้าน 0-1 จากผลงานประตูชัยจาก “สมศักดิ์ มุสิกพันธุ์” หลังจากเสมอกันมาในนัดแรก 1-1 เป็นผลงานสุดยอดคว้าถ้วยชนะเลิศเป็นทีมแรกของภาคใต้ พร้อมคว้าสิทธิ์ขึ้นสู่ไทยลีก 2

 

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จมาพร้อมปัญหาที่รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนาม ที่รังเหย้าเดิม สนามมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ขึ้นค่าเช่าสูงลิบ เมื่อขอย้ายไปสนาม อบจ.นครศรีธรรมราช อ.ร่อนพิบูลย์ ก็ไม่มีความพร้อมในหลายด้านทั้งไฟ เก้าอี้นั่ง เรื่องสำคัญคืองบประมาณที่ไม่เพียงพอ ขาดเงินทุนจากผู้สนับสนุน และปัญหาเรื่องไม่ผ่านคลับ ไลเซนซิ่ง

 

ทางออก ณ เวลานั้นคือไม่พร้อมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 แต่ขอลุยต่อในไทยลีก 3 ในฤดูกาล 2023/24 “เอ็มเฮช นครศรี ซิตี้” ยังมีปัญหาการเงิน แข้งคุณภาพราคาแพงถูกปล่อยออก หันกลับมาใช้นักเตะดาวรุ่งท้องถิ่นเป็นหลัก ประคองสู้จนจบที่อันดับ 10 โซนภาคใต้ เก็บชัยชนะได้แค่ 4 นัด จากการแข่งขัน 22 แมตช์

 

แม้ไม่อยู่ในสถานะตกชั้น แต่ก็ยากที่จะไปต่อสุดท้ายก็ต้องปล่อยมือ “บอสฑล” มณฑล ณ นคร ประธานสโมสร เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ “มายโฮม” ขาดสภาพคล่อง จึงยอมถอยประกาศพักทีมอย่างไม่มีกำหนด

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กสโมสร พังงา เอฟซี

 

“เรือขุดมหากาฬ” พังงา เอฟซี

 

ยุคหนึ่งของ “เรือขุดมหากาฬ” พังงา เอฟซี เป็นอีกทีมที่มีกองเชียร์มากที่สุดในภาคใต้ ภายหลังของ “โกไข่” วิชัช ไตรรัตน์ นักธุรกิจท้องถิ่นด้านการท่องเที่ยว มานั่งประธานสโมสร พร้อมนำโค้ชอดีตทีมชาติชื่อดัง “สิงโตเผือกนครสวรรค์” วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ ดาวเตะร่วมรุ่น “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน มาเป็นกุนซือ

 

แฟนบอลสวมเสื้อแดงตามสีสโมสรแน่นรังเหย้า สนามกีฬากลางจังหวัดพังงา ที่ถือว่าสวยงามระดับประเทศ ด้วยฉากหลังเป็นภูเขาเขียวขจีสวยงามราวภาพวาด เหล่าสาวก “เรือขุดมหากาฬ” ต่างส่งเสียงเชียร์ทำให้เกมในบ้านแพ้ยาก ไม่ต่างกับการไปเป็นทีมเยือน ขบวนรถบัสนำกองเชียร์ติดตามแทบทุกสนามสร้างบรรยากาศคึกคักเป็นอย่างดี

 

ฤดูกาล 2014 “พังงา เอฟซี” ภายใต้การนำทัพของ “โกไข่” วิชัช เฉียดใกล้รอบแชมเปี้ยนส์ลีก แต่สุดท้ายจากปัญหาภายใน เมื่อครั้งการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลในปีนั้น ทีมบริหารของ “โกไข่” กลับไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่กลับมีอีกฝั่งอ้างสิทธิ์เดิมไปลงคะแนนเสียงแทน ทำให้ “โก่ไข่” ยกทีมบอร์ดบริหารลาออกทั้งชุด

 

หลังจากทีมเกิดสุญญากาศ กลุ่มทุนจากบริษัทเครือมิตรภาพ เข้ามาขอใช้สิทธิ์ในการทำทีมต่อ มีการเปิดตัวยิ่งใหญ่ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “พังงา มิตรภาพ เอฟซี” แต่เดินหน้าได้ไม่นาน ปัญหาตามมาหลังจากเซ็นสัญญานักเตะเข้าทีม ทำการฝึกซ้อมแต่ไม่มีใครได้รับเงินเดือน ต่อมากลุ่มทุนดังกล่าวถอนตัวไปอย่างเงียบๆ

 

“รวยชัย กิตติพรหมวงศ์” ในฐานะนายกสมาคมกีฬาจังหวัดพังงา รับเผือกร้อนเข้ามานั่งเป็นประธานขัดตาทัพ มอบหมายให้ “ธงชัย ทองเชื่อม” เป็นผู้จัดการทีม แต่ผลงานไม่เป็นตามเป้า อันดับที่เคยดีหนีไปอยู่กลุ่มบ๊วย กองเชียร์ที่เคยแน่นกลับค่อยๆ ห่างหาย สปอนเซอร์โบกมือลา ในที่สุด “พังงา เอฟซี” ก็ลบเลือนไปจากลีกอาชีพตั้งแต่ปี 2559

 

ทุกวันนี้เกือบสิบปี “พังงา” กลายเป็นจังหวัดเดียวใน 14 จังหวัดภาคใต้ ไม่มีทีมฟุตบอลระดับอาชีพลงทำการแข่งขันในฤดูกาล 2025/26

 

แต่สำหรับแฟนลูกหนังอาจจะคลายเหงาได้บ้าง เมื่อ สนามกีฬา อบจ.พังงา ถูกใช้เป็นรังเหย้าชั่วคราวของทีมบ้านใกล้เรือนเคียง “ภูเก็ต อันดามัน เอฟซี” ภายหลังสนามสุระกุลของภูเก็ต ปิดปรับปรุง

ส่วนเจ้าของสนามที่แท้จริง รอกันต่อไป

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กสโมสร ลำปาง เอฟซี

 

“อินทรีแห่งขุนเขา” พะเยา เอฟซี

 

เคยเป็นทีมยอดนิยมที่มีคนระดับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” นั่งเป็นประธานสโมสร และเข้ามาชมและเชียร์บ่อยครั้ง เพราะนอกเหนือจากเป็นทีมบ้านเกิดแล้ว คนในครอบครัวยังถือหุ้นในสโมสรอีกด้วย

 

สโมสรฟุตบอลพะเยา ก่อตั้งจดทะเบียนจัดตั้งในนาม บริษัท พะเยา เอฟซี จำกัด  เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554  ด้วยทุน 1 ล้านบาท โดยมีนายมนัสศักดิ์ บุญมีตระกูล ถือหุ้นใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 7 แสนบาท นายหัธราดล มูลเมือง และ นางสุพรรณี สมศรี คนละ 15 เปอร์เซ็นต์ หรือคนละ 1.5 แสนบาท

 

ในปีต่อมามีการเปลี่ยนมือ วันที่ 11 พฤษภาคม 2555  นายอินจันทร์ พรหมเผ่า อดีตผู้ใหญ่บ้านบิดาของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”  เข้ามาถือหุ้น 70 เปอร์เซ็นต์ น.ส.กัญญรัตน์ การหมั่น ผู้ดูแลธุรกิจสวนยางของ “รอ.ธรรมนัส” และ ว่าที่ ร.ต.ประเสริฐ พรหมเผ่า  คนละ 15 เปอร์เซ็นต์

 

ในช่วงเวลาการลุยแข้ง ดิวิชั่น 2 ในเวลานั้น ถือว่าเข้มข้นโดยเฉพาะในโซนเหนือที่มียอดทีมเวลานั้นอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี, ปากน้ำโพ เอนเอสอาร์ยู เอฟซี, พิษณุโลก เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี รวมถึง ลำปาง เอฟซี จากศักยภาพผู้เล่นที่เป็นรองทำให้เป็นเรื่องยากที่ “พะเยา เอฟซี” จะสอดแทรกขึ้นถึงรอบแชมเปี้ยนส์ลีก

 

งบประมาณการทำทีมไม่สอดคล้องกับผลงาน สถานการณ์ด้านการเงินติดลบทุกปี กระทั่งทีมต้องถอย “อินทรีแห่งขุนเขา” พะเยา เอฟซี จึงหายไปจากสารบบทีมอาชีพตั้งแต่ฤดูกาล 2018/19

 

แม้หลังจากนั้นยังส่งทีมเข้าร่วมคัดเลือกในศึก อเมเจอร์ลีก แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แฟนลูกหนัง “อินทรีแห่งขุนเขา” พะเยา เอฟซี จึงยังได้แต่รอต่อไป

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กสโมสร เพชรบุรี เอฟซี

 

“นักสู้วัวทะโมน” เพชรบุรี เอฟซี

 

ก่อตั้งในยุคบุกเบิกของนาม ดิวิชั่น  2 ในปี พ.ศ.2552 โดยมี “ชัยยะ อังกินันท์” นายก อบจ.เพชรบุรี สมัยนั้นเป็นหัวหอก

 

ยุคทองของ “นักสู้วัวทะโมน” เพชรบุรี เอฟซี เกิดขึ้นอย่างเกรียงไกรในยุคที่มีประธานสโมสรชื่อ จเร บุญส่ง เครือญาติขนมหม้อแกงดัง “แม่กิมไล้” เอกลักษณ์เด่นที่สร้างสีสันความฮือฮาคือมอบขนมหม้อแกงให้กับทีมคู่แข่ง นอกเหนือจากการแลกธง พร้อมกับการสร้างชื่อของ “โค้ชคสช.” สมชาย มากมูล กุนซือผู้พาทีมเข้าถึงรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน

 

แต่หลังจาก จเร บุญส่ง เสียชีวิตเมื่อปี 2560 เพชรบุรี เอฟซี ขาดหัวเรือหลัก นักการเมืองดังท้องถิ่นเข้ามาสานงานต่อเพียง 1 ฤดูกาลก็ยุติการทำทีม เหลือเพียงตำนานให้กล่าวขาน

 

ปัจจุบัน เพชรบุรี เอฟซี ยังไม่มีวี่แววเดินหน้าต่อ แต่สถานะนิติบุคคลในนามบริษัทยังคงเปิดดำเนินการอยู่ ในนาม บริษัท สโมสรฟุตบอลเพชรบุรี จำกัด มีชื่อ ธยไชย อ่ำจั่น, อภินันท์ อังกินันท์ และ สังเวียน โตสุวรรณ์ เป็นกรรมการ

 

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์รอบด้านและขาดหัวหอกที่จะกลับมาช่วยฟื้นคืน เพชรบุรี เอฟซี “นักสู้วัวทะโมน” ตัวนี้น่าจะหลับอีกนาน

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กสโมสร นครพนม เอฟซี

 

“เรือไฟพิฆาต” นครพนม เอฟซี

 

ทีมดังริมแม่น้ำโขง “เรือไฟพิฆาต” นครพนม เอฟซี มีแฟนทั้งไทยและฝั่งลาวเข้ามาชมและเชียร์สร้างบรรยากาศอย่างคึกคัก

 

แม้ทีมยังไม่เคยก้าวไปถึงรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพราะมีกระดูกก้อนโตที่ขวางทางในเวลานั้นทั้ง “ลำดวนเพลิง” ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด, นครราชสีมา เอฟซี, “ผีตาโขน” เลย ซิตี้, “ยักษ์แสด” อุดรธานี เอฟซี, อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด รวมถึง “กระรอกขาวจ้าวสนาม” ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด

 

นับจากยุคก่อตั้ง เมื่อปี 2552 โดยมี น.พ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.คนดังของจังหวัดนครพนม มานั่งประธานสโมสร ก่อนเปลี่ยนมือมาเป็นนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต รมช.เกษตรฯ จนกระทั่งมาเป็น ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ล้วนเป็นเส้นทางจากนักการเมือง

 

ต่อมาในยุคของนักธุรกิจดัง “เสี่ยแอร์” พิสิษฐ อ้นมา ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองขึ้นมาเป็นประธานสโมสร นำพาทีมสร้างความสุขให้แฟนบอลอยู่นานหลายปี ท่ามกลางปัญหารุมเร้าโดยเฉพาะความร่วมมือภายในจังหวัด โดยทีมผลงานดีสุดคืออยู่ในอันดับ 5 ก่อนที่จะเริ่มตกต่ำลง เนื่องจากงบประมาณที่ถดถอย ปัญหาภายในและธุรกิจฝั่งไทย-ลาว ที่เต็มมือ

 

“เสี่ยแอร์” พิสิษฐ เลยถอยปล่อยให้ “จักรพงษ์ อ้นมา” น้องชายนั่งเป็นประธานสโมสร สานงานต่อ

 

แต่สุดท้ายปัญหางบประมาณในการสร้างทีม รวมถึงการสนับสนุนเงินจากสมาคมฟุตบอลฯ ในปี 2559 หรือในฤดูกาล 2016 ไม่เป็นไปตามข้อตกลง

กระทั่ง จักรพงศ์ อ้นมา ประธานสโมสรฯ ถอดใจวางมือและไม่มีใครทำต่อจนถึงปัจจุบัน


stadium

author

อนุชิต อินทรสุวรรณ

StadiumTH Content Creator / ผู้เสพติดทุกชนิดกีฬา

โฆษณา