“เมย์” รัชนก อินทนนท์ นกฟีนิกซ์ผู้คืนชีพด้วยรอยยิ้ม

หากจะเอ่ยชื่อนักแบดมินตันในดวงใจ หลายคนต้องคิดถึง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ เป็นชื่อแรก ๆ

ผลงานของยอดนักตบลูกขนไก่ในประเภทหญิงเดี่ยวจาก “บ้านทองหยอด” โดดเด่นมาตั้งแต่ระดับเยาวชน นับจากครองแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน สร้างประวัติศาสตร์นักแบดมินตันไทยที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

และเมื่อเข้าสู่เส้นทางอาชีพ สร้างตำนานเป็นแชมป์โลกหญิงเดี่ยวอายุน้อยที่สุดในวัย 18 ปี ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 2013 ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน โดยโค่นมือ 1 โลก “ลี เสี่ยว เร่ย” อย่างสุดมันส์ 2-1 เกม โดยใช้เวลาการแข่งขันกว่า 1 ชั่วโมง

นับจากแมตซ์ประวัติศาสตร์ครั้งนั้น “เมย์” รัชนก อินทนนท์ กลายเป็นขวัญใจแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ เป็นแรงบันดาลใจไอดอลของคนรุ่นใหม่ ถูกหยิบยกและกล่าวชื่นชมแทบไม่เว้นวัน

หลังประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์โลก เธอเดินหน้าคว้าแชมป์ระดับเวิลด์ทัวร์มามากมาย จนถึงขั้นขึ้นถึงมือ 1 ของโลก เหลือเพียงสองรายการใหญ่ที่ยังไม่เคยก้าวใกล้จุดหมาย นั่นคือ แบดมินตัน ออลอิงแลนด์ รายการเก่าแก่ของประเทศอังกฤษ และ โอลิมปิกเกมส์ ความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน

ปัจจุบันในวัยขึ้นเลขสาม และอยู่ในมือวางอันดับ 10 ของโลก สาวยโสธร “เมย์” รัชนก ยังอยู่ในเส้นทางแบดมินตันอาชีพและเป้าหมายเธอยังเหมือนเดิม อย่างน้อยที่สุดเมื่อร่างกายยังไหว หัวใจยังมีความสุขในการเล่น โอลิมปิก แอลเอ 2028 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เรื่องที่เกินเอื้อม

จริงอยู่ที่ 2-3 ปีหลังมานี้ รัชนก เจอกับผลงานผิดหวังอยู่บ่อยครั้ง จนถึงขั้นเคยเปรย ๆ เรื่องเลิกเล่นเลยทีเดียว แต่หากไล่เรียงกันจริง ๆ แล้ว เธอเหมือนกับนกฟีนิกซ์ที่คืนชีพจากเถ้าถ่านได้ทุกครั้ง ต่อให้ไม่ได้แชมป์แต่ก็ต้องมีเข้าถึงรอบชิงฯ ให้แฟน ๆ ได้เลือดลมสูบฉีดอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในจุดเปลี่ยนคือเรื่องวิธีคิดกับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น และการรักษาสมดุลระหว่างความเป็นนักกีฬาและการใช้ชีวิตหาความสุขแบบคนธรรมดาทั่วไป

ถอยออกจากเรื่องเดิม ๆ เพื่อหาสมดุลให้ชีวิต

ย้อนไปในปี 2023 ระหว่างการแข่งขัน ฮ่องกง โอเพ่น รอบสอง ที่พบกับ โก๊ะ จิน เหว่ย “เมย์” รัชนก บาดเจ็บหนักเอ็นข้อเท้าฉีก ทำให้ต้องถอนตัวการแข่งขันทุกรายการในปีนั้น ก่อนกลับมาเล่นในเดือนมกราคมปีถัดมา ในรายการ มาเลเซีย โอเพ่น พร้อม ๆ กับที่มีข่าวว่าเธอให้สัมภาษณ์เรื่องอาจจะลงเล่นเป็นปีสุดท้าย ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่น ซึ่งผลการแข่งขันยิ่งทำให้ "เมย์" ทุกข์ใจ โดยเฉพาะหนึ่งในรายการเป้าหมายคือ ออลอิงแลนด์ ที่ตกรอบแรก ตามด้วยสวิสโอเพ่น  

"เมย์" เปิดเผยในภายหลังว่า ผลงานจาก 2 รายการนั้น ทำให้เธอไม่อยากทำอะไรต่อไปแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณโค้ชและทีมงานที่ช่วยปลอบใจ รวมทั้งการได้เอาตัวเองออกห่างจากสนามแบดหนึ่งวัน เพื่อหาความสุขให้ชีวิต และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอกลับมามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแง่บวก พร้อมสู้ต่อไป ก่อนจะได้ความมั่นใจในรายการถัดมาทันที คือ สเปน มาสเตอร์ส ที่คว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะรุ่นน้องร่วมชาติชื่อเล่นเดียวกันคือ "เมซ้าย" ศุภนิดา เกตุทอง

แม้ผลงานหลังจากนั้น "เมย์" จะกลับสู่วังวนเดิมคือไม่สามารถเข้าไปลึกเกินกว่ารอบ 2 แต่ทัศนคติในการรับมือเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอขอสู้เต็มที่ในทุกทัวร์นาเมนต์ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่เสียใจ เพราะเป้าหมายคือรักษาสภาพร่างกายเพื่อ ปารีส เกมส์

โอลิมปิกที่ต่างจากทุกครั้ง

โอลิมปิกสมัยที่ 4 ของ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปด้วยภาวะไร้ความกดดัน เพราะถึงจะเป็นหนึ่งในเกียรติยศที่เธอยังไขว่คว้าไม่สำเร็จ แต่ปณิธานที่ตัวเธอตั้งเอาไว้ นั่นคือขอเล่นอย่างมีความสุข และไม่มีอาการบาดเจ็บก็เพียงพอแล้ว ซึ่งแม้จะต้องอยู่กลุ่มเดียวกับ ลีแอนน์ ตัน จาก เบลเยียม และ "ไท่ ซื่อ หยิง" อดีตมือ 1 ของโลกชาวไชนีสไทเปที่เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท แต่ "เมย์" ก็สามารถเก็บชัยชนะได้ 2 แมตช์รวด เป็นจ่าฝูงของกลุ่มและผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ด้วยอาการบาดเจ็บที่กำเริบ บวกกับความเหนียวแน่นของ “เกรกอเรีย มาริสก้า ตุนจุง” จากอินโดนีเซีย ทำให้โอลิมปิกของ "เมย์" จบที่ตรงนี้ ไม่ถึงขั้นได้เข้าไปลุ้นเหรียญ ก่อนที่จะพักฟื้นฟูร่างกายและกลับมาแข่งอีกครั้งในรายการ ไชน่า โอเพ่น ซึ่งถ้าเราสังเกตกันดี ๆ ถึงแม้ผลงานของเธออาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนกันตอนที่แจ้งเกิด แต่ทุกช็อตที่เล่น ทุกแมตช์ที่ลงแข่งขัน นับจากที่ได้แชมป์สเปน มาสเตอร์ส "เมย์" ดูผ่อนคลาย และไม่มีอาการเครียดออกมาให้เห็น รวมทั้งเกือบจะได้แชมป์รายการที่ 2 เมื่อเข้าชิงอาร์กติก โอเพ่น แต่แพ้ หาน เยี่ย ของจีน อย่างไรก็ตามตัวเธอยกให้นี่เป็นหนึ่งในความสำเร็จของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว

ขวัญใจคนไทยตลอดกาล กับความสดใสที่ไม่เคยหายไป

มาถึงในปี 2025 เรียกได้ว่า "เมย์" เริ่มต้นปีได้ดีที่สุดในรอบ 3 ปีหลัง เมื่อเข้าถึงรอบตัดเชือกตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์แรก (มาเลเซีย โอเพ่น) ก่อนจะคว้าแชมป์ได้สำเร็จใน 2 สัปดาห์ต่อมา คือ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ตามด้วยเข้าถึงรอบก่อนรอง ไทยแลนด์ โอเพ่น และเข้ารอบตัดเชือก มาเลเซีย มาสเตอร์ส ในช่วงกลางปี ซึ่งในช่วงแข่งไทยแลนด์ โอเพ่น "เมย์" ประกาศเป้าหมายของตัวเองในปีนี้นอกจากติดท็อป 8 ของโลกว่า "อยากคว้าแชมป์โลกอีกสมัย และคว้าตั๋วแข่ง เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ช่วงปลายปี"

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา "เมย์" เจอกับภาวะผลงานไม่เป็นใจอีกครั้ง เมื่อตกรอบแรก 3 รายการ ทั้ง เจแปน โอเพ่น, ไชน่า โอเพ่น และชิงแชมป์โลก ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการที่เธอตั้งใจมากที่สุด ดังนั้นความผิดหวังจึงเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ "เมย์" แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เข้มแข็งอย่างที่เราเห็นมาตลอด

‘ความสดใสในใจเราไม่ได้หายไปไหน’

 

มันแค่ถูกเก็บไว้ลึกๆ บางครั้งเราต้องใส่หน้ากากเข้มแข็งเพื่อปกป้องตัวเองจากโลกภายนอก

 

ดังนั้นอย่าลืมหยิบรอยยิ้มและความสดใสนั้นขึ้นมาใช้บ้างเพราะมันคือพลังและความหวัง ที่จะช่วยให้เราเดินต่อไปได้

 

แม้ในวันที่เหนื่อยล้าหรือท้อแท้ที่สุด

นี่คือส่วนหนึ่งของข้อความที่ "เมย์" โพสต์เอาไว้ในโซเชียลของตัวเอง ซึ่งไม่เพียงแค่ปลอบใจตัวเองเท่านั้น แต่ส่งพลังใจให้คนอื่น ๆ ที่กำลังท้อแท้ด้วยเช่นกัน

เส้นทางต่อไปของ "เมย์" คือทัวร์นาเมนต์ระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 “ฮ่องกง โอเพ่น 2025” ระหว่างวันที่ 9-14 กันยายน พบกับ “ราชีต้า สารี ซานโตส รามราช” นักแบดมินตันมือ 40 โลกจากอินเดีย

ทุกทัวร์นาเมนต์ในช่วงปลายปี ชัยชนะทุกนัดยิ่งทวีความสำคัญ นอกจากมืออันดับโลกแล้ว ยังต้องทำคะแนนติด 1 ใน 8 เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันศึกใหญ่ปิดท้ายปี “เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์” ชิงเงินรางวัลมหาศาลถึง  3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 96 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 17-21 ธันวาคม ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน

มาติดตามส่งกำลังใจให้ยอดนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือดีที่สุด ที่ประเทศไทยเคยมี ให้กลับมาประสบความสำเร็จสูงสุดอีกครั้ง

ไม่แชมป์ก็ชิง! รวมผลงาน "เมย์" รัชนก อินทนนท์ 2008-2025 (นับเฉพาะรายที่เข้าชิงชนะเลิศประเภทบุคคล)

2008

แชมป์ - ลาว อินเตอร์ฯ

2009

แชมป์ - เยาวชนโลก, เวียดนาม อินเตอร์ฯ

รองแชมป์ - ซีเกมส์, มาเลเซีย อินเตอร์ฯ

2010

แชมป์ - เยาวชนโลก, เวียดนาม โอเพ่น, อินโดนีเซีย กรังด์ปรีซ์ โกลด์, ปุ้มปุ้ย อินเตอร์ฯ

2011

แชมป์ - เยาวชนโลก, อินเดีย กรังด์ปรีซ์ โกลด์

รองแชมป์ - ไชนีส ไทเป โอเพ่น

2012

รองแชมป์ - ไทยแลนด์ โอเพ่น, ไชน่า โอเพ่น

2013

แชมป์ - ชิงแชมป์โลก, อินเดีย โอเพ่น, ไทยแลนด์ โอเพ่น    

รองแชมป์ - ออลอิงแลนด์, สวิส โอเพ่น

2014

รองแชมป์ - โคเรีย โอเพ่น, อินโดนีเซีย โอเพ่น

2015

แชมป์ - ชิงแชมป์เอเชีย, อินโดนีเซีย โอเพ่น

รองแชมป์ - อินเดีย โอเพ่น

2016

แชมป์ - อินเดีย โอเพ่น, มาเลเซีย โอเพ่น, สิงคโปร์ โอเพ่น, ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส

2017

แชมป์ - เดนมาร์ก โอเพ่น, ไทยแลนด์ โอเพ่น, นิวซีแลนด์ โอเพ่น

รองแชมป์ - ออลอิงแลนด์

2018

แชมป์ - มาเลเซีย มาสเตอร์ส

รองแชมป์ - ฮ่องกง โอเพ่น

2019

แชมป์ - มาเลเซีย มาสเตอร์ส, อินเดีย โอเพ่น

รองแชมป์ - เยอรมัน โอเพ่น, ไทยแลนด์ โอเพ่น, โคเรีย โอเพ่น, ฮ่องกง โอเพ่น

2020

แชมป์ - อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

2021

รองแชมป์ - อินโดนีเซีย โอเพ่น

2022

แชมป์ - มาเลเซีย โอเพ่น

รองแชมป์ - อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

2023

รองแชมป์ - แคนาดา โอเพ่น

2024

แชมป์ - สเปน มาสเตอร์ส

รองแชมป์ - อาร์กติก โอเพ่น

2025

แชมป์ - อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส