31 สิงหาคม 2568
ย่างเข้าเดือน กันยายน ยังมีโปรแกรมเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง โดยศึกลูกยางชิงแชมป์โลกได้สร้างความประทับใจไปจนถึงวันที่ 7 กันยายน ในนัดชิงชนะเลิศ แม้สาวไทยยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่มหกรรมกีฬาระดับโลกเช่นนี้ก็น่าติดตามไม่น้อย
ไฮไลต์สำคัญในเดือน 9 ของการเชียร์ทีมชาติไทย คือ การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51” ที่สนามกลีบบัว จ.กาญจนบุรี รวมถึงแบดมินตัน ที่คึกคักตลอดเดือน ตามติดและให้กำลังใจแฟนนักกีฬาชาวไทยจากโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดได้ที่นี่
กลับมาอีกครั้ง สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ 51 รายการที่ยิ่งใหญ่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชีย รองจาก “เมอร์เดก้า” ประเทศมาเลเซีย
การแข่งขันครั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ปาดหน้าแซง สงขลา อีกจังหวัดที่เสนอตัวและถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในช่วงก่อนหน้านี้
ถือเป็นครั้งแรกของ “กาญจนบุรี” ที่ได้รับหน้าที่จัดทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ สอดคล้องกับนโยบายของสมาคมฯ ในการกระจายฟุตบอลสู่หัวเมือง พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับการแข่งขันระดับ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ในอนาคต
หลังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ โดยกำหนดระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือ สนามกลีบบัว สังเวียนกีฬาที่มีความจุ 7,800 ที่นั่ง ทางจังหวัดและ อบจ.นำโดยนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกอบจ.ประสานปรับปรุงสนาม เพื่อเตรียมพร้อมรับแข้ง 4 ชาติลงทำศึก
โดย 4 ชาติรับเทียบเชิญ ประกอบด้วย ทีมชาติอิรัก อันดับ 58 ของโลก ทีมชาติฮ่องกง อันดับ 147 ของโลก ทีมชาติฟิจิ อันดับ 150 ของโลก และเจ้าภาพในฐานะแชมป์เก่า ทีมชาติไทย อันดับ 102 ของโลกโดยเป็นการจัดการแข่งขันช่วงฟีฟ่าเดย์ และมีผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง โดยมี “วีเออาร์” ช่วยตัดสินทุกนัด ตอบรับการแข่งขันระดับ “เอ แมตซ์” ภายใต้การรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า”
พร้อมกันนี้ทาง “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือ “ช้างศึก” ออกประกาศรายชื่อนักเตะ 23 คน ประกอบด้วย
ประตู
ปฏิวัติ คำไหม (ทรู แบงค็อก), สรานนท์ อนุรินทร์ (บีจี ปทุมฯ), กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี)
กองหลัง
ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ), สันติภาพ จันทร์หง่อม (ชลบุรี), ณัฐพงษ์ สายริยา (ชลบุรี), สุพรรณ ทองสงค์ (แบงค็อก), อภิสิทธิ์ โสรฎา (ราชบุรี), ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ (เมืองทอง), ศฤงคาร พรหมสุภะ (สุโขทัย), นิโคลัส มิคเกลสัน (เอลเวอร์ส เบิร์ก)
กองกลาง
ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุมฯ), เอกนิษฐ์ ปัญญา (บีจี ปทุม), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (บีจี ปทุม), พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บุรีรัมย์), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (การท่าเรือ), วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (การท่าเรือ), เบน เดวิส (อุทัยธานี), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (แบงค็อก), สุภโชค สารชาติ (ซัปโปโร)
กองหน้า
ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์), ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ) และ ปรเมศย์ อาจวิไล (จูบิโล)
โดยทั้งหมดถูกเรียกมารวมพลเข้าแคมป์ฝึกซ้อมตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กันยายน หลังเสร็จศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2025/26 นัดที่ 3
เป้าหมายของ “อิชิอิ” คือการรักษาแชมป์ หลังพาทีมชาติไทยชนะเลิศในฟุตบอล “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 จังหวัดสงขลา ในปีที่ผ่านมา และเพื่อทำคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ปัจจุบันอยู่อันดับ 102 ของโลกให้ดียิ่งขึ้น โดย “โค้ชมาซะ” ผ่านการคุมทีมชาติไทยมาแล้ว 26 นัด ชนะ 13 เสมอ 6 และแพ้ 7 นัด
โปรแกรมการแข่งขัน
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568
คู่แรก เวลา 16.30 น. อิรัก พบ ฮ่องกง
คู่สอง เวลา 20.00 น. ไทย พบ ฟิจิ
จากผลนัดแรก ผู้ชนะในแต่ละคู่เข้าชิงชนะเลิศ ผู้แพ้ในแต่ละคู่ชิงอันดับ 3
วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568
คู่แรก เวลา 16.30 น. นัดชิงอันดับ 3
คู่สอง เวลา 20.00 น. นัดชิงชนะเลิศ
สำหรับแฟนฟุตบอลต่างจังหวัดสามารถเดินทางสู่เมืองกาญจน์ได้โดยสะดวกทั้งทางรถไฟ และรถยนต์ถนนสายใหม่ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยสามารถซื้อบัตรเข้าชมผ่านระบบออนไลน์ทาง แอปพลิเคชั่น The Concert สะดวกกว่าไปซื้อหน้าสนามในวันแข่งขันซึ่งไม่สามารถรับประกันได้ว่ามีที่นั่งว่างหรือไม่
หลังเสร็จศึกชิงแชมป์โลกปลายเดือนสิงหาคม มาถึงเดือนกันยายน การแข่งขันแบดมินตัน ยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยรายการระดับซูเปอร์ 100 “บาโอจิ ไชน่า มาสเตอร์ส” ระหว่างวันที่ 2-7 กันยายน ต่อด้วยรายการระดับเวิลด์ทัวร์ 500 “ฮ่องกง โอเพ่น” ระหว่างวันที่ 9-14 กันยายนซึ่งแข่งพร้อมกับเวียดนามโอเพ่น ที่เป็นระดับซูเปอร์ 100
ตามด้วยรายการ “หลี่หนิง ไชน่า มาสเตอร์” ที่เมืองเสิ่นเจิ้น รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัล 1,250,000 เหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 16-21 กันยายน เวลาเดียวกับศึกอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ที่เป็นระดับซูเปอร์ 100 ก่อนมาปิดท้ายของเดือนด้วยรายการ “โคเรีย โอเพ่น” รายการระดับซูเปอร์ 500 ชิงเงินรางวัล 450,000 เหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 23-28 กันยายนที่เกาหลีใต้ และมีรายการเกาสง มาสเตอร์ส ที่ไชนีสไทเป ซึ่งเป็นระดับซูเปอร์ 100 จัดแข่งในเวลาเดียวกัน
ทุกรายการแม้ยังไม่มีการจับสลากแบ่งสาย แต่เชื่อว่านักแบดมินตันโดยเฉพาะในกลุ่มเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมถึง ไทย ยื่นเข้าร่วมการแข่งขันอย่างคึกคักแน่นอน เพราะจะเป็นช่วงโค้งสำคัญในการเก็บคะแนน เพื่อเป็น 1 ใน 8 ที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมศึก “เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์” รายการใหญ่ส่งท้ายปีในเดือนธันวาคม
นักกีฬาไทยกลุ่มความหวังในการเข้ารอบสุดท้ายแน่นอนนำโดย ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และหญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และ “ครีม” บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ที่ฟอร์มกลับมามั่นใจอีกครั้ง รวมทั้ง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่ยังต้องลุ้นเก็บคะแนน หลังอกหักตกรอบแรกในรายการชิงแชมป์โลก โดยการพ่ายพลิกให้ เหงียน ทุยลินห์ มือ 23 ของโลกจากเวียดนาม
ที่สำคัญคู่ผสมความหวังยังต้องจับตา“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน ว่าจะทำผลงานได้ดีเพียงใด หลังจากอกหักในรายการชิงแชมป์โลก ตกรอบสองหลังพ่ายพลิกให้กับคู่ชาวญี่ปุ่น
นับจากนี้ทุกชัยชนะและทุกแชมป์มีความสำคัญในการเก็บคะแนน เพื่อคัดอันดับ 1-8 ในแต่ละประเภท เข้ารอบสุดท้ายในศึก “เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์” ที่ประเทศจีน ในเดือนธันวาคม
ศึกดวลความเร็วรถสูตรหนึ่ง มีแข่งขัน 2 สนาม เริ่มจาก อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่มอนซ่า เซอร์กิต ประเทศอิตาลี วันที่ 5-7 กันยายน สนามนี้จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสนามที่ "อเล็กซานเดอร์ อัลบอน" นักแข่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ของทีมวิลเลียมส์ มักจะทำผลงานได้ดี โดย 2 ฤดูกาลล่าสุดจบใน 10 อันดับแรก และยังเคยคว้าอันดับ 6 กับทีมเร้ดบูลในปี 2019 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเจ้าตัวในเอฟวันอีกด้วย
ขณะเดียวกันสนามนี้ ในช่วงวันที่ 6-7 กันยายน "เติ้น" ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักขับดาวรุ่งของไทยสังกัดทีมคัมโปสในศึกฟอร์มูล่า ทรี ยังมีโปรแกรมลงแข่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลอีกด้วย
หลังจากนั้น วันที่ 19-21 กันยายน ข้ามไปแข่งกันต่อในรายการ อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ ที่ บากู ซิตี้ เซอร์กิต ประเทศอาเซอร์ไบจาน ซึ่งรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว อัลบอน คว้าอันดับ 7 ไปครอง
ส่วน โมโต จีพี มีแข่ง 3 สนาม เริ่มจาก กาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ที่บาร์เซโลน่า กาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ที่เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า กาตาลุนย่า ประเทศสเปน วันที่ 5-7 กันยายน ตามด้วย ซานมารีโน และริมินี่ ริเวียรา กรังด์ปรีซ์ ที่มิซาโน่ เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี่ วันที่ 12-14 กันยายน และปิดท้ายด้วย เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ที่โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 26-28 กันยายน ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักแข่งไทยของทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ จะฟื้นจากอาการบาดเจ็บกลับมาได้หรือไม่ หลังพักยาวมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
กอล์ฟหญิง แอลพีจีเอ ทัวร์ มีให้ติดตามกัน 2 รายการ เริ่มจาก โครเกอร์ ควีน ซิตี้ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สนามทีพีซี ริเวอร์ส เบลนด์ รัฐโอไฮโอ วันที่ 11-14 กันยายน มี "จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล มือ 1 ของโลกชาวไทยลงแข่งขัน ร่วมด้วย "พราว" ชเนตตี วรรณแสน, "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ, "จัสมิน" ธิฎาภา สุวัณณะปุระ, "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, "เปียโน" อาภิชญา ยุบล, "แจน" วิชาณี มีชัย, "แหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ, และ"ว่าน" จารวี บุญจันทร์
ส่วนอีกรายการคือ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอส์ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่พินนาเคิล คันทรี คลับ รัฐอาร์คันซอส์ วันที่ 19-21 กันยายน ซึ่งรายการนี้ "จัสมิน" ธิฎาภา สุวัณณะปุระ เป็นแชมป์เก่า ขณะที่ "จีโน่" อาฒยา เคยคว้าแชมป์ได้ในปี 2022 เช่นกัน
TAG ที่เกี่ยวข้อง