ผ่าขุมกำลัง-ดาวดังทีมเต็ง วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025

ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับมหกรรมศึกลูกยางสุดยิ่งใหญ่ในสยามประเทศ วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน ใน 4 จังหวัดคือ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา และสนามหลัก ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร

สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ เอฟไอวีบี ประกาศรายชื่อนักกีฬาจาก 32 ทีมที่ลงแข่งขันในรอบสุดท้ายมีรายชื่อได้ไม่เกินจำนวน 25 คนต่อทีม ก่อนส่งไม้ต่อให้ฝ่ายควบคุมจัดการแข่งขันทำการตรวจสอบเอกสาร รายชื่อ สีชุดแข่งขัน โดยจะถูกตัดเหลือน้อยสุดไม่ต่ำกว่า 12 คน และมากสุดไม่เกิน 14 คน

ในส่วนของทีมชาติไทยจำนวน 25 รายชื่อ ล้วนเป็นชุดเดียวกับที่ลุยศึกเนชั่นลีกส์ 2025 ตัวหลักยังเป็น “กัปตันเพียว” อัจฉราพร คงยศ ตัวเซตมากประสบการณ์ “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ บอลเร็ว “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง หัวเสา “บีม” พิมพิชญา ก๊กรัมย์ และลิเบอโร่จอมเก๋า “แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย

พร้อมกับการกลับมามีชื่ออีกครั้งของ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี หลังมีอาการเจ็บหัวไหล่ จนต้องพักในเนชั่นส์ลีกสนามสุดท้าย  “เตย” หัตถยา บำรุงสุข รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าจนหายดีมีโอกาสลงไปเรียกความฟิตใน ซี วี ลีก รวมไปถึง “ไก่”  วิมลรัตน์ ทะนะพันธ์ รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วในเกมเนชั่นส์ลีก ทั้งหมดได้ลงทดลองระบบในศึก ซี วี ลีก สนามเวียดนาม แต่จะยังไม่มี “น้องสอง” วิภาวี ศรีทอง ที่เจ็บยาวตั้งแต่ไปเล่นลีกที่เกาหลีใต้

พร้อมปล่อยตัวดาวรุ่งไปรับใช้ชาติในชุด U21 ชิงแชมป์โลก ไม่ว่าจะเป็น “เอย” กัลยรัตน์ คำวงษ์, “เฟิร์น” วริศรา สีทาเลิศ และ “บีม” กาญจนา ศรีใสแก้ว โดยที่ “เฟิร์น” วริศรา สีทาเลิศ อยู่ที่การตัดสินใจนาทีสุดท้ายของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ว่าจะเรียกกลับมาเป็นอะไหล่ตัวทีเด็ดของทีมชาติชุดใหญ่ในการสู้ศึกชิงแชมป์โลกหรือไม่

สำหรับทีมเต็งในการขึ้นบัลลังก์สู่แชมป์โลก ต่างขนขุมกำลังหลักมาครบ นำโดย เซอร์เบีย แชมป์เก่า และเป็นแชมป์โลกสองสมัยซ้อน ทีมอันดับ 9 ของโลกมีการเรียกตัว มาจา อ็อกเยโนวิช เซตเตอร์ตัวเก่งกัปตันทีมในชุดคว้าแชมป์โลกสมัยแรกในปี 2018 แม้ว่าเจ้าตัวเคยประกาศรีไทร์ไปแล้วหลังจากเสร็จศึก โอลิมปิก “ปารีส เกมส์ 2024” กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมี มินา โปโปวิช ตัวหลักในการร่วมกันคว้าแชมป์โลกในปี 2022 และทั้งคู่จะกลับมาร่วมล่าแชมป์ 3 สมัยซ้อนกับกุนซือ โซรัน เทอร์ซิช

ส่วนคู่ปรับสำคัญ สหรัฐอเมริกา ทีมอันดับ 7 ของโลก เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกปารีสเกมส์ จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ เรียกตัวหลักในชุดโอลิมปิกและไม่มีรายชื่อลุยเนชั่นลีกส์ กลับมาคืนทีมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เซียก้า อ็อกโบกู ดาวตบหัวเสาตัวทำคะแนน คาเลีย ลาเนียร์ และ อเล็กซานดร้า ฟรานติ กลับเข้ามาร่วมงานกับโค้ช เอริก ซัลลิแวน

ฝั่งขาใหญ่แห่งเอเชีย มังกรจีน ทีมอันดับ 4 ของโลก สังเวียนนี้จะมี “ซ้ายมหากาฬ” หลี่ หยิงหยิง ดาวตบหัวเสาผู้ทำคะแนนสูงสุดกลับมาเสริมแกร่งให้กับทีม ผนึกกับกัปตันทีมหน้าไทย กง เซียงหยู และ หวัง หยวนหยวน เป็นตัวหลักในชุดปัจจุบัน

ศึกรายการชิงแชมป์โลกครั้งนี้ จีน จัดเต็มแน่นอน หลังจากอกหักใน เนชั่นส์ ลีก รอบสุดท้าย เมื่อไปพ่ายพลิกให้ โปแลนด์ 2-3 เซต ตก 8 ทีมแบบพลิกล็อก ส่วน โปแลนด์ ทะลุไปถึงรอบตัดเชือก ก่อนไปแพ้ อิตาลี

ทางด้านทีมม้ามืด ตุรกี ทีมอันดับ 6 ของโลก นำโดยกุนซือ ดานิเอเล่ ซานตาเรลลี่ เรียกตัว เอดา เออร์เดม ตัวหลักกัปตันทีมมาอีกครั้ง หลังอนุญาตให้พักในศึกเนชั่นลีกส์ ผนึกกับ เซห์รา กูเนส จอมเก๋าวัย 38 และ เมลิสซา วาร์กัส มือตบที่สร้างภาพลักษณ์ศีรษะโล้นในศึกโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา และดาวตบตัวติสต์ เอบราห์ คาราเคิร์ต ทำให้ ตุรกี กลับมาแข็งแกร่ง อาจสร้างเซอร์ไพรส์เหมือนในปี 2023 ที่คว้าแชมป์ยุโรป และแชมป์เนชั่นลีกส์ในปีเดียวกัน

สำหรับ บราซิล ทีมอันดับ 2 ของโลก รองแชมป์เนชั่นส์ลีก 2025 เจ้าของผลงานเหรียญทองแดงปารีสเกมส์ เป็นอีกทีมที่ประมาทไม่ได้ นอกเหนือจากดาวตบขุมกำลังหลักอย่าง กาเบรียลา “กาบี้” กิมาเรส  ยังมี อนา คริสตินา ซูซ่า ตัวตบหัวเสาที่ติดทีมชาติมาตั้งแต่อายุ 16 รวมถึง โรซามาเรีย มอนติเบลเลอร์  และเซ็ตเตอร์อย่าง มาคริส คาร์เนโร ยังจะได้ตัว เนย์มี นูเนส ตัวรับอิสระฝีมือดี กลับมาเสริมทัพ หลังจากขอไปพักผ่อนหลังคลอดลูก

แต่ทีมที่น่ากลัวและมีความลงตัว แม้ไม่มีการเสริมใครเพิ่ม คือ อิตาลี ทีมแชมป์โอลิมปิก ทีมอันดับ 1 ของโลก และล่าสุดครองแชมป์เนชั่นส์ลีก 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ไม่มีการเรียกใครมาสร้างเซอร์ไพรส์เสริมทีม แต่ยังคงใช้ผู้เล่นชุดแกร่งในเนชั่นส์ลีก มาแข่งชิงแชมป์โลกที่ประเทศไทยในฐานะเต็ง 1  โดยในรายชื่อ 13 คนของทีม มีรายชื่อชุดคว้าแชมป์โอลิมปิก ปารีสเกมส์ มาแล้ว โดยมีตัวตึงอย่าง เปาล่า อีโกนู ดาวตบผิวสี  โมนิกา เด เจนนาโร ตัวรับอิสระยอดเยี่ยมและผู้เล่นทรงคุณค่าจากเนชั่นส์ลีก และ อันนา ดาเนซี กัปตันทีม

ปิดท้ายด้วยทีมขวัญใจกองเชียร์ชาวไทย ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 5 ของโลก ทีมที่เคยสร้างรอยร้าวให้ชาติไทยในยุคคัดเลือกโอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ 2012 ก่อนจะเลือนลางความชอกช้ำนั้นไปตามกาลเวลา ยังคงวางให้ มายู อิชิกาวะ เป็นกับตันทีม และยังมีตัวรับอิสระโคตรเหนียวอย่าง มานามิ โคจิมะ ผนึกกับดาวตบ ยูกิโกะ วาดะ และ อยากะ อะรากิ เป็นผู้เล่นหลักของทีม

ในขณะที่สาวไทยเจ้าภาพ ล่าสุดอยู่ในอันดับ 20 ของโลก แม้ไม่ติดโผในการเป็นทีมลุ้นแชมป์ แต่เป้าหมายคือการเข้ารอบ 16 ทีม โดย ไทย อยู่ใน กลุ่ม เอ ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และ อียิปต์

เมื่อดูตามอันดับมีเพียง เนเธอร์แลนด์ ทีมอันดับ 8 ของโลก ที่อยู่เหนือกว่าไทย ในฐานะทีมอันดับ  20 แต่ก็ต้องไม่ประมาท สวีเดน ทีมอันดับ 23 และ อียิปต์ ทีมอันดับ 52 ของโลก 

นอกเหนือจากการติดตามทีมเต็งต้นสังกัดดาวตบดัง ยังต้องให้กำลังใจลูกยางสาวไทยบรรลุเป้าหมายแรกในการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ทำอันดับให้ดีที่สุดในศึกชิงแชมป์โลก