stadium

บทเรียนจากซีวีลีก 2025 สู่รายการใหญ่ที่รออยู่ในปีนี้

11 สิงหาคม 2568

ในที่สุดความหวั่นใจว่า ทีมลูกยางสาว “เวียดนาม” จะโค่นไทยลงได้สักวันก็เกิดขึ้นแล้ว

 

เมื่อเวียดนามเอาชนะสาวไทยที่เรียกได้ว่าชุดใหญ่ไป 3-2 เซต คว้าแชมป์ ซี วี ลีก 2025 ไปครองเป็นสมัยแรก หลังจากตามไทยอยู่ 0-2 เซต ก่อนเก็บ 3 เซตรวดคว้าชัยอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นชัยชนะเหนือทีมชาติไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 

ก่อนเกมนี้ไทยอยู่ในอันดับ 20 ของโลก มีอยู่ 160.42 ในขณะที่ เวียดนาม กวาดคะแนนจากรายการนี้ขึ้นมาจี้ติดทีมสาวไทยขึ้นมาอยู่ในอันดับ 21 มีอยู่ 155.79 คะแนน ถือว่าเป็นอันดับที่ใกล้กันที่สุด

 

ย้อนกลับไปดูผลงานสนามแรก เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1-3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนการแข่งขันกองเชียร์ใจชื้นเมื่อ “เตย” หัตถยา บำรุงสุข ที่หายไปนานจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า กลับมาผนึกกำลังแตะมือกับ “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง ได้อีกครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตามภาพรวมผลงานเรียกว่าไม่เป็นไปตามคาดจากการเล่นในบ้าน เพราะสาวไทยเสียเชตให้กับคู่แข่งทุกนัดแม้ระดับทีมจะเหนือกว่า โดยเป็นนัดแรก เสียเซตให้ ฟิลิปปินส์ ครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ ซี วี ลีก ปี 2019 ก่อนเอาชนะมาได้ 3-1

 

นัดที่สองก็ไม่วายฉายหนังม้วนเดิมพ่ายให้ อินโดนีเซีย ในเชตแรกอีกครั้งและพลิกเอาชนะได้ด้วยสกอร์เดิม 3-1 เซต

 

มาถึงนัดสำคัญชี้ชะตาแชมป์สนามแรกในการพบกับ เวียดนาม สถานการณ์ก็ไม่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นความกดดันหรือคู่แข่งที่เตรียมตัวมาดีกว่า สาวไทยเสียเซตแรกเช่นเดิม ก่อนจะบดบี้ตีกันยาวจนถึง 5 เซต และจบลงด้วยชัยชนะ 3-2 เซต เป็นสัญญาณให้เห็นว่า เวียดนาม ขยับใกล้มาอีกระดับแล้ว

 

โดยที่ “ตู้เย็น” เหงียน ทิ บิค เตวียน ตบระเบิดทำไปถึง 33 คะแนน พร้อมรับตำแหน่ง บีหลังยอดเยี่ยมจากการแข่งขัน ส่วนตัวแม่อย่าง “4ที” ทราน ธิ ทาน ทุย ทำได้ 20 แต้ม

 

ฟากฝั่งนักตบสาวไทยในยุคที่เรียกว่า “ควีนบีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ฟอร์มกำลังปังสุดทำไป 28 คะแนนในเกมชิงชนะเลิศ พร้อมคว้าแชมป์สนามแรก ซี วี ลีก 2025

 

นอกจากนี้ “บีม” พิมพิชญา ก๊กรัมย์ ยังคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า ส่วนอีก 3 รางวัลของสาวไทยยังมี หัวเสา “เพียว” อัจฉราพร คงยศ, บอลเร็ว “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง และตัวเซต “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์

 

 

มาถึงสนามที่ 9 สังเวียนสุดท้ายของศึก ซี วี ลีก 2025 ไทย ยังใช้ผู้เล่นชุดใหญ่และจะเป็นชุดชิงแชมป์โลกในปลายเดือนนี้

 

โดยไลน์อัพ 6 คนแรกของทีมลูกยางสาวไทยถือว่าเป็นชุดใหญ่ในรอบหลายเดือน กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง นำโดย “กัปตันเพียว”อัจฉราพร คงยศ, ตัวตบอย่าง “บีม” พิมพิชญา ก๊กรัมย์ รวมทั้ง “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี บอลเร็ว “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง ตัวเซต “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ และ “ลิเบอโร่” ปิยะนุช แป้นน้อย

 

เปิดฉาก 2 เซตแรก ดูราวเป็นงานง่ายเมื่อสาวไทยเอาชนะไปก่อน 25-17 และ 26-24 แต่สุดท้าย เวียดนาม มากดเอาคืน 3 เซตรวด 25-15, 25-22 และ 16-14 ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยแรก

 

มองผ่านอาจคิดว่าไม่เป็นไร แพ้ชนะเป็นธรรมดา แต่เมื่อมองเนื้อในไทยคือชุดใหญ่ที่จะลงแข่งขันชิงแชมป์โลก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ทีมชาติไทยชุดนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักตบ ในขณะเดียวกัน เวียดนาม ก็แกร่งขึ้นมากและมีความมุ่งมั่นที่จะโค่นไทยให้ได้

 

สำหรับ เวียดนาม ในศึกอาเซียน ก่อนหน้านี้เกือบ 30 ปี ไม่เคยเอาชนะสาวไทยทีมชาติชุดใหญ่ได้เลย นับจากเข้ามาแข่งขันวอลเลย์บอลซีเกมส์ครั้งแรกปี 1997 ที่จาการ์ตา คว้าเหรียญทองแดง แม้จะเล่นในบ้านจนถึงซีเกมส์ครั้งล่าสุดก็ยังแพ้ไทย

 

ส่วนระดับเอเชีย เวียดนาม เข้าร่วมแข่งชิงแชมป์เอเชียปี 1991 ที่ไทย เป็นครั้งแรก และทำผลงานดีสุดคืออันดับ 4 ในการแข่งขันครั้งล่าสุดปี 2023 ที่โคราช แและในเอเชียนเกมส์ก็ไม่เคยเอาชนะไทยได้เช่นเดียวกัน

 

มาถึงศึก ซีวีลีก เวียดนามคว้าเหรียญเงินมา 6 สมัยติด ตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน และทุกครั้งที่เจอกับไทย ก็จะเป็นฝ่ายปราชัยให้สาวไทยทุกครั้งไป ล่าสุดคือ ซี วี ลีก 2025 สนาม นครราชสีมา

 

 

แต่เมื่อกลับมาเล่นในบ้าน สนามสุดท้ายของปี เวียดนาม ก็แผลงฤทธิ์ โดยเฉพาะดาวตบตัวแบกทีมอย่าง “ตู้เย็น” เหงียน ทิ บิค เตวียน และ “4ที” ทราน ธิ ทาน ทุย โดยเฉพาะ “ตู้เย็น” ทะยานตบ 2 คะแนนสุดท้าย พาเวียดนามชนะไทย 16-14 ในเซตตัดสิน

 

พร้อมทำสถิติกดไปถึง 40 คะแนนในแมตซ์เดียว กลายเป็นเบอร์หนึ่งของทีมไปแล้ว

 

ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ทำให้ เวียดนาม คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก พร้อมรับรางวัล 16,000 ดอลลาร์ ส่วนไทยคว้ารองแชมป์เป็นครั้งแรกเช่นกัน พร้อมเงินรางวัล 13,000 ดอลลาร์

 

ส่วน ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ได้อันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ นอกจากแชมป์ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ยังได้สิทธิ์ ไปแข่งขันรายการ “เอวีซี เนชั่นส์ คัพ” ในปีหน้านี้อีกด้วย

 

หลังเสร็จศึกรายการนี้มาติดตามผลงานของทั้งสองทีมได้ต่อในศึกชิงแชมป์โลก 22 สิงหาคมถึงวันที่ 7 กันยายน โดยเวียดนามแข่งรอบแรกที่สนามจังหวัดภูเก็ต

 

ส่วนสาวไทยปักหลัก อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ก็ต้องมาปรับจูนและเรียกความฟิตของดาวตบตัวหลักให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เพราะเป้าหมายในศึกชิงแชมป์โลกคือต้องเข้า 16 ทีมสุดท้าย

 

ดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างแน่นอน !!

 


stadium

author

อนุชิต อินทรสุวรรณ

StadiumTH Content Creator / ผู้เสพติดทุกชนิดกีฬา

โฆษณา