14 กรกฎาคม 2568
ท่ามกลางความระทึกใจในการแข่งขันเกมชี้ชะตาของทีมลูกยางสาวไทยในการพบกับ แคนาดาของศึกวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2025 นัดสุดท้าย
สถานการณ์บีบให้ไทยต้องได้อย่างน้อย 1 แต้ม คือจำนวนได้ 2 เซต เพื่อหนีตกชั้น และเริ่มต้นได้ดี จากชัยชนะในเชตแรก 25-17 ก่อนจะมาเสียใน 2 เซตต่อมา 23-25 และ 28-30
หลังพิงฝาในเซตที่ 4 หากไม่สามารถเก็บเซตได้ก็จะพ่ายแพ้และตกชั้นทันที
แต่ในที่สุด ในขณะที่เกมบดบี้กันมาถึงท้ายเกมและไทยขึ้นแท่น 24-23 เป็น "เพียว" อัจฉราพร คงยศ กัปตันทีมที่มาพลิกฟอร์มในเกมสุดท้ายตบเต็มข้อผ่านบล็อก แคนาดา และพยายามรับ แต่บอลไม่ข้ามตาข่าย ไทย ชนะ 25-23 ตีเสมอ 2-2 เซต รอดตกชั้นด้วยความระทึก
ก่อนอื่นมาย้ำกันอีกครั้งว่า เกมนัดนี้และ 2 เซตที่ไทยต้องทำให้ได้มีความหมายเพียงใด
หลังจาก เกาหลีใต้ แข่งครบ 12 นัดจบไปก่อนสาวไทย แม้จะมี 5 คะแนนเท่ากันแต่เซตได้เสียและผลต่างของคะแนนดีกว่าไทย ทำให้สาวพลังโสมจึงอยู่ในอันดับ 17 ทิ้งให้ไทยจมบ๊วยอันดับ 18 เป็นการอยู่อันดับสุดท้ายครั้งแรกในปีนี้ และหากไม่มีแต้มในการเจอแคนาดา ก็จะเป็นทีมบ๊วยตกชั้นทันที
แม้ในความจริง ไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่ในอันดับนี้ ไทยเคยรั้งบ๊วยมาก่อนเมื่อปี 2021 ในปีที่หกเซียนไม่ได้ซ้อมร่วมกันเลย หลายคนคิดรีไทร์ทีมชาติ แต่ต้องไปทำหน้าที่แทนทีมชุดเดิมเนื่องจากติดโควิด แต่ชุดนั้นก็ยังเอาชนะ เยอรมนี 3-1 และ แคนาดา 3-0 แต่ก็แพ้ไปถึง 10 นัด จบอันดับสุดท้าย แต่สถานะอยู่ในฐานะทีมหลักที่ไม่มีการตกชั้น ก่อนกฏข้อนี้จะถูกยกเลิกในปีล่าสุด
อีกมุมหนึ่งในศึกเนชั่นส์ลีก ที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อทีมลูกยางสาวไทยชุด "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล สร้างผลงานได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน ด้วยการคว้าอันดับ 8 ในเนชั่นส์ลีกปี 2022 จากผลงานยอดเยี่ยมชนะถึง 5 นัด
นักตบชุดนั้นมีรายชื่ออยู่ในชุดปัจจุบันที่แข่งขันในสนาม 3 อยู่ 6 คน คือ ศศิภาพร จันทวิสูตร, อัจฉราพร คงยศ, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ปิยะนุช แป้นน้อย , พรพรรณ เกิดปราชญ์ และ ธนัชชา สุขสด
โดยตลอดช่วงการแข่งขันเนชั่นส์ลีก จำนวน 12 นัด 3 สนามในปีนั้น สาวไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะ 5 นัด โดยสร้างชื่อถล่มแบบไม่เสียเซตในการชนะ บัลแกเรีย 3-0,แคนาดา 3-0 และ เกาหลีใต้ 3-0 ก่อนเฉือนยอดทีมอย่าง เซอร์เบีย 3-2 และ จีน 3-2 เซต
อีกทั้งความพ่ายแพ้ 7 นัดยังเป็นแบบได้เซต คือ บราซิล 1-3, สาธารณรัฐโดมินิกัน 1-3, เบลเยียม 2-3, โปแลนด์ 2-3 และ สหรัฐอเมริกา 1-3 มีเพียง 2 ทีมที่ไทยไม่ได้เซตคือแพ้ญี่ปุ่น 0-3 และ อิตาลี 0-3
น่าเสียดายรอบสุดท้ายต้องดวลเจ้าภาพ ตุรกี และต้านไม่ไหวพ่ายไปแบบสู้ได้ 1-3 เซต ทำให้จบเส้นทางการแข่งขัน ด้วยอันดับ 8
ก่อนเกมสำคัญสถานการณ์ของทีมชาติไทยกดดันอย่างหนัก เพราะหากตกชั้นโอกาสกลับขึ้นมาถือว่า ยากมาก
นอกเหนือจากการยกเลิกกฏทีมหลักเนชั่นส์ลีกไม่ต้องตกชั้นในปีนี้ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ เอฟไอวีบี ยังได้ปรับระบบการจัดอันดับโลกโดยให้มีผลทันที ด้วยเหตุผลเพื่อความยุติธรรม ยืดหยุ่น และรองรับการแข่งขันระดับภูมิภาค
สาระสำคัญ 2 ประการ คือ ปรับกฎการส่งทีมเข้าแข่งขัน หากทีมใดเข้าร่วมสองรายการพร้อมกัน จะนับคะแนนเฉพาะจากรายการที่ใหญ่กว่า ส่วนทีมอื่นจะถูกนับคะแนนได้ตามปกติ
ประการสอง เดิมหากทีมใดไม่เข้าร่วมการแข่งขันในช่วง 2 ปี จะถูกหัก 50 คะแนน แต่ตามกฎใหม่ เอฟไอวีบี จะให้คงสถานะ "เคลื่อนไหว" หากมีการเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ จะไม่โดนหัก
หมายความว่าจะทำให้ทุกทีมทุกระดับมีโอกาสเก็บคะแนนได้มากขึ้น
หากตั้งคำถามตามมาว่า แล้วเมื่อไหร่ทีมไทยจะคืนสู่สังเวียน เนชั่นส์ลีก ได้อีกครั้ง
แน่นอนว่าหากตกชั้น ในปี 2026 ปีหน้านี้ ไทยจะไม่ได้ลงแข่งขันเนชั่นส์ลีก 1 ปี ซึ่งต้องใช้ช่วงเวลานี้หารายการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกให้ได้มากที่สุด เพื่อกลับมาเป็น “ทีมที่มีอันดับโลกดีที่สุดที่ไม่ได้ลงแข่งขันเนชั่นส์ลีก 2026” เพื่อจะได้กลับมาในปี 2027
หากมองลึกถึงการเก็บคะแนน บอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นทีมอันดับโลกดีที่สุด หากนับ ณ เวลานี้ผลพวงแห่งความพ่ายแพ้ใน เนชั่นส์ลีก มา 10 นัด ทำให้คู่แข่งสำคัญ อย่าง เปอร์โตริโก ยูเครน และ อาร์เจนตินา ทำคะแนนแซงไทยขึ้นไปแล้ว ส่วนทีมที่ต่อท้ายอันดับโลกจากไทย อาทิ บัลแกเรีย, สวีเดน, โคลอมเบีย, เคนยา, คิวบา, สโลวีเนีย และเวียดนาม ตามมาติดๆ
ยิ่งไปกว่านั้นทีมเหล่านี้ร่วมสังฆกรรม วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ระหว่าง 22 สิงหาคม - 7 กันยายน ในประเทศไทย หากทำผลงานดีสวนกับทีมชาติไทยโอกาสจะหนีไปไกลก็ยิ่งสูงขึ้นตามเงา
แถมยังเข้าทางทีมมาแรงในอาเซียน อย่าง เวียดนาม เพราะมีโอกาสเก็บคะแนนจาก ชิงแชมป์โลก และ ซี วี ลีกส์ (SEA V.League) ในขณะที่ทีมไทยหมดโอกาสได้คะแนนเพิ่มแม้จะไปถึงแชมป์ เพราะได้เข้าแข่งขันศึกเนชั่นส์ลีก รายการที่ใหญ่กว่า ตามกฏใหม่ล่าสุดของ เอฟไอวีบี มีเหลือเพียงรายการชิงแชมป์โลก ที่จะทำคะแนนเพิ่มได้หากมีชัยชนะ
เมื่อมองถึงปีหน้า 2026 ช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวคะแนนยังได้โอกาสจากศึก เอวีซี เนชั่นส์ คัพ และ ซี วี ลีกส์ รวมถึงรายการ ชิงแชมป์เอเชีย 2026 ซึ่งถือว่าต้องลุ้นเหนื่อยมากและโอกาสที่จะกลับมายากเย็นแสนเข็ญจริงๆ
หลังสู้กันเกือบ 3 ชั่วโมง แม้ ไทยจะพ่ายแพ้ แคนาดา 2-3 เซตด้วยคะแนน 25-17, 23-25, 28-30, 25-23, 13-15 แต่จาก 2 เซตที่ได้ทำให้มีเพิ่ม 1 คะแนน แซงเกาหลีใต้ ทำให้ทีมเพื่อนรักตกชั้นไปแทน
ก่อนเกมถือเป็นเรื่องดี เมื่อสาวไทยทีมอันดับ 20 ของโลก หลังจบเกมพ่าย โดมินิกัน ได้พัก 1 วัน มากกว่า แคนาดา ทีมอันดับ 12 ของโลก ที่ได้พักเพียง 17 ชั่วโมงหลังเกมแพ้คู่ปรับ สหรัฐอเมริกา 2-3 ทำให้มีความสดมากกว่า แต่ด้วยความสูงใหญ่ มีทีเด็ดการบล็อก สาวไทยสู้สุดใจก็ยังเอาชนะไม่ได้ แต่ก็เก็บมา 2 เซต เพียงพอทำให้อยู่รอด
ผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดทีมไทยคือ "กัปตันเพียว" อัจฉราพร คงยศ ที่คืนฟอร์มทันเวลา ทำไป 27 คะแนน โดยได้จากตบ 26 เสิร์ฟเอซ 1 อันดับสองเป็น "บีม" พิมพิชยา ก๊กรัมย์ 23 แต้ม "แนน" ทัดดาว นึกแจ้ง มาตีบอลเร็วทำไป 15 คะแนน และ "ออมสิน" ศศิภาพร จันทวิสูตร ที่เปลี่ยนตัวลงมาเป็นระยะ ทำไป 8 คะแนน
พ่ายนัดนี้ ไทยเสีย 0.85 คะแนน เหลือ 160.42 คะแนน ยังรั้งอันดับ 20 ของโลกเหมือนเดิม แต่ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 17 ของตารางคะแนน มี 6 คะแนนจากชนะ 1 แพ้ 11 นัด รอดการตกชั้น ในขณะที่เกาหลีใต้ชนะ 1 แพ้ 11 เท่าไทย แต่มีแค่ 5 คะแนน ตกชั้นแทนสาวไทย ไม่ได้เล่นเนชั่นส์ลีกปีหน้า
สถานการณ์อันดับโลกล่าสุด หลังจบศึกเนชั่นส์ลีก ไทยอยู่อันดับ 20 ของโลก มีอยู่ 160.42 คะแนน ส่วนทีมอื่นในเอเชียดีที่สุด ญี่ปุ่น อันดับ 4 โลก 352.16 คะแนน จีน อันดับ 5 มีอยู่ 348.79 คะแนน เวียดนาม มาแรงอยู่อันดับ 26 โลก 141.21 ดีกว่า เกาหลีใต้ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 37 มีเพียง 99.53 คะแนน
สาวไทยเดินทางกลับถึงเมืองไทยในคืนวันที่ 15 กรกฎาคม เพื่อเตรียมความพร้อมในการแข่งขันวอลเลย์บอล SEA V League ทั้งสองสนามคือสนามแรกที่นครราชสีมา ระหว่าง 1-3 สิงหาคม และสนามสองที่เมืองวินห์ฟุ๊ก ประเทศเวียดนาม ระหว่าง 8-10 สิงหาคม รวมทั้งการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่าง 22 สิงหาคม-7 กันยายนนี้
ล้วนเป็นภารกิจที่เหนื่อยหนัก แต่อย่างน้อยทีมสาวไทยจะได้กำลังหลักกลับมาอีก 2 คน คือ "บุ๋มบิ๋ม" ชัชชุอร โมกศรี และ "เตย" หัตถยา บำรุงสุข เพื่อทำศึกสำคัญอีก 3 รายการ
อย่าลืมให้กำลังใจและเชียร์สาวไทยกันต่อไป !!
TAG ที่เกี่ยวข้อง