stadium

เส้นทางแชมป์โลกคุณตา สว่าง จันทร์พราหมณ์ ชายวัยเกินร้อย

30 พฤษภาคม 2568

สุขภาพดีสร้างได้ไม่ว่าจะเริ่มต้นที่วัยใดการลุกขึ้นมาออกกำลังกายไม่มีคำว่าช้าเกินไปสำหรับทุกคน นี่คือเรื่องราวของสองพ่อลูกนักกรีฑาอาวุโสไทยจาก การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในวัยเกษียณสู่การเป็นนักกรีฑาอาวุโส เหรียญทอง ระดับโลก

 

 

เริ่มเล่นกีฬาจริงจังในวัยเกษียณ

 

คุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ ชาวจังหวัดระยองได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะนักกรีฑาอายุ 105 ปี ผู้สร้างสถิติใหม่และคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาสูงอายุโลก มาสเตอร์เกมส์ 2025 ที่ไต้หวัน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  

 

ซึ่งสำหรับคนไทยที่รักสุขภาพ หรือชื่นชอบในกีฬาอาจเคยได้ยินชื่อของคุณตาสว่างมาแล้ว เพราะคุณตาคือนักกรีฑาอาวุโสที่สร้างผลงานระดับประเทศมาอย่างมากมาย โดยมีป้าติ๋ม ศิริพรรณ จันทร์พราหมณ์ บุตรสาววัย 73 ปี เป็นคนดูแลและยังไปด้วยในฐานะนักกีฬา ร่วมแข่งขันในสนามเดียวกับคุณพ่อ

 

“ที่มาที่ไปแรกเริ่ม ก็คือคุณพ่อมีเพื่อนรักอยู่ที่จันทบุรีค่ะ ก็แวะไปมาหากันตลอดจนเพื่อนหายไปช่วงหลัง ก็มารู้ว่าป่วยติดเตียง พากันไปเยี่ยมกับคุณพ่อ พอคุณพ่อเห็นก็บอกว่าไม่อยากเป็นแบบนั้น ไม่อยากเป็นภาระใคร ก็เลยพากันมาออกกำลังกาย เริ่มจากเดินสองถึงสามกิโล ซึ่งตอนนั้นคุณพ่ออายุ 90 แล้วค่ะ”

 

ส่วนป้าติ๋มนั้นหลังจากเกษียณอายุจากการเป็นครูที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีเวลาว่าง จึงหันมาออกกำลังกาย เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอก็ก้าวสู่การเป็นนักกีฬา โดยเริ่มต้นจากการแข่งวิ่งก่อนจะมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าและเปลี่ยนเป็นประเภทลาน

 

“ป้าก็แข่งสูงอายุอยู่แล้ว ไปแข่งทั่วประเทศ ตอนไปก็จะมาบอกพ่อ พ่อก็จะบอกว่าอยากไปด้วย แต่เราไม่กล้าพาไป เพราะนั่งรถไกล กลัวพ่อจะนั่งรถไม่ไหว แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งพาพ่อไปขอนแก่นด้วย ปรากฏว่าพ่อชอบ ได้เห็นบรรยากาศคนสูงอายุแข่งกัน จากนั้นจนปี 2560 ที่จันทบุรีเป็นเจ้าภาพ พ่อก็มาบอกว่าอยากแข่ง เลยพามาซ้อมค่ะ“

 

คุณตาสว่างและป้าติ๋มจึงเข้าสู่ช่วงเวลาของการฝึกซ้อม เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่จันทบุรี ใช้เวลาประมาณสองถึงสามเดือน โดยการแข่งขันครั้งแรกในชีวิตนักกรีฑาอาวุโสของคุณตาสว่าง ลงแข่งทั้งหมดสามรายการ ได้เหรียญทองทั้งสามรายการ ในวัย 97 ปี  

 

“ซ้อมสองถึงสามเดือนค่ะ แข่งวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร ทุ่มน้ำหนัก ได้สามเหรียญทอง พ่อก็ชอบมาก บอกว่าอยากแข่งอีก ได้ไปแข่ง ได้ไปเที่ยว ได้เจอคน มีคนมาทักทายมาพูดคุย พ่อบอกว่าชอบมาก ถ้าอยู่บ้านก็เหงา พอได้ไปแข่งมีคนชมว่าแข็งแรงก็มีความสุข“

 

 

สู่การแข่งขันระดับนานาชาติ

 

จากนั้นมาการแข่งขันกรีฑาอาวุโสในประเทศไทย จะได้เห็นสองคู่พ่อลูกป้าติ๋มและคุณตาสว่าง เดินทางไปแข่งขันด้วยกันตลอด เป็นภาพที่น่าประทับใจของสองพ่อลูก จนกระทั่งการแข่งขันครั้งสำคัญ คือ กรีฑาอาวุโสแห่งชาติที่จันทบุรี ในปี 2568 ที่ทำให้สองพ่อลูกก้าวสู่การแข่งระดับนานาชาติ

 

”ที่ผ่านมา ป้ากับพ่อสองคน ก็ไปซ้อมด้วยกัน ไปแข่งด้วยกันตลอด จนถึง กรีฑาสูงอายุปี 2568 พ่อทำสถิติทุ่มน้ำหนักได้ทำลายสถิติเอเชีย ก็เลยได้สิทธิ์ไปแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้ ป้าก็ไม่เคยคิดนะว่าจะมาไกลขนาดนี้ ได้ถึงระดับเอเชีย คือตั้งแต่ตอนฝึก ก็ดูแลพ่อแบบใกล้ชิดตลอด คอยดูว่าแข็งแรงขึ้นหรือยัง ก่อนจะให้เริ่มจริงจัง“

 

และความภูมิใจสูงสุดของพ่อลูกคือการได้ติดธงไตรรงค์ที่หน้าอก ลงแข่งขันเวิล์ดมาสเตอร์เกมส์ หรือกีฬาสูงอายุ ชิงแชมป์โลก 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่ไต้หวัน เพราะผลงานจากการแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้

 

“พอไปแข่งเวิล์ดมาสเตอร์เกมส์ที่ไต้หวัน บอกเลยว่าพ่อฮอตมาก คนพูดถึงเยอะมากสื่อพูดถึงเยอะมาก ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยคิดว่าคนอายุ 105 จะทำได้ เพราะลูกทุ่มน้ำหนักหนักสามกิโลเลยนะคะ ทุ่มได้ 4 เมตรกว่า ต่างชาตินี่ทึ่งมาก ไต้หวันก็ใช้ภาพพ่อไปโปรโมต คือสุดยอดเลยค่ะ”

 

 

สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลก

 

ผลการแข่งขันเป็นยิ่งกว่าเหนือความคาดหมายของป้าติ๋มและคุณตาสว่างทั้งประเภทลู่และประเภทลาน โดยคุณตาครองสี่เหรียญทอง จากทุกรายการที่เข้าแข่งขัน การแข่งขันประเภทสุดท้ายคือทุ่มน้ำหนัก หลังจบการแข่งขันคุณตาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ความตั้งใจคือเพื่อแข่งกับตัวเอง

 

“มาแข่งครั้งนี้ก็มุ่งมั่นตั้งใจเหมือนเดิม พยายามแข่งกับตัวเอง ปกติก็ซ้อมสม่ำเสมออยู่แล้ว ชอบที่ได้ออกมาแข่งขัน เพราะได้เป็นโอกาสที่ได้เจอสังคมนักกีฬา หรือรุ่นลูกหลาน ฝากถึงรุ่นหลานขอให้รักษาสุขภาพดีๆ ออกกำลังกายเพื่อจะได้แข็งแรงเหมือนผม”

 

ป้าติ๋มเล่าบรรยากาศระหว่างการแข่งขันทุ่มน้ำหนักซึ่งมีโอกาสได้เกาะขอบสนามใกล้ชิด ว่าสุดแสนจะประทับใจเพราะทุกคนชื่นชมและให้กำลังใจคุณตาสว่างอย่างมาก

 

“ได้ดูพ่อทุ่มน้ำหนักใกล้ๆ คนตบมือเชียร์สนั่นเลยค่ะ กระทั่งกรรมการเลยนะ นักกีฬาด้วยกันก็ด้วย มันตื้นตันมากค่ะ พ่อก็ดีใจมาก แกเป็นคนเวลาแข่งทำเต็มที่ตลอด ทั้งดีใจทั้งภูมิใจค่ะ”

 

 

ความภาคภูมิใจของครอบครัว

 

ขณะที่ป้าติ๋มเองก็ทำผลงานได้เยี่ยมเช่นกันเป็นการสร้างความภูมิใจ สองพ่อลูกกลับประเทศไทยพร้อมกับเหรียญรางวัลทั้งหมด 8 เหรียญ คือ คุณตา 4 เหรียญทองจาก วิ่ง 100 ม. ทุ่มน้ำหนัก พุ่งแหลน และ ขว้างจักร

 

ป้าติ๋ม 2 เหรียญทอง จากทุ่มน้ำหนัก กับ ขว้างจักร 1 เหรียญเงิน จากพุ่งแหลน และ 1 เหรียญทองแดง จาก วิ่งผลัด 4×100 ม.

 

“ถ้าพูดถึงความภูมิใจ ป้าว่าภูมิใจในตัวพ่อมากกว่าตัวเองอีกนะ ที่พ่อทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก ทั้งนักกีฬาทั้งกรรมการ ทั้งคนไต้หวัน และนักกีฬาประเทศอื่น ก็เอารูปพ่อมาโชว์ มาขอถ่ายรูปด้วย คุณพ่อกลายเป็นไอดอล คนไทยเองก็บอกว่ามาออกกำลังกายตามคุณพ่อ เราแทบจะไม่เคยฝัน ไม่เคยคิดเลยว่าคุณพ่อจะมาดังตอนแก่”

 

ป้าติ๋มฝากทิ้งท้ายถึงทุกคนทุกเพศทุกวัย ให้หาเวลาออกกำลังกาย และอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีเวลา นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว หากมีผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัวด้วย ให้พาไปเดินออกกำลังกายด้วยกัน พูดคุยสร้างความสดชื่น สร้างบรรยากาศที่ดี เพื่อให้ผู้สูงวัยอยู่อย่างแข็งแรงด้วยกันไปนานๆ


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

โฆษณา