1 พฤษภาคม 2568
พฤษภาคมนี้เป็นอีกหนึ่งเดือนที่โปรแกรมการแข่งขันของเหล่านักกีฬาไทยนั้นเข้มข้น และน่าติดตามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแบดมินตัน แฟนๆลูกขนไก่ไทยมีโอกาสได้ใกล้ชิดนักกีฬาในดวงใจแบบติดขอบสนามกับศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ทัวร์นาเมนต์ระดับ เวิลด์ ทัวร์ ที่ประเทศไทยจะได้ทำหน้าเป็นเจ้าภาพ
นอกจากนี้ มิ้งค์ สระบุรี และ ใบพัด ศรีราชา สองนักสนุกเกอร์สาวไทยมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตัวเอง เช่นเดียวกับโปรกอล์ฟสาวไทยจะลงแข่งขันศึกใหญ่ในรายการ ยูเอส โอเพ่น ซึ่งเป็นเมเจอร์ที่ 2 ของปีอีกด้วย รวมถึงอีกหลายชนิดกีฬาที่น่าสนใจ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มีโปรแกรมอะไรที่น่าสนใจบ้าง ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
แบดมินตัน
หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับโปรแกรมทีมชาติในศึกสุธีรมาน คัพ 2025 ไปแล้ว ในเดือนนี้บรรดานักตบลูกขนไก่จะกลับมาแข่งขันรายการระดับเวิลด์ ทัวร์ กันอีกครั้ง
พฤษภาคมนี้มีโปรแกรม 4 รายการหลัก ๆ ประกอบด้วย ไทเป โอเพ่น 2025 เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 300 วันที่ 6-11 พฤษภาคม ที่ไต้หวัน, ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 500 วันที่ 13-18 พฤษภาคม ประเทศไทย, มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2025 เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 500 วันที่ 20-25 พฤษภาคม ประเทศมาเลเซีย และ สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 750 วันที่ 27 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน ประเทศสิงคโปร์
ไฮไลท์ของแฟนแบดมินตันไทยคงหนีไม่พ้น ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 โดยสองครั้งหลังสุดนักตบลูกขนไก่ไทยผลงานดี คว้าแชมป์ได้ 3 ประเภท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์ชายเดี่ยว ปี 2023, ศุภนิดา เกตุทอง แชมป์หญิงเดี่ยว 2024 และ จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ รวินดา ประจงใจ แชมป์หญิงคู่ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ร่วมกันได้เป็นรายการสุดท้ายก่อนประกาศอำลาเส้นทางหลังจบโอลิมปิกเกมส์ของทั้งคู่อีกด้วย
นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสอันดีของแฟนกีฬาแบดมินตันที่จะได้เข้าไปยลฝีไม้ลายมือของนักกีฬาระดับชั้นนำของโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นโอกาสที่หาดูได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอีเวนต์ระดับเวิลด์ ทัวร์ ซึ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น เป็นรายการสุดท้ายของปีนี้ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ท่านใดสนใจจับจองบัตรเข้าชมกันได้
ยกน้ำหนัก
ส่งใจเชียร์ยกน้ำหนักไทยกับสองโปรแกรมสำคัญ เริ่มต้นด้วย รายการยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก 2025 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-6 พฤษภาคมนี้ ที่ประเทศเปรู โดยทัวร์นาเมนต์นี้ถือเป็นแมตช์ระดับนานาชาติครั้งแรกของปี และเป็นบททดสอบความพร้อมและศักยภาพของจอมพลังดาวรุ่งไทย ก่อนทำศึกเอเชียนยูธเกมส์ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ประเทศบาห์เรนอีกด้วย
สำหรับรายการนี้นักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 3 คน ณัฐชนน เชิดฉาย, ก้องหล้า พรมดวงศรี, วรพรต นาสุริวงศ์ และนักกีฬาหญิง 3 คน เขมิกา กำเนิดศรี, ธนพร แซ่เตีย เยาวชนหญิง, ภัทรธิดา วงษ์สิงห์
โปรแกรมของนักกีฬาไทยดังนี้ ตามเวลาประเทศไทย
วันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 06.30 น. เขมิกา กำเนิดศรี เยาวชนหญิง รุ่น 45 กก.กลุ่มเอ
วันที่ 2 พฤษภาคม เวลา 01.30 น. ก้องหล้า พรมดวงศรี ยุวชนชาย รุ่น 67 กก.กลุ่มบี
วันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 04.00 น.ธนพร แซ่เตีย เยาวชนหญิง รุ่น 59 กก.กลุ่มเอ, เวลา 06.30น. วรพรต นาสุริวงศ์ เยาวชนชาย รุ่น 81 กก. กลุ่มเอ
วันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 04.00 น. ภัทรธิดา วงษ์สิงห์ เยาวชนหญิง รุ่น 71 กก.กลุ่มเอ
จากนั้นต่อด้วยศึกชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2025 วันที่ 9-15 พฤษภาคม ที่เมืองเจียงซาน ประเทศจีน ซึ่งเป็นแมตช์ที่ทีมชาติชุดใหญ่จะลงแข่งขัน ทั้งนี้รายชื่อนักกีฬาที่จะเข้าร่วมแข่งสามารถติดตามอัพเดตได้ที่เพจ stadiumth ว่าจะส่งใครไปร่วมชิงชัยกันบ้าง
สนุกเกอร์
ส่งท้ายฤดูกาลกันด้วยโปรแกรมสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่างวันที่ 20-25 พฤษภาคม ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ
สำหรับรายการนี้นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา นักสอยคิวสาวไทยสร้างชื่อด้วยการผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตลอด 4 ครั้งหลังสุด ได้แชมป์มา 2 ครั้งจาก "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย แชมป์โลก 2022 และ "ใบพัด ศรีราชา" ศิริภาพร นวนทะคำจัน แชมป์โลกปี 2023
ส่วนปีนี้ทั้งคู่ยังคงมีลุ้นคว้าแชมป์โลกเพิ่มอีกสมัย โดยเฉพาะ "มิ้งค์ สระบุรี" ดีกรีมือ 1 ของโลกคนนี้ผลงานจัดจ้าน นอกจากจะผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์โลกได้ 3 จาก 4 ครั้งหลังสุด ผลงานซีซั่นนี้ก็ยังยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 5 จาก 7 รายการที่ลงแข่ง ในจำนวนนี้ยังคว้าแชมป์มาได้ 2 รายการ โดยหนึ่งความสำเร็จนั้นคือการได้แชมป์โลกสนุกเกอร์อาชีพหญิงซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่โมร็อกโกอีกด้วย
ตะกร้อ
อีกหนึ่งรายการใหญ่ประจำปีของเซปักตะกร้อในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 ระหว่างวันที่ 10-18 พฤษภาคมนี้ ที่ทิติวังซ่า สเตเดียม กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยรายการนี้จัดชิงชัยทั้งหมด 4 ประเภท ประกอบด้วย ตะกร้อ 4 คนชาย, ตะกร้อคู่ชาย, ทีมเดี่ยวชาย และทีมชุดชาย ซึ่งทัพลูกหวายไทยส่งเข้าร่วม 3 ประเภท ตะกร้อคู่ชาย, ทีมเดี่ยวชาย และทีมชุดชาย
สำหรับ 12 ขุนพลของตะกร้อไทยที่จะไปร่วมศึกชิงแชมป์เอเชียในครั้งนี้ ได้เน้นไปที่ผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะได้โอกาสแสดงศักยภาพในระดับนานาชาติ ประกอบด้วย
ตัวทำ : ธนพล ทรัพย์เย็น, วรายุทธ์ จันทรเสนา, บุญคุ้ม ทิพย์วงค์, สุทธิเกียรติ พันแสนแก้ว
ตัวเสิร์ฟ : สิทธิพงศ์ คำจันทร์, ณิชกุล สีหะไกร, จักรกฤษณ์ ถิ่นบางบน, ชัชนันท์ สุวรรณรัตน์
ตัวชง : ยศวัจน์ อุทัยจรูญศรี, สุพศิน บุญเรือง, ศิริศักดิ์ อนุลุน และ วุฒินันท์ คำเสนาะ
ผลจับสลากแบ่งสายในประเภทมีดังนี้
ประเภทคู่ชาย รอบแรก ไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ มาเลเซีย ไต้หวัน และเนปาล
ประเภททีมเดี่ยวชาย รอบแรก ไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย
ประเภททีมชุดชาย รอบแรก ไทย กลุ่มเอ ร่วมกับ จีน, อินเดีย และสิงคโปร์
วอลเลย์บอล
เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ไม่เคยเงียบเหงา มีโปรแกรมให้แฟนลูกยางไทยได้ติดตามเชียร์กันไปตลอดทั้งปี โดยในเดือนนี้เป็นคิวของวอลเลย์บอลในระดับสโมสร กับรายการวอลเลย์บอลเอวีซี แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ วอลเลย์บอลสโมสรชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2025 แข่งขันที่เมืองโอซาก้า-เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-18 พฤษภาคมนี้
สำหรับตัวแทนจากประเทศไทยในปีนี้ได้แก่ นครราชสีมา คิวมินซี วีซี เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน ที่เคยทำผลงานดีสุดในรายการนี้ด้วยการคว้าอันดับ 4 เมื่อปี 2021 ในรอบแรกจะอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ ฟูลัด ซีร์จาน จากอิหร่าน และ ไถจง แบงก์ ทีมจากไต้หวัน
โปรแกรมรอบแรกดังนี้
วันที่ 11 พฤษภาคม : นครราชสีมา คิวมินซี วีซี พบ ซีร์จาน ฟูลาด
วันที่ 12 พฤษภาคม : นครราชสีมา คิวมินซี วีซี พบ ไถจง แบงก์
รอบแรกจะคัดเอา 2 ทีมที่มีผลงานดีสุดของทั้ง 4 กลุ่มผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งแชมป์และรองแชมป์รายการนี้ ยังได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจากทวีปเอเชียเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรชายชิงแชมป์โลกในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย
กอล์ฟ
โปรแกรมนักกีฬาไทยที่น่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี กอล์ฟ แอลพีจีเอ ให้ติดตามเชียร์กันตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะศึกใหญ่สัปดาห์สุดท้าย รายการ ยูเอส โอเพ่น 2025 ซึ่งเป็นรายการเมเจอร์ที่ 2 ของปี เริ่มแข่งวันที่ 29 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน
ที่น่าสนใจ คือการกลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งของ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลก หลังคว้ารองแชมป์ กอล์ฟ เดอะ เชฟรอน แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นรายการเมเจอร์แรกของปีไปเมื่อปลายเดือนเมษายน จากการแพ้ดวลเพลย์ออฟ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เธอไม่อาจคว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่ 3 ในชีวิตมาครองได้ แต่การกลับมาในครั้งนี้น่าจะเพิ่มความมั่นใจก่อนลงแข่งขันในเดือนพฤษภาคม รวมถึง ยูเอส โอเพ่น 1 ใน 2 รายการเมเจอร์ที่เธอเคยได้แชมป์มาแล้วเมื่อปี 2018 อีกด้วย
TAG ที่เกี่ยวข้อง